Toggle navigation
วันจันทร์ ที่ 7 กรกฎาคม 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
"เฮียปิก สุโขทัย" เผยเคล็ดเพาะนกกรงสี (1)
"เฮียปิก สุโขทัย" เผยเคล็ดเพาะนกกรงสี (1)
วันพุธที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2556
Tweet
ทีมข่าวเกษตรสยามธุรกิจ ได้มีโอกาสเดินทางไปเมืองสุโขทัยแวะเวียนไปพูดคุยกับเซียนนกกรงประเภทสี หรือนกกรงหัวจุกแฟนซี "คุณเสกสรรค์ ไทยรุ่งโรจน์" หรือที่ทุกคนเรียกว่า "เฮียปิก สุโขทัย" ซึ่งถือว่าเป็นเซียนเรื่องการเพาะขยายพันธุ์นกกรงหัวจุกสีสันสวยงามและแปลกๆ มากมาย จนมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่ยอมรับในกลุ่มของผู้เพาะเลี้ยงนกกรงหัวจุกแฟนซี
การเดินทางไปที่ฟาร์มนกกรงหัวจุกแฟนซีแห่งนี้ไปไม่ยาก เพราะตั้งอยู่บนถนนบายพาส ต.บ้านกล้วย อ.เมือง จ.สุโขทัย เมื่อมาถึงจะสังเกตเห็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้นครึ่ง และป้ายร้านฮั้วการไฟฟ้า ซึ่งเป็นร้านของเฮียปิก พอทีมงานฯ เดินทางไปถึงก็ต้องตกตะลึงพร้อมกับประหลาดใจมากเพราะด้านหน้าเป็นร้านประดับยนต์และบริการรถตู้ให้เช่า ภายในมีถ้วยรางวัลมากมายที่ได้จากการประกวดนกกรงหัวจุก แต่พอย่างเท้าก้าวผ่านไปหลังอาคารก็จะพบกับกรงนก และนกกรงหัวจุก สีสันสวยงามแปลก ตาเป็นจำนวนมาก พร้อมกับเจอ "เฮียปิก" กำลังยืนดูนกและคอยให้การต้อนรับอยู่
การสนทนาเริ่มขึ้นหลังจากที่ทั้งสองแนะนำตัวอย่างเป็นทางการเรียบร้อย โดย "เฮียปิก" เล่าให้ฟังว่า "เดิมทีผมไม่ได้เลี้ยงนกกรงหัวจุกเลย เพิ่งมาเลี้ยงได้ประมาณ 10 กว่าปี มีพรรคพวก เพื่อนพ้องเลี้ยงอยู่ก่อนซึ่งนำนกที่เลี้ยงมาขังรวมกัน เมื่อได้ไปเห็นก็รู้สึกสงสาร จึงขอเพื่อนมาเลี้ยง 10 กว่าตัว พอได้เลี้ยงรู้สึกเสียงไพเราะ จึงต้องการจะขยายพันธุ์ต่อไป ดังนั้นจึงคุยกับพรรคพวกว่าตัวเองอยาก จะเพาะพันธุ์นกกรงหัวจุก ซึ่งก็ไม่มีใครเชื่อว่านกประเภทนี้จะเพาะพันธุ์ได้ แต่ผมเชื่อว่าสัตว์มีชีวิตทุกชนิดสามารถเพาะพันธุ์ได้ทั้งนั้น จึงหันมาทดลองเพาะพันธุ์ เรียนผิดเรียนถูกด้วยตนเอง จนถึงปัจจุบันเพาะพันธุ์มา 12-13 ปี จากที่เลี้ยงมาได้ 15-16 ปี จนมีใบครอบครองนกกรงหัวจุก"
มาถึงตรงนี้ "เฮียปิก" ได้พูดถึงปัญหาช่วงแรกตอนที่หันมาเพาะเลี้ยงนกว่า "ในช่วง 2-3 ปีแรกของการเพาะพันธุ์ผมรู้สึกว่า นกกรงหัวจุกเพาะพันธุ์ ยากมาก เพราะเป็นนกที่หวาดระแวง ตกใจง่าย ไม่สามารถรบกวนได้เลยหากมีอะไรรบกวนนกจะเขี่ยไข่ทิ้งหรือ จิกลูกตายทันที ซึ่งผมทำการศึกษา พฤติกรรมและลองผิดลองถูกอยู่เกือบ 3-4 ปี จนรู้ว่าต้องทำอย่างไรไม่ให้นกตกใจหรือระแวง ซึ่งวิธีแก้คือทำกรงให้อยู่ห่างจากคนหรือเสียงรบกวน และต้องพยายามไม่เข้าไปรบกวนนกเลยขณะผสมพันธุ์"
"ช่วงแรกยังมีปัญหาเพราะเพียงแค่ 3 วันนกก็ตาย จากนั้นจึงเฝ้าดูพฤติกรรมของนกกรงที่อยู่ ใน กรงเพาะพันธุ์ จำนวน 15 กรง โดยการเจาะรูเล็กๆ หลังกรงเพาะ เพื่อแอบดูพฤติกรรมของนก ทั้งนี้ ได้ศึกษาพฤติกรรมของนก อยู่นานพอสมควรจนทำให้รู้ว่าเมื่อพ่อแม่นกป้อนอาหารแก่ลูกนกนั้นจะคายน้ำลายลงไปในปากลูกนกประมาณ 3-4 หยด ก่อนที่จะป้อนอาหาร เพื่อช่วยในการย่อยอาหารของลูกนก ซึ่งจากการทดลองกับนกกรงที่ตาย แล้วโดยการนำมีดคัตเตอร์ผ่าท้องนกที่ตายแล้ว ปรากฏว่าหนอนไม่ย่อยจนเหม็นเน่าในท้อง จึงทำให้ยิ่งมั่นใจว่าสาเหตุที่ลูกนกตายภายใน 3 วัน หลังจากแยกออกจากพ่อแม่นกแล้วนำมาป้อนหนอน นกเอง เพราะลูกนกที่เพิ่งเกิดใหม่ ระบบน้ำย่อยในตัวนกยังไม่พอ ทำให้ไม่สามารถย่อยได้เหมือนนกตัวโตๆ ดังนั้นการป้อนหนอนนกจากเดิมที่ป้อนเป็นตัวๆ จึงต้องเปลี่ยนวิธีใหม่โดยการนำหนอนมาสับละเอียดคล้ายหมูบะช่อ แล้วจึงค่อยป้อน เพื่อให้ง่ายต่อการย่อยอาหารของลูกนก"
"เฮียปิก" ได้บอกเทคนิคการคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์ว่า "สำหรับการคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์ จะเน้นการเพาะพันธุ์ให้ได้ก่อน ซึ่งก็จะไม่เน้นนกตัวใหญ่ จะเลือกพ่อแม่พันธุ์ที่ตัวเล็ก เพราะนกสามารถทำให้ตัวใหญ่ได้ภายหลังด้วยการป้อนหนอนนก และพ่อแม่พันธุ์ที่ดีควรมีอายุ ประมาณ 1 ปี ซึ่งถือเป็นนกรุ่น สาเหตุที่เลือกนกรุ่นนั้นเพราะจากการสังเกตการเพาะพันธุ์นกรุ่นนั้นจะได้ลูกนกมากกว่าพ่อแม่พันธุ์ที่มีอายุมาก อาจจะมาจากเพราะนกแก่จะมีลูกยาก ซึ่งนกรุ่นอายุ 1 ปีจะได้ลูกนก 10-11 คอกต่อปี"
"ส่วนการเตรียมกรงเพาะพันธุ์นั้นจะใช้กรงขนาดใหญ่ เป็นแบบกึ่งธรรมชาติ มีต้นไม้จริงให้นก สาเหตุที่ใช้กรงแบบนี้เพราะเป็นการจำลองแบบธรรม-ชาติ นกจะไม่จิกกันตาย เพื่อมีพื้นที่กว้าง ขวางสามารถบินหนีได้ ขนาดของกรงเพาะพันธุ์ต้องกว้าง 1.50 เมตร ลึก 3.60 เมตร สูง 2.50 เมตร มีหลังคาให้แสง แดดสามารถส่องผ่านเข้ามาได้ เพราะธรรมชาติของนกกรงต้องการแสงแดดต้องอาบแดด โดยนกจะต้องตากแดด 09.00-12.00 น.ทุกวัน นอกจากนี้ภายในกรงเพาะพันธุ์ต้องมีขันน้ำใส่น้ำไว้ 6-8 ใบใหญ่ๆ เพื่อให้นกอาบน้ำ โดยนกจะลงอาบน้ำช่วง 14.00 น. หรือ 15.00 น. ทุกวัน หรือวันเว้นวันก็ได้ และนำตะกร้า สาน 3-4 ใบ ไปแขวนไว้บนต้นไม้และมุมต่างๆ เพื่อให้นกได้เลือกจะทำรัง และ ใบสนแห้งไปใส่ไว้ให้นกทำรัง และด้านหลังกรงต้องมีช่องไว้แอบดูพร้อมกับไว้คอยให้อาหารนกเพื่อไม่ต้องเข้าไปกวนนกในกรง"
เรื่องราวของการเพาะขยายพันธุ์นกกรงหัวจุกแฟนซี ยังไม่จบ อดใจไว้รอตอนหน้ายังมีสาระและเรื่องราวที่รับประกันว่าน่าติดตามอีกมากมาย โดยเฉพาะเทคนิคการผสมสีนกให้ออกมาสวยงาม แล้วพบกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
"สมาคมสินแร่และวัสดุก่อสร้าง" หนุน ครม. ...
...
“นวัตกรชุมชน” ยกระดับเศรษฐกิจฐานรากขับเค...
...
สศก. ร่วมประชุมองค์กรย่อยภายใต้ UNFCCC ณ...
...
สศก. มุ่งพัฒนาข้อมูลเอกภาพด้านการเกษตร ส...
...
สศท.8 เผยผลศึกษาการเพิ่มมูลค่าวัสดุเหลือ...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ