Toggle navigation
วันพุธ ที่ 12 พฤศจิกายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
ดึงกระบี่นำร่อง "ถนนยางพารา" หวังแก้ปัญหาเสถียรภาพราคายาง
ดึงกระบี่นำร่อง "ถนนยางพารา" หวังแก้ปัญหาเสถียรภาพราคายาง
วันจันทร์ที่ 08 เมษายน พ.ศ. 2556
Tweet
ยางพาราและผลิตภัณฑ์ยางพารา นับเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญลำดับต้นๆ ของประเทศ สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศปีละมหาศาล แต่เนื่องจากที่ผ่านมาประเทศไทยพึ่งพาการส่งออกยางพาราเป็นหลัก ส่งผลให้ราคายางของประเทศผันผวนไปตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศผู้นำเข้า รวมทั้งที่ผ่านมายางพาราที่ส่งออกส่วนใหญ่อยู่ในรูปของวัตถุดิบหรือยางแปรรูปอย่างง่ายทำให้มีความเสี่ยงทางด้านราคาและเสียโอกาสทางด้านมูลค่าเพิ่ม
จากหลายปัจจัยดังกล่าว "โครงการถนนยางพารา" จึงเกิดขึ้นจากที่รัฐบาลหันมาผลักดันการส่งเสริมให้ใช้ยางพาราในประเทศมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการเพิ่มเสถียรภาพด้านราคายางของเกษตรกรในประเทศในระยะยาว
ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รัฐมนตรีช่วย ว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานอนุกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์การเพิ่มมูลค่ายางพาราไทย ได้กล่าวถึงโครงการนี้ว่า ถนนยางพารานับเป็นหนึ่งภายใต้มาตรการที่สำคัญของรัฐบาลในการสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ยางพาราและแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำในระยะยาว โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ขานรับนโยบายดังกล่าว ด้วยการเร่งแต่งตั้งคณะทำงานส่งเสริมการใช้ยางในประเทศพร้อมเดินหน้าในการศึกษา ข้อดี-ข้อเสียในการสร้างถนนยางพาราผสมแอสฟัลต์ ตลอดจนศึกษาเส้นทางที่เหมาะสมในการก่อสร้างอย่างรอบคอบในทันที
กระทั่งต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาได้มีการประชุมคณะอนุกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์การเพิ่มมูลค่ายางพาราไทย ที่ประชุมได้ มีมติให้มีการแต่งตั้งคณะทำงานการส่งเสริมการใช้ยางในประเทศ(การใช้ยางพาราผสมแอสฟัลต์ทำถนน) เพื่อจัดหา พื้นที่ใหม่ที่เหมาะสมในการทำถนนโดยใช้ยางพาราผสมแอสฟัลต์ เนื่องจากเดิมมีการกำหนดพื้นที่โครงการก่อสร้างถนนดังกล่าวเพื่อทำการวิจัยในบริเวณ จ.นคร ศรีธรรมราช แต่พบปัญหาเกี่ยวกับประเด็นกรรมสิทธิ์ที่ดินจึงทำให้ไม่สามารถดำเนินการตามที่วางไว้ได้ สำหรับ แนวทางในการกำหนดเส้นทางใหม่ ที่ประชุมได้มีหลักเกณฑ์ให้คณะทำงานฯ คัดเลือกเส้นทางที่มีปริมาณจราจรหนาแน่น มีรถบรรทุกหนักใช้งาน ควรเป็นพื้นที่ท่อง เที่ยว และมีการปลูกยางในบริเวณใกล้เคียง โดยกำหนดให้เป็นพื้นที่จ.ภูเก็ตหรือจังหวัดใกล้เคียง
"จากหลักเกณฑ์ที่กำหนด คณะทำงานฯ จึงได้นำเสนอต่อที่ประชุมว่า เห็นควรเลือกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 44 อ่าวลึก-บางสวรรค์ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ กม. 4+500-กม. 21+400 ผิวจราจรกว้าง 11 เมตร รวมระยะทาง 17 กม. โดยมีปริมาณ จราจรเฉลี่ย 5,300 คัน/วัน และรถบรรทุก หนัก 500 คัน/วัน ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักทางหลวงกระบี่ (สุราษฎร์ ธานี) กรมทางหลวง"
และเมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา ยุทธพงศ์พร้อมคณะอนุกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์การเพิ่มมูลค่ายางพาราไทย ได้นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่สำรวจทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 44 เส้นทางถนนสายอ่าวลึก-บางสวรรค์ ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ระหว่างกิโลเมตรที่ 4+500 ถึงกิโลเมตรที่ 21+400 รวมระยะทาง 17 กิโลเมตร เพื่อสำรวจพื้นที่นำร่อง โครงการก่อสร้างถนนด้วยยางพาราผสมแอสฟัลต์แห่งแรกของประเทศ โดยมีนายประสิทธิ์ โอสถานนนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายสมศักดิ์ กิตติธรกุล นายก อบจ.กระบี่ หัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมสำรวจ
สำหรับเส้นทางอ่าวลึก-บางสวรรค์ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ นับเป็นเส้นทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศอีกเส้นทางหนึ่ง และเป็นโครงการถนนยางพาราสู่ระดับนานา ชาติแห่งแรกของประเทศ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นโครงการนำร่องเพิ่มมูลค่ายางพาราของไทยได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ เนื่องจากประเทศไทยจะมีการจัดงาน ASEAN Rubber Day ในวันที่ 10-12 เมษายน 2556 นี้ ที่จ.ภูเก็ต โดยจะมีผู้เข้าร่วมงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องยางพาราจำนวนมากทั้งภาครัฐและเอกชน จากทั้งในและต่างประเทศ จึงเป็นโอกาสอันดีที่ประเทศไทยจะได้ ประชาสัมพันธ์โครงการถนนยางพาราสู่ระดับนานาชาติอีกด้วย
โครงการนี้ นับได้ว่าเป็นมาตรการสำคัญที่น่าจับตามอง เพราะถือเป็นแนว ทางสำคัญที่รัฐบาลมุ่งหวังที่จะต้องการแก้ปัญหาราคายางตกต่ำให้เกษตรกรชาวสวนยางรวมไปถึงสหกรณ์ชาวสวนยางแบบระยะยาวให้เป็นผลสำเร็จ รวมทั้งต้องการเดินหน้ารักษาเสถียรภาพราคายางของประเทศให้เกิดความยั่งยืนในอนาคต
หากโครงการถนนยางพาราประสบ ความสำเร็จ และผลศึกษาออกมาว่ามีความทนทานกว่าถนนปกติ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้วางแผนเตรียมที่จะเสนอคณะรัฐมนตรี ให้ใช้ยางในสต็อกของรัฐบาลที่มีอยู่ประมาณ 2 แสนตัน นำมาใช้ในการซ่อมบำรุงถนนของกรมทาง หลวงทั่วประเทศ (ปกติจะมีการซ่อมประมาณ 5 หมื่นกม./ปี)
และถ้าโครงการดังกล่าวเป็นไปตามเป้าหมาย เชื่อมั่นว่าในอนาคตเสถียรภาพราคายางของประเทศจะมีความเข้มแข็งและยั่งยืนตามมาอย่างแน่นอน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
กรมชลประทานติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร...
...
ดัชมิลล์ ผนึกกำลัง กรมส่งเสริมสหกรณ์ จัด...
...
จัดยิ่งใหญ่ AIHEF 2025 พร้อมปักหมุดสมุนไ...
...
"ยันม่าร์" สานต่อความยิ่งใหญ่ จัดงาน “YA...
...
“คต. เปิดมหกรรมสินค้าเกษตรนวัตกรรม AGRI ...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ