หลังจากโครงการพัฒนาธุรกิจโคนมสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนของกรมส่งเสริมสหกรณ์ เกิดขึ้นเพื่อช่วยเหลือสมาชิกและหาแนวทางแก้ไขปัญหาในการประกอบอาชีพเลี้ยงโคนมของสมาชิกสหกรณ์แต่ละแห่ง โดยสหกรณ์โคนมพิมาย จำกัด เป็นอีกสหกรณ์หนึ่งที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าว
ณรงค์ พฤกษาชีพ ประธานกรรมการสหกรณ์โคนมพิมาย จำกัด กล่าวว่า สหกรณ์แห่งนี้ได้ก่อตั้งขึ้นโดยได้รับโครงการพัฒนาโคนมกิจกรรมส่งเสริมโคนมลูกผสมต่างประเทศ มีสมาชิกเริ่มแรก 100 ราย มีโคนมสาวท้อง 500 ตัว จดทะเบียนจัดตั้งสหกรณ์เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2534 ในประเภทสหกรณ์การเกษตร มีทุนดำเนินงานเริ่มก่อตั้ง 10 ล้านบาท สหกรณ์รับซื้อน้ำนมดิบจากสมาชิกวันที่ 15 มกราคม 2535 เป็นต้นมา มีปริมาณน้ำนมดิบเฉลี่ย 3 ตัน/วัน โดยส่งจำหน่าย ให้กับบริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ปัจจุบันสหกรณ์ดำเนินธุรกิจมาครบ 20 ปี
"ที่ผ่านมาสหกรณ์มีการพัฒนาธุรกิจ เพื่อตอบสนองความต้องการของสมาชิกแบบครบวงจร อาทิ ธุรกิจรวบรวมน้ำนม ดิบจากสมาชิก ธุรกิจแปร รูปอาหารสัตว์ (โคนม) ชนิดเม็ด ธุรกิจจัดหาสินค้า ธุรกิจสินเชื่อ ธุรกิจส่งเสริม และให้บริการสมาชิก โดยสหกรณ์คำนึงถึงประโยชน์ที่สมาชิกจะได้รับในการประกอบอาชีพการเลี้ยงโคนม และธุรกิจสหกรณ์มีผลกำไรคืนสู่สมาชิกด้านเงินปันผล เงินเฉลี่ยอย่างทั่วถึง ปริมาณธุรกิจของสหกรณ์เพิ่มขึ้นทุกปี"
ประธานสหกรณ์โคนมพิมาย ระบุอีกว่า สหกรณ์ฯ พยายามหาแนวทางแก้ไข ปัญหาและช่วยเหลือสมาชิกโดยการเข้าร่วมโครงการพัฒนาธุรกิจโคนมสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนของกรมส่งเสริมสหกรณ์ โดยขอรับงบประมาณสนับสนุนในการสร้างฟาร์มเพื่อเลี้ยงโคนมทดแทนของสมาชิก โดยมีหลักการเพื่อสร้างโคนมทดแทนที่มีคุณภาพดีใช้ทดแทนแม่โคนมที่หมดอายุการรีดนม และรองรับการขยายตัวการผลิตน้ำนมของเกษตรกรในพื้นที่ 
ซึ่งโคนมทดแทนดังกล่าวต้องมีระบบการจัดการเลี้ยงดูอย่างถูกต้องตามหลักการจัดการฟาร์มตามมาตรฐานที่สหกรณ์กำหนด ซึ่งสอดคล้องกับมาตรฐานของกรมปศุสัตว์ ซึ่งแหล่งที่มาของลูกโคนั้นต้องเป็นลูกโคนมจากฟาร์มสมาชิก และจะต้องเป็นลูกโคนมสายพันธุ์ดีเพศเมีย ที่สหกรณ์ได้คัดเลือกและจัดทำพันธุ์ประวัติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในหลักการจะมุ่งเน้นการเลี้ยงลูกโคให้ได้น้ำหนักตามมาตรฐาน มีสุขภาพแข็งแรง ประกอบกับการจัดการแปลงหญ้าให้โครุ่นได้แทะเล็มอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้โครงการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อสมาชิกสหกรณ์
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดภาระการบริหารจัดการการเลี้ยงลูกโคนมของสมาชิก ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในฟาร์ม ก่อให้เกิดรายได้ในครัวเรือนเพิ่มมากขึ้น และให้สมาชิกมีโคนมทดแทนในฟาร์มที่มีความสมบูรณ์พันธุ์และได้มาตรฐาน ให้ประสิทธิภาพการผลิตของแม่โคนมในอนาคตของสมาชิกสหกรณ์มีค่าเฉลี่ยที่สูงขึ้น และเพื่อขยายธุรกิจการรวบรวมน้ำนมดิบของ สหกรณ์ และสร้างความมั่นคงของอาชีพการเลี้ยงโคนมของสมาชิกสหกรณ์ให้ยั่งยืนตลอดไป
สำหรับระยะเวลาการดำเนินการตามโครงการนั้น มีระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2556-30 เมษายน 2566 มีที่ปรึกษาโครงการซึ่งประกอบไปด้วยบุคลากรภาครัฐและภาคเอกชน จากบริษัท ฟรีแลนด์คัมพิน่า ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) สมาคมเกษตร กรผู้เลี้ยงโคนมและแปรรูปผลิตภัณฑ์นม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหา-วิทยาลัยขอนแก่น ศูนย์วิจัยการผสม เทียมและเทคโนโลยีนครราชสีมา ศูนย์วิจัยและพัฒนาการอาหารสัตว์นครราชสีมา บริษัท เชียงใหม่เฟรชมิลล์ จำกัด ซึ่งจะให้คำปรึกษาและช่วยเหลือสหกรณ์ในด้านการเลี้ยงลูกโค สุขภาพโคและการจัดการอาหารสัตว์ การปรับปรุงสายพันธุ์และการแก้ปัญหาระบบสืบพันธุ์ ตลอดจนการจัดการ ด้านพืชอาหารสัตว์ ซึ่งจะส่งผลให้มีสหกรณ์มีประสิทธิภาพและมีมาตรฐานในการผลิตน้ำนมดิบมากขึ้น
สำหรับประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการเข้าร่วมโครงการพัฒนาธุรกิจโคนมสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนของกรมส่งเสริมสหกรณ์นั้น คาดว่าสมาชิกสหกรณ์จะมีแม่โครีดนมทดแทนที่มีคุณภาพด้านความสมบูรณ์พันธุ์ และได้มาตรฐาน ซึ่งเป็นแม่โคที่มีประสิทธิภาพการให้ผลผลิตที่ดีในอนาคต สมาชิกประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านการเลี้ยงลูกโค-โครุ่น และด้านแรงงาน ทำให้มีรายได้ในการเก็บออมเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ด้านประสิทธิภาพผลผลิตในฟาร์มของสมาชิกมีค่าเฉลี่ยที่สูงขึ้น เป็นที่ต้องการของตลาดผู้ซื้อภายนอก ลดปัญหาด้านการจัดการดูแลสัดส่วนฝูงโคนมในฟาร์มของสมาชิกสหกรณ์ ที่สำคัญสหกรณ์สามารถเป็นต้นแบบในการเลี้ยงโคทดแทน ที่มีประสิทธิภาพ และเป็นที่ศึกษาดูงานของสหกรณ์และเกษตรกรที่มีอาชีพเลี้ยงโคนมในประเทศไทยหรือในกลุ่มอาเซียนได้