Toggle navigation
วันพุธ ที่ 12 พฤศจิกายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
ดันแก้ปัญหาราคายางยั่งยืนหนุนรายย่อยชูไทยตลาดกลาง
ดันแก้ปัญหาราคายางยั่งยืนหนุนรายย่อยชูไทยตลาดกลาง
วันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
Tweet
"ยุทธพงศ์" เดินหน้าแก้ปัญหาเสถียรภาพราคายางแบบยั่งยืน ปลื้มโครงการรักษาเสถียรภาพยางสิ้นสุด 30 มี.ค.56 ได้ผลดีเกินคาด เตรียมจับมือกับสมาคมยางพาราไทยเพื่อสนับสนุนเกษตรกรรายย่อย หวังผลักดันไทยเป็น ตลาดกลางซื้อขายแหล่งใหญ่
นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รัฐมนตรี ช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า หลังจากที่โครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายางได้สิ้นสุดลงไปแล้วเมื่อเดือน มีนาคมที่ผ่านมา ในฐานะประธานโครงการฯ ยอมรับว่าโครงการดังกล่าวได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งระยะเวลาเพียง 5 เดือนที่ดำเนินโครงการพบว่าสามารถแก้ไขปัญหา และสามารถผ่านช่วงวิกฤติราคายางตกต่ำที่เกิดขึ้นได้ โดยใช้เงินรัฐบาลจำนวน 5,000 ล้านบาท ในการเข้าไปสนับสนุนเพื่อ ช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อย และเชื่อมั่นว่าตลอดระยะเวลานั้นไม่มีการทุจริตแต่อย่างใด มีความโปร่งใสในการทำงาน โดย ได้มอบหมายให้กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ทำการตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องครบถ้วน และทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทำการเบิกจ่ายเงินแก่เกษตรกรให้รวดเร็วที่สุด
สำหรับแนวโน้มราคายางในอนาคต จากการวิเคราะห์จากสมาคมยางพาราแห่งประเทศไทยคาดการณ์ว่า ราคายางจะปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามกลไกราคาตลาดโลก ซึ่งเป็นช่วงที่ยางพาราขาดตลาด และยางอยู่ในช่วงผลิตใบและฝนตกชุกมาก เกษตรกรไม่สามารถออกกรีดยางได้ อีกทั้งยังมีรายการสั่งซื้อจากต่างประเทศอีกจำนวนมาก แต่ช่วงระยะเวลาสั้นๆ คาด ว่าราคายางจะแตะที่ 95-100 บาทต่อกก.
อย่างไรก็ตาม แม้ขณะนี้ราคายางพาราจะปรับตัวสูงขึ้นอยู่ที่ 110 บาทต่อกก. ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่น่าพอใจ หากเทียบกับราคายางพาราของเดือนก่อน แต่ กระทรวงเกษตรฯ จะยังคงเดินหน้าร่วมมือกับภาคเอกชนเพื่อให้ราคายางมีเสถียร-ภาพ เพื่อให้เอกชนนั้นเข้ามามีส่วนร่วมใน การส่งเสริมศักยภาพยางพาราของไทยให้ มากขึ้น ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ได้กำหนดจะให้มีการประชุมหน่วยราชการ และภาค เอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันพิจารณา ถึงแนวโน้มราคายาง และเจรจาเรื่องทิศ ทางยางพาราในอนาคตและที่สำคัญคือ การ ผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการซื้อขายยางพาราเหมือนกับประเทศอื่นๆ เพราะประเทศไทยถือได้ว่าเป็นประเทศผู้ส่งออกยางพาราอันดับหนึ่งของโลก โดยมีการส่งออกยางพาราต่อปี กว่า 400,000 ล้านตัน ทั้งๆ ที่ประเทศไทยมีตลาดกลางอยู่หลายแห่ง แต่ที่ผ่านมานั้นทางภาครัฐไม่ได้ร่วมมือกับภาคเอกชนเท่าที่ควร
โดยเฉพาะแนวทางในการใช้กลไก ตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) ที่จะทำให้ราคายาง พารามีความยั่งยืน เนื่องจากที่ตลาดล่วงหน้าโตเกียว (TOCOM) ของประเทศญี่ปุ่นนั้นมียางอยู่สต็อกประมาณ 14,000 ตัน แต่ปัจจุบันตลาด (TOCOM) กลับเป็นผู้กำหนดราคายาง และเป็นสถานที่รับซื้อยางจากทั่วโลกทั้งที่มียางอยู่สต็อกน้อยมาก ดังนั้นหากไทยได้เป็นผู้นำการรับซื้อยางเหมือนกับประเทศญี่ปุ่นจะทำให้ประเทศไทยมีศักยภาพและคุณภาพยางพารามากขึ้น และมีการพัฒนาน้ำยางต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
กรมชลประทานติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร...
...
ดัชมิลล์ ผนึกกำลัง กรมส่งเสริมสหกรณ์ จัด...
...
จัดยิ่งใหญ่ AIHEF 2025 พร้อมปักหมุดสมุนไ...
...
"ยันม่าร์" สานต่อความยิ่งใหญ่ จัดงาน “YA...
...
“คต. เปิดมหกรรมสินค้าเกษตรนวัตกรรม AGRI ...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ