สะบัดร้อนสะบัดหนาว : by ณรงค์ ปานนอก

“ความอยุติธรรมต่อคนคนหนึ่ง หมายถึง อันตรายแก่คนทั้งหมด” เป็นข้อคิดของ มองเตสกิเออร์ ที่กล่าวมานานเนแล้ว ส่วนจะสะท้อนไปถึงใครบ้าง ก็แล้วแต่จะนำไปใส่ใจ

แต่กรณีเด็กนักเรียนผู้หญิงคนหนึ่งถูกข่มขืนแล้วจับโยนทิ้งจากรถไฟตายอย่างอำมหิต แล้วเกิดกระบวนการสร้างกระแสไล่ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย แถม คสช.ก็หยิบไปเป็นประเด็นออกคำสั่งปลดผู้ว่าการการรถไฟอย่างฉับพลันทันด่วนนั้น เป็นเรื่องที่ถูกต้อง ถูกเวลาหรือมีความยุติธรรมหรือไม่

ก็เกิดความรู้สึกที่ไม่ดีต่ออำนาจเบ็ดเสร็จไม่น้อย

เมื่อกระแสเงียบๆ ผุดให้ได้ยินทันทีว่า กรณีทหารชั้นผู้น้อยบางคนไปข่มขืนเด็กสาวที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จนเป็นข่าวรู้ๆ กัน

ผู้บังคับบัญชาสูงสุด ควรจะถูกคำสั่งปลดด้วยหรือไม่?

สิ่งนี้ได้เกิดการเปรียบเทียบและสะท้อนไปสู่สังคมอย่างช่วยไม่ได้ว่า “อำนาจ” ถ้าใช้อย่างขาดความยุติธรรม มันก็จะเป็นอันตรายและสร้างความเสื่อมแก่ผู้คนมากขึ้นๆ

นี่ผมมองแค่สามัญสำนึกของคนที่มีใจเป็นกลางเท่านั้นนะ

แล้วมันก็จะพาลไปคิดถึงเรื่อง มัวแต่มองความผิดของคนอื่น โดยไม่ย้อนกลับไปดูตัวเองว่าใช้อำนาจอย่างไม่รอบคอบ และมีความผิดด้วยหรือไม่

เพราะปราชญ์ทั้งในอดีตและปัจจุบันก็ให้ข้อคิดเรื่องความยุติธรรมอยู่เรื่อยมา เช่น เอลินอร์ รูสเวลท์ ก็กล่าวเป็นอมตะวาจาว่า “ความยุติธรรม มิพึงให้กับฝ่ายใดฝ่ายเดียว แต่จำต้องให้กับทุกฝ่าย”

แม้แต่คำสั่งของ คสช.เองบางฉบับ ก็ระบุชัดถึงกระบวนการยุติธรรมว่า ขอให้พิจารณาตัดสินอย่างเท่าเทียมกัน ไม่เลือกที่รักมักที่ชังมิใช่หรือ

มันสามารถเอาไปพูด-วิจารณ์ได้แทบทุกเรื่อง แม้แต่การห้ามแสดงความเห็นทางการเมืองในห้วงเวลานี้ แต่ คสช.กล้าหรือสั่งให้คนของพรรคประชาธิปัตย์หยุดแสดงความเห็นทางการเมืองได้หรือไม่

พรรคประชาธิปัตย์เองก็เถอะ ทีอย่างนี้ ไยไม่ออกมาเต้นแร้งเต้นกาทำปีกกล้าขาแข็งให้เก่งจริงๆ ละว่า ต่อต้านเผด็จการ

หรือรู้อยู่แก่ใจดีว่า เป็นฝ่ายกวักมือเรียกมาเสียเอง หรือ “ดีแต่พูด”...ขอฮาซักหน่อยเหอะ

สถานการณ์บ้านเมืองที่เป็นอยู่และกำลังเป็นไป ที่หวังจะให้เกิดการปรองดองหรือแก้ไขความขัดแย้งให้ได้นั้น พอเพ่งลงไปลึกๆ แล้ว มันก็ไม่พ้นการแย่งชิงอำนาจ เอารัดเอาเปรียบ การโค่นล้มคนซึ่งไม่ใช่พรรคพวกของตัวเองให้เห็นกันโต้งๆ ไม่เว้นแม้แต่วงการราชการ

มันเห็นแต่ความไม่เท่าเทียมกัน ผุดมากขึ้นๆ เมื่อความอยุติธรรมดำรงขยายมากเท่าไร ความขัดแย้งก็สุมกองเหมือนภูเขาไฟที่คุกรุ่นอยู่ใต้พิภพเป็นธรรมดา

อยุติธรรมระบาด ความบาดหมางก็ก่อตัว...ถ้า คสช.ต้องการความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวทางการเมือง ก็ควรเป็นตัวของตัวเอง ไม่เอนเอียงฟังใครแบบ “หูหนักข้างเดียว”

เดี๋ยวประชาชนก็ให้คะแนนต่ำ 5 จะหวังเต็ม 10 ได้เมื่อไหร่ล่ะครับ!