นายมานพ แก้ววงษ์นุกูล ประธานวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตมะม่วงส่งออก กล่าวว่า สถานการณ์การส่งออกมะม่วงในปัจจุบัน มีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังเป็นที่ต้องการของตลาดใหม่ๆ ในต่างประเทศเพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งจากเดิมประเทศผู้นำเข้ารายใหญ่แบบเจ้าประจำ คือ ประเทศญี่ปุ่นที่ครองตลาด การส่งออกมะม่วงของไทยมาเป็นเวลานานหลายปี มียอดความต้อง การให้ส่งออกไปเพิ่มมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีกก็ตาม แต่ในขณะนี้ยังได้มีการสั่งซื้อมะม่วงเพื่อนำเข้าจากประเทศเกาหลีที่มียอดของการเติบโตทางการตลาดสูงมากยิ่งขึ้นไปในทิศทางเดียวกันกับญี่ปุ่นด้วยอีกประเทศหนึ่ง ซึ่งถือเป็นตลาดใหญ่ของการส่งออกมะม่วงไทยอีกแหล่งหนึ่ง
"สำหรับในปีนี้การผลิตมะม่วง จะมีปัจจัยที่ส่งผลทำให้เกิดความเปลี่ยน แปลงต่อการผลิตรอบด้าน จึงทำให้สามารถผลิตมะม่วงได้ล่าช้าลงมาเป็นเวลาเกือบ 1 เดือน แต่ก็ได้ส่งผลดีทำ ให้ผลผลิตทยอยออกมาสู่ตลาดโดยที่ไม่ทะลักพร้อมกันจนล้นตลาดจึงทำให้ผลผลิตมะม่วงในปีนี้ได้ราคาดี เกษตรกรขายผลผลิตได้ราคาเพิ่มมากขึ้น"
ด้านนายศักดา ขันติพะโล ประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์ชมรมชาวสวนมะม่วงจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวถึงพัฒนาการของเกษตรกรในการผลิตมะม่วงส่งออกว่า ขณะนี้ผลผลิตมะม่วงของเกษตรกร มีพัฒนาการที่ทันสมัย โดยที่ผู้บริโภคจะสังเกตเห็นว่ามะม่วงทุกผลที่ผลิตออกมาจากสหกรณ์ฯ จะมี "QR CODE" (Quick Respons) ติดทุกผล ซึ่งจะเป็นช่องทางที่สามารถทำ การตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งต้นตอการผลิตในทันที เมื่อสแกนด้วยโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ทุกรุ่นที่เป็นสมาร์ทโฟน ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค