2 ยักษ์ ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ประกาศเดินหน้ารุกทำตลาดอีคอมเมิร์ซในไทยมูลค่าตลาดกว่า 3 แสนล้านบาท “ลาซาด้า” เผยผู้ใช้งานทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เติบโตถึง 100 ล้านรายต่อปี ชู 3 กลยุทธ์หลักสร้างการเติบโตของธุรกิจ เปิดตัวแคมเปญ Surprise Birthday Sale ฉลองวันครบรอบ 9 ปี ด้าน ‘ช้อปปี้’ ประกาศรีแบรนด์ดิ้ง ปรับโฉม-ยกระดับ AirPay ภายใต้ชื่อใหม่ ShopeePay พร้อมเปิดมหกรรมช้อปปิ้งออนไลน์ Shopee 4.4 Mega Shopping ลุยส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ปูทางสู่สังคมไร้เงินสด
*** “ลาซาด้า” เผย ยอดผู้ใช้งานพุ่ง 100 ล้านรายต่อปี ชู 3 กลยุทธ์หลักสร้างการเติบโตธุรกิจปีนี้ ***
นางสาวธนิดา ซุยวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายธุรกิจ บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า ลาซาด้าเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2555 ใน 6 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย และได้สนับสนุนผู้ประกอบการไทยและให้บริการการช้อปปิ้งออนไลน์ที่เหนือระดับกับนักช้อปชาวไทยมาโดยตลอด จนครบรอบ 9 ปีในปีนี้ ด้วยการบุกเบิกและสร้างสรรค์นวัตกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบโลจิสติกส์สำหรับอีคอมเมิร์ซ แนวคิดช้อปเปอร์เทนเมนต์ เทคโนโลยีไลฟ์สตรีมมิง และบริการเก็บเงินปลายทาง (COD) ที่เราได้สนับสนุนผู้ค้า แบรนด์ ร้านค้า ผู้ซื้อ ต่าง ๆ ซึ่งถือว่าเราลาซาด้าเป็นหนึ่งในฐานะผู้นำตลาดอีคอมเมิร์ซในไทย ที่ช่วยคลับเคลื่อนภาพรวมอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซในไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยปัจจุบันเรายังเป็นหนึ่งนำที่มีผู้ใช้งานด้านแอปพิเชคชั่น และในด้านยอดการสั่งซื้อ ซึ่งล่าสุดลาซาด้ามียอดผู้ใช้งานจากทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พิ่มมากขึ้นถึง 100 ล้านรายแล้ว เทียบจากปีที่ผ่านมาในช่วงปลายปีที่แล้วมียอดอยู่ผู้ใช้งานอยู่ที่ 80 ล้านคน และปีที่ผ่านมายอดขายเติบขึ้น 2 เท่า
อย่างไรก็ตาม จากแผนดำเนินธุรกิจในปีที่ผ่านมาเราได้มีนวัตกรรมใหม่ ๆ ไม่ว่าจะในเรื่องของรูปโฉมใหม่อย่าง Lazmall ที่เปรียบเสมือนห้างสรรพสินค้าออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งตอนนี้ในเมืองไทยเราได้มีแบรนด์ที่ได้มาเปิดการขายกับเรามากว่า 1,000 แบรนด์แล้ว ซึ่งตรงนี้ให้ความมั่นใจได้เลยว่าผู้ซื้อของแบรนด์จาก Lazmall กับทางเราเป็นของแท้ 100 % นอกจากนี้ เรายังได้เปิดตัวพรีเมี่ยมมอลล์ที่จะมีสินค้าหลากหลาย อาทิ เครื่องสำอาง สกินแคร์ เครื่องไฟฟ้า และแฟชั่น ที่จะเป็นสินค้าแบรนด์ระดับพรีเมี่ยม สินค้าราคาค่อนข้างสูง ซึ่งเจาะกลุ่มคนที่มีรายได้สูงที่ไม่ได้รับผลประทบจากภาวะเศรษฐกิจมากนัก และแบรนด์แฟชั่นไทยที่มาเปิดในแพลตฟอร์มเรา เป็นต้น
สำหรับภาพรวมตลาดอีคอมเมิร์ซในไทยปีนี้เรามองว่าจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องแม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 อาจจะดีขึ้น โดยเมื่อในปีที่ผ่านมาช่วงล้อคดาวน์ส่งผลให้เรามีผู้ใช้ใหม่โตขึ้น 2 เท่า และจากภายหลังจากการล้อคดาวน์นั้น จนถึงปัจจุบันนี้ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปและเคยชินกับการช้อปปิ้งผ่านออนไลน์มากขึ้นแล้ว เพราะง่ายและสะดวกสบาย แม้ว่าขณะนี้เราจะไม่ได้ล้อคดาวน์แล้วแต่สินค้าในกลุ่มตกแต่งบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า ออกกำลังกายยังมียอดขายโตอย่างต่อเนื่อง
ผู้บริหารสาว กล่าวต่อว่า สำหรับปีนี้เราได้วาง 3 กลยุทธ์หลักเพื่อปูทางสู่การเติบโตก้าวต่อๆ ไปอย่างแข็งแกร่งเพื่อร่วมเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลให้กับประเทศไทย ลาซาด้า ประกาศ 3 กลยุทธ์หลักในการดำเนินธุรกิจในปี 2564 ประกอบด้วย 1.Customer first “ลูกค้ามาก่อน” ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับแรก พัฒนาต่อยอดจากค่านิยมหลักขององค์กร ลาซาด้าจะเดินหน้ามอบประสบการณ์อีคอมเมิร์ซที่ดีที่สุดให้กับทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ ด้วยศักยภาพด้านเทคโนโลยีและโลจิสติกส์ที่ได้รับการสนับสนุนจากอาลีบาบา 2. Brand differentiation กลยุทธ์การสร้างความแตกต่าง รักษาและพัฒนาความสัมพันธ์กับแบรนด์และผู้ขาย ไปพร้อมๆ กับการสนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจไปด้วยกันกับลาซาด้า ด้วยระบบวิเคราะห์ข้อมูล เครื่องมือ และโซลูชันต่างๆ เช่น Sponsored Discovery ที่ช่วยเพิ่มการมองเห็นสินค้าและกระตุ้นยอดขายให้ร้านค้าบนแพลตฟอร์ม 3. Continuous fundamental improvement เดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น เทคโนโลยี โลจิสติกส์ นวัตกรรม โซลูชัน และเครื่องมือเพื่อสนับสนุนผู้ขายและแบรนด์อย่างต่อเนื่องและสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน พร้อมส่งมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ดีกว่าให้กับผู้บริโภค
ล่าสุด เพื่อฉลองวันเกิดครบรอบ 9 ปี ลาซาด้าเตรียมมอบดีลสุดพิเศษที่พลาดไม่ได้ให้นักช้อป กับแคมเปญ Surprise Birthday Sale ระหว่างวันที่ 27-29 มีนาคม 2564 โดยเราได้ตั้งเป้าโตเป็น 15 เท่า จากในช่วงปกติที่ไม่มีแคมแปญ และตั้งเป้าโต 2-3 เท่าเทียบจากแคมแปญที่ผ่าน ๆ มา อีกทั้ง เรายังเปิดโครงการ LazadaForGood ในเดือนเมษายนปี พ.ศ. 2563 เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่บุคลากรทางการแพทย์และองค์กรไม่แสวงผลกำไรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสาธารณสุข เริ่มต้นจากเพียง 3 มูลนิธิ ปัจจุบัน LazadaForGood มีมูลนิธิที่เข้าร่วมโครงการแล้วถึง 22 มูลนิธิ และสร้างยอดบริจาคทางออนไลน์แล้วมากกว่า 1.4 ล้านบาท เพื่อต่อยอดความสำเร็จดังกล่าว ลาซาด้าจึงได้ยกระดับแพลตฟอร์ม LazadaForGood ขึ้นอีกขั้น
*** ‘ช้อปปี้’ รีแบรนด์ดิ้ง ปรับโฉม-ยกระดับ AirPay ภายใต้ชื่อใหม่ ShopeePay หนุนกระตุ้นเศรษฐกิจดิจิทัล ***
สุชญา ปาลีวงศ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด ช้อปปี้ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ขณะนี้เราได้ทำการปรับภาพลักษณ์และยกระดับแพลตฟอร์มการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ AirPay (แอร์เพย์) ภายใต้ชื่อใหม่ ShopeePay(ช้อปปี้เพย์) อย่างเป็นทางการเพื่อต้องการสร้าประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ดีกว่าเดิมให้กับผู้บริโภค ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจระยะยาวและพันธกิจของช้อปปี้ ที่มุ่งสร้างความแข็งแกร่งให้แก่อีโคซิสเต็ม ผ่านการบริการที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีในการยกระดับคุณภาพชีวิตผู้คนและการดำเนินธุรกิจให้สามารถเติบโตได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม ช้อปปี้เพย์ ผู้ให้บริการกระเป๋าสตางค์ออนไลน์ (Mobile Wallet) บนช้อปปี้ ตอบทุกไลฟสไตล์การใช้จ่าย มุ่งส่งมอบบริการ การทำธุรกรรมทางการเงินดิจิทัลที่ง่ายดาย ปลอดภัยและครบครัน ผู้ใช้งานสามารถใช้บริการเติมเงินมือถือ ชำระบิล ซื้อตั๋วหนัง ช้อปปิ้งออนไลน์ บริการโอน/ถอนเงิน และอื่นๆ รวมไปถึงการชำระเงินในช่องทางออฟไลน์ด้วย QR Code ผ่านฟีเจอร์ Scan & Pay และบริการค้นหาดีลส่วนลดสุดพิเศษบนฟีเจอร์ Deals Near Me ช่วยค้นหาดีลสุดคุ้มภายในบริเวณใกล้เคียง ได้ง่ายๆ สำหรับผู้ใช้งานรับสิทธิพิเศษและโปรโมชันมากมายบนช้อปปี้ ช้อปคุ้มทุกออเดอร์กับส่วนลดมากมายทั้งออนไลน์และออฟไลน์
“การขยายตัวอย่างต่อเนื่องของธุรกิจ อีคอมเมิร์ซในประเทศไทย เป็นหนึ่งในปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เกิดการเร่งปรับตัวของผู้บริโภคและการพัฒนาการอย่างก้าวกระโดดของการชำระเงินทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Payment) ของคนไทย สอดคล้องกับผลสำรวจในช่วงที่มีแคมเปญส่งท้ายปี ที่พบว่า ลูกค้าชำระเงินผ่านช่องทางทางกระเป๋าสตางค์ออนไลน์หรือ ช้อปปี้เพย์ (ชื่อเดิม แอร์เพย์) นั้นมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น เป็นอีกสัญญาณที่ชี้ชัดว่า พฤติกรรมการช้อปปิ้งของคนไทยกำลังมุ่งสู่โลกดิจิทัล โดยระบบชำระเงินดิจิทัลได้กลายเป็นทางเลือกหลักในการชำระเงิน และผู้บริโภคนั้นกำลังเข้ามามีส่วนร่วมกับสังคมไร้เงินสดมากขึ้นเช่นเดียวกัน”
ด้าน ศุภวิทย์ หงส์อมรสิน ผู้อำนวยการ ช้อปปี้เพย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า การเป็นพันธมิตรกับช้อปปี้ ผ่านบริการช้อปปี้เพย์ครั้งนี้ เราจะสามารถช่วยส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจได้ในระยะยาว เนื่องจากแพลตฟอร์มของช้อปปี้มีฐานผู้ใช้งานออนไลน์จำนวนมาก ซึ่งจะช่วยเพิ่มการเข้าถึงร้านค้าบนโลกออฟไลน์ และช่วยให้ธุรกิจ ส่งมอบประสบการณ์ด้านการชำระเงินที่ไร้รอยต่อครอบคลุมทุกช่องทางทั้งออนไลน์และออฟไลน์ โดยหลังจากที่มีการเปิดตัวShopeePay Voucher1 (หรือในชื่อเดิมคือ Scan & Pay Voucher) การทำธุรกรรมผ่านร้านค้าที่ร่วมรายการเติบโตขึ้นถึง 9 เท่า ภายในระยะเวลา 3 เดือน ชูบริการชำระเงินดิจิทัล ส่งมอบประสบการณ์เหนือระดับให้ลูกค้า
ทั้งนี้ ช้อปปี้ ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยให้ความสำคัญในการเป็นแพลตฟอร์มโมบายเฟิร์ส (Mobile First) หรือการใช้งานผ่านมือถือ เป็นหลัก มีความเข้าใจในทุกไลฟ์สไตล์การช้อปปิ้ง รวมถึงความต้องการของผู้ใช้งานที่ต้องการทำธุรกรรมต่างๆ และการชำระเงินด้วยโทรศัพท์มือถือ กลยุทธ์ความร่วมมือกับ ช้อปปี้ ครั้งนี้ จะเข้ามาเสริมประสบการณ์การช้อปปิ้ง ในหลากหลายมิติและส่งมอบบริการที่ครอบคลุม นักช้อปจะได้รับความสะดวกสบาย ที่มากับพร้อมความเชื่อมั่นในระบบ ที่ปลอดภัย และตัวเลือกสิทธิประโยชน์มากมาย ผ่านการชำระเงินอย่างง่ายดายบนโทรศัพท์มือถือ