สกว.ปั้นศูนย์วิจัยฯหนุนปลูกมะละกอ (จบ)

วันอังคารที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2556

สกว.ปั้นศูนย์วิจัยฯหนุนปลูกมะละกอ (จบ)


จบไปแล้วหนึ่งตอนกับเรื่องราวของมะละกอสายพันธุ์ครั่งเนื้อเหลือง ซึ่งฉบับที่แล้วเราได้พาผู้อ่านไปรู้จักบางเรื่องบางตอน ของมะละกอสายพันธุ์ใหม่นี้ ที่เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่เคยได้ยินได้ฟังจากใครที่ไหน มาก่อน โดยเฉพาะลักษณะเด่นของพันธุ์คือ ผิวร่องตื้น หนามาก มีความทนทานต่อการ เกิดโรคใบจุดวงแหวนมากกว่าพันธุ์ครั่งเนื้อแดง ลูกยาวรี เนื้อกรอบ เมื่อสุกเนื้อไม่เละ เนื้อสีขาวขุ่น รสชาติหวาน และไม่แข็งกระด้าง ผลจากต้นตัวเมียมีลักษณะรูปร่างผลยาวต่างจากมะละกอพันธุ์อื่นๆ คุณภาพของเนื้อเหมาะต่อการบริโภคผลดิบ และจากการที่ได้พูดคุยกับ "รศ.ดร.จันทร์จรัส เรียวเดชะ" ผู้อำนวยการ ฝ่ายเกษตรสกว.นั้น เธอบอกว่า โครงการมะละกอนี้เป็นหนึ่งในงานวิจัยที่ สกว.ได้สนับสนุนมาอย่าง ต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ.2551 ครอบคลุมการศึกษาในด้านการคัดเลือกพันธุ์ และระบบการผลิตเมล็ดพันธุ์มะละกอ การคัดเลือกมะละกอสายพันธุ์ครั่งเนื้อเหลืองเพื่อบริโภค สด และทนทานต่อโรคใบด่างจุดวงแหวน และระบบการผลิตมะละกออย่างยั่งยืน ตลอดจนการจัดทำคู่มือมะละกอไทย สถาน-ภาพด้านสายพันธุ์ ระบบการผลิต และการ ตลาด ซึ่งผลงานบางส่วนสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเป็นรูปธรรม และเกิดการ ขยายผลการนำเมล็ดพันธุ์มะละกอที่ได้พัฒนาขึ้นไปส่งเสริมการปลูกเพื่อการบริโภค สดยังพื้นที่ต่างๆ กว่า 22 จังหวัดทั่วประเทศ
ทั้งนี้ ผลสำเร็จที่ผ่านมาได้ก่อให้เกิดการขยายผลการใช้ประโยชน์ในการนำเมล็ด พันธุ์ไปปลูกให้แก่เกษตรกรทั่วประเทศ และ ในช่วงน้ำท่วมปี 2554 ได้เกิดความร่วมมือกับจังหวัดมหาสารคามในการขยายและ ส่งเสริมเมล็ดพันธุ์และกล้าพันธุ์มะละกอที่พัฒนาได้ ให้เกษตรกรนำไปปลูกเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้หลังการทำนาในทุกอำเภอ ของจังหวัดมหาสารคาม อีกทั้งเกษตรกรในอีกหลายจังหวัดทั่วประเทศ ได้ให้ความสนใจในการติดต่อขอซื้อเมล็ดพันธุ์เพื่อขยาย พื้นที่ปลูก
ฉบับนี้เรากลับมาสนทนากันต่อ รับรองว่ายังมีเรื่องราวที่น่าสนใจเช่นเดิม โดยเฉพาะการตั้งเป้าของมะละกอพันธุ์นี้ ซึ่ง "รศ.ดร.จันทร์จรัส" ได้เล่าต่อว่า "จากความสำเร็จดังกล่าว สกว.จึงเห็นควรสนับสนุนโครงการ "ศูนย์วิจัยและพัฒนามะละกอบริโภคสด จังหวัดมหาสารคามและกลุ่มอีสานตอนกลาง" ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง สกว.และมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ซึ่งเราตั้งเป้าไว้ว่าจะใช้ระยะ เวลาในการดำเนินการ 3 ปี ปีละ 2 ล้านบาท รวมแล้วเป็นวงเงิน 6 ล้านบาท (ฝ่ายละ 3 ล้านบาท) เพื่อพัฒนาสายพันธุ์มะละกอบริโภคสด การสร้างฐานพันธุกรรม การพัฒนาระบบผลิต การต่อยอด และขยายผลวิจัยในจังหวัดมหาสารคามและกลุ่มอีสานตอนกลาง โดยเป้าหมายสำคัญของความร่วมมือในครั้งนี้ ก็เพื่อสนับสนุนการพัฒนาอาชีพการปลูกมะละกอบริโภคสดในเชิงการค้า และเพื่อความมั่นคงทางอาหารของพื้นที่"
"ขณะนี้มะละกอพันธุ์ครั่งเหลือง ถือได้ว่ามีศักยภาพในเชิงอุตสาหกรรมมาก สกว. จึงให้ความสนใจและกำหนดโจทย์วิจัย เพื่อให้ได้ความรู้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการผลิต การตลาด เราให้การสนับสนุนงานวิจัย อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่เกษตรกรและเพื่อให้เกิดความยั่งยืน และเราจะต้องช่วยกันคิดด้วยว่าตลาดมีความต้องการตัวสินค้า ซึ่งก็คือผลมะละกออย่างไร เราจะนำอะไรไปขายในตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเพื่อสร้างโอกาสให้กับเกษตรกรของไทย ให้เกิดความมั่นคงทางอาหารและอาชีพของเกษตรกรอย่างยั่งยืน"
"เราหวังว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นในการทำงานร่วมกัน ในมิติการพัฒนางานวิจัยด้านมะละกอเพื่อการบริโภคสดอย่างครบวงจร เป็นที่พึ่งทางวิชาการ การเผยแพร่ข้อมูล การผลักดันผลงานวิจัยและการถ่ายทอดองค์ความรู้สู่เกษตรกร ชุมชน ภาคอุตสาหกรรม และหน่วยงานรัฐต่อไป"
มาฟังความคิดเห็นของ รศ.สมชาย วงศ์เกษม อธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏ มหาสารคามกันบ้าง รศ.สมชายกล่าวว่า "ปัจจุบันความต้องการบริโภคมะละกอมีปริมาณเพิ่มขึ้นมากทั้งในรูปแบบการบริโภค ผลดิบ ผลสุก รวมไปถึงการส่งโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อแปรรูปเป็นผลไม้กระป๋อง แต่จากปัญหาของโรคไวรัสด่างวงแหวนในมะละกอที่แพร่ระบาดไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ โดยเฉพาะในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นแหล่งปลูกมะละกอ ที่สำคัญ ส่งผลให้พื้นที่ปลูกมะละกอลดลงเป็นอย่างมาก และส่งผลโดยตรงต่อปริมาณการผลิตผลมะละกอสดของทั้งประเทศ และส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ใช้มะละกอเป็นวัตถุดิบ"
"เรายินดีที่ทาง สกว.เล็งเห็นความสำคัญดังกล่าว จึงได้สนับสนุนโครงการวิจัย มะละกอให้กับมหาวิทยาลัยราชภัฏมาตั้งแต่ ปี 2551 จนถึงปัจจุบันโดยมี รศ.ดร.รภัสสา จันทาศรี เป็นหัวหน้าโครงการ ซึ่งสามารถพัฒนาสายพันธุ์มะละกอที่มีความเหมาะสม ต่อการบริโภคผลดิบ มีความทนทานต่อโรค ใบด่างจุดวงแหวนและมีความสามารถในการปรับตัวได้ดีในพื้นที่มหาสารคามนี้ก็คือ สายพันธุ์ครั่งเนื้อเหลือง หรือศรีราชภัฏ และ ในปี 2557 เราได้รับการสนับสนุนงบประมาณ จากจังหวัดมหาสารคาม ปีละ 1.9 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 4 ปี เพื่อต่อยอดโครงการวิจัยสู่ชุมชนด้วย"
ส่วนข้อดีของมะละกอสายพันธุ์ครั่งเนื้อเหลือง หรือศรีราชภัฏนั้น รศ.ดร.รภัสสา จันทาศรี หัวหน้าโครงการวิจัย กล่าวว่า "มะละกอสายพันธุ์ครั่งเนื้อเหลืองหรือที่เรียก ว่าศรีราชภัฏนี้ เรากำลังขอรับรองพันธุ์ จดทะเบียนเพื่อโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อพันธุ์ให้เป็นพันธุ์มะละกอประจำจังหวัดมหาสารคาม ถ้าเป็นผลดิบเนื้อมะละกอจะมีสีขาวขุ่นเหมือนมะละกอสายพันธุ์อื่น แต่จะมีความกรอบมากกว่ากรอบแบบเหมาะสำหรับทำส้มตำ และแม้ว่าจะเก็บจากต้นมาแล้วสัก 1 อาทิตย์หนึ่งเนื้อก็ยังคงกรอบอยู่ และตัวเนื้อมันเองก็มีความหวานเล็กน้อย ซึ่งจะอร่อยมากเมื่อทำส้มตำ และเมื่อผลสุก แล้ว เนื้อจะมีสีเหลืองออกส้มนิดๆ รสหวาน นิดๆ จะไม่หวานจัดซึ่งผู้ป่วยที่ต้องจำกัดการ บริโภคน้ำตาลก็สามารถทานได้ และเนื้อก็ยัง กรอบอยู่ก็สามารถนำไปทำส้มตำได้เช่นกัน และจากการพัฒนาสายพันธุ์มะละกอครั่งเหลืองนี้ก็ทนทานต่อโรคใบด่างจุดวงแหวน ปลูกได้ตลอดทั้งปีและให้ผลดกกว่าสายพันธุ์อื่น 2-3 เท่าตัว"


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ