ในบรรดาสหกรณ์ที่มีอยู่ในประเทศไทย สหกรณ์ส่วนใหญ่จะอยู่ในภาคการเกษตร ตั้งขึ้นเพื่อผู้มีอาชีพเกษตรกรรม อาทิ ทำนา เลี้ยงสัตว์ ทำไร ทำสวน เป็นต้น โดยได้วิวัฒนาการมาจากสหกรณ์หาทุนเดิมรวมกับสหกรณ์ประเภทต่างๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับการเกษตรในท้องถิ่นเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน โดยมีวัตถุประสงค์หลายอย่างครอบคลุมครบวงจรการประกอบอาชีพและการดำรงชีพของสมาชิก
อาชีพการเลี้ยงสัตว์ ก็เป็นอีกอาชีพ หนึ่ง ซึ่งมีการรวมตัวกันตั้งเป็นสหกรณ์อย่างเช่น สหกรณ์การเลี้ยงในจังหวัดต่างๆ อาทิ สหกรณ์การเลี้ยงสัตว์ กรป.กลาง โพนยางคำ จำกัด เป็นต้น
และหน่วยงานที่อยู่เบื้องหน้าและเบื้องหลัง ที่ให้การสนับสนุนทั้งด้านวิชาการ และด้านอื่นๆ โดยเฉพาะการวิจัย และพัฒนา ก็คือ "กรมปศุสัตว์"
กว่า 71 ปีแล้วที่กรมปศุสัตว์ มีบท บาทในการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาให้กรมเป็นศูนย์กลางภูมิปัญญาด้านปศุสัตว์ให้ได้มาตรฐานภูมิปัญญาท้องถิ่น สร้างและพัฒนาเครือข่ายด้านปศุสัตว์ให้เข้มแข็ง รวมทั้งพัฒนาและส่งเสริมเพื่อลดต้นทุน เพิ่มรายได้ขยายโอกาสในการประกอบอาชีพด้านการปศุสัตว์ในทุกด้าน อาทิ การสนับสนุนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาดำเนินงานร่วมกับทุกภาคส่วนและเชื่อมโยงกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อให้ครัวเรือนและชุมชนมีความมั่นคงด้านอาหารโปรตีนจากเนื้อ นม ไข่ การพัฒนาพันธุ์สัตว์ การกระจายสัตว์พันธุ์ดีที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มผลผลิตให้เกษตรกร การพัฒนาระบบการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุม บำบัด และชันสูตรโรคสัตว์ที่เป็นปัญหาทางเศรษฐกิจ เช่น FMD PRRS ฯลฯ ให้มีประสิทธิภาพได้มาตรฐาน ลดต้นทุนการเลี้ยงสัตว์ให้เกษตรกร การสร้างและพัฒนาเครือข่ายด้านการปศุสัตว์ให้เข้มแข็ง การส่งเสริมการเพิ่มมูลค่า และราคาสินค้าปศุสัตว์ การพัฒนาระบบการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุม และชันสูตรโรคติดต่อจากสัตว์สัตว์สู่คนให้มีประสิทธิภาพได้ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับการปศุสัตว์ของประเทศโดยการพัฒนากำลังการผลิตที่มีประสิทธิภาพ โดยปรับโครงสร้างการผลิตให้เข้ากับตลาดการค้า และผลักดันสินค้าปศุสัตว์ไทยสู่ตลาดโลก
นอกจากนี้ กรมปศุสัตว์ยังมีบทบาท และภารกิจสำคัญในการสนองนโยบายสำคัญกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการส่งเสริมและผลักดันโครงการ "สมาร์ท ฟาร์เมอร์" (Smart Farmer) หรือเกษตรกรปราดเปรื่องภาคปศุสัตว์และเร่งรัดพัฒนาภาคปศุสัตว์ไทยในทุกด้านรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในอีก 2 ปีข้างหน้าอีกด้วย
ยุคล ลิ้มแหลมทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงงานนี้ว่า ในวันที่ 5 พฤษภาคมนี้เป็นวันคล้ายวันสถาปนากรมปศุสัตว์ครบรอบปีที่ 71 กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตร และสหกรณ์ จึงได้กำหนดจัดงานมหกรรม ปศุสัตว์แห่งชาติปี 2556 เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบวันสถาปนาและประชาสัมพันธ์ผลงานของกรมปศุสัตว์สู่สาธารณชน ทั้งยัง กระตุ้นให้เกิดการส่งเสริมและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตปศุสัตว์ให้มีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาการและเทคโนโลยีด้านปศุสัตว์ ตลอดจนเป็นเวทีเจรจาทางการค้าปศุสัตว์ในระดับภูมิภาค ประชาคมอาเซียนและระดับสากลด้วย
ภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจมาก มาย อาทิ การจัดแสดงนิทรรศการพระราชกรณียกิจพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยในด้านการปศุสัตว์ นิทรรศการแสดงผลงาน นวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านปศุสัตว์ภายใต้แนวคิด "การปศุสัตว์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม" เช่น การจำลองการเลี้ยงสัตว์แบบเกษตรกรรายย่อย จำลองการทำปุ๋ยชีวภาพ การผลิตไบโอแก๊ส สำหรับเกษตรกรรายย่อยไว้ใช้ในครัวเรือนและระดับอุตสาหกรรม การจำลองฟาร์มมาตรฐานการเลี้ยงโคเนื้อ โคนม สุกร และฟาร์มสัตว์ปีก การจำลองโรงฆ่าสัตว์ที่ได้รับมาตรฐาน ทั้งยังมีนิทรรศการโครงการเขียงสะอาดและรถโมบายแล็ปที่กรมปศุสัตว์ใช้ออกภาคสนาม
ด้านอธิบดีกรมปศุสัตว์ นายสัตวแพทย์ทฤษดี ชาวสวนเจริญ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ยังมีการจัดประชุมวิชาการปศุสัตว์ระดับนานาชาติในหัวข้อ "การเกษตรและปศุสัตว์ไทยในยุคเศรษฐกิจสีเขียว" ซึ่งจะรวมนักวิชาการชั้นนำทั้งภาครัฐและเอกชน มีการนำเสนอผลงานวิจัย และผลงานทางวิชาการ เพื่อการพัฒนาปศุสัตว์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดมลภาวะและผลิตอาหารที่ปลอดภัยสู่ผู้บริโภคขณะเดียวกันยังมีการเปิดตลาดและออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ครบวงจรกว่า 200 ร้านค้า ลดราคาถูกกว่าท้องตลาดถึง 50% มีทั้งเนื้อวัว เนื้อสุกร เนื้อไก่ และไข่ไก่ เป็นต้น
ในโอกาสที่กรมปศุสัตว์ครบรอบวันสถาปนา 71 ปี จึงมีการจัดงาน "มหกรรมปศุสัตว์แห่งชาติ หรือ Thailand Green Livestock Expo 2013" ขึ้น พร้อมโชว์นวัตกรรมปศุสัตว์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และขนทัพสัตว์พันธุ์แปลก มาให้ชมเพียบ แถมเปิดขายผลิตภัณฑ์สินค้าปศุสัตว์ราคาถูก ระหว่าง 1-5 พ.ค.นี้ ที่ฮอลล์ 7-8 อิมแพ็ค เมืองทองธานี จ.ปทุมธานี