“เอปสัน” เผย กลยุทธ์ปี 64 เดินหน้าแผนดิสรัปท์ธุรกิจพรินเตอร์ สู่โมเดลบริการเต็มรูปแบบ เจาะองค์กรธุรกิจ ดันเป้าโตเกิน 10%

วันศุกร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2564

“เอปสัน” เผย กลยุทธ์ปี 64 เดินหน้าแผนดิสรัปท์ธุรกิจพรินเตอร์ สู่โมเดลบริการเต็มรูปแบบ เจาะองค์กรธุรกิจ ดันเป้าโตเกิน 10%


นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในปี 2563 ที่ผ่านมาท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจของประเทศที่จีดีพี -6.1% เพราะได้รับผลกระทบหนักจากโรคโควิด-19 ทำให้การอุปโภคบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชนหดตัว ธุรกิจห้างร้านมากมายปิดตัวลง ระบบซัพพลายเชนที่ต้องพึ่งการนำเข้าในหลายธุรกิจหยุดชะงัก แต่ขณะเดียวกันสถานการณ์ดังกล่าวก็ได้เร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสู่เศรษฐกิจดิจิทัลเร็วขึ้น ทำให้มีปัจจัยบวกและโอกาสใหม่ที่สนับสนุนธุรกิจของเอปสัน ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนที่ลดลงจากการใช้แพลทฟอร์มการขายออนไลน์ ขณะที่โรงงานในภาคการผลิตลงทุนใช้เทคโนโลยีเอไอและระบบอัตโนมัติในกระบวนการผลิตมากขึ้น ภาคธุรกิจหันมาใช้โรงงานผลิตและระบบซัพพลายเชนภายในประเทศ โรงพยาบาลทั้งรัฐและเอกชนเริ่มใช้อุปกรณ์ดิจิทัลในขั้นตอนการให้บริการ เช่น การพิมพ์ฉลากยาสี รวมถึงการเกิดใหม่ของธุรกิจบุคคลหรือฟรีแลนซ์จำนวนมาก เช่น การรับจ้างพิมพ์ภาพ ซึ่งทำให้ยอดขายของบริษัทฯ ได้รับผลกระทบน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก

กลุ่มสินค้าของเอปสันที่ทำผลงานได้ดีในปีที่ผ่านมาได้แก่ หุ่นยนต์แขนกล พรินเตอร์ฉลาก พรินเตอร์อเนกประสงค์ สำหรับธุรกิจรุ่น T-Series เครื่องถ่ายเอกสารอิงค์เจ็ท และพรินเตอร์สำหรับธุรกิจมินิแล็บ ขณะที่พรินเตอร์ใบเสร็จ โปรเจคเตอร์ และพรินเตอร์ดอทเมทริกซ์ ที่มีฐานลูกค้าหลักเป็นกลุ่มองค์กรธุรกิจ สถาบันศึกษา โรงแรม และธุรกิจค้าปลีก มียอดขายลดลง เพราะลูกค้าต้องหยุดกิจการหรืองดให้บริการชั่วคราว ในส่วนตลาดอิงค์แท็งค์พรินเตอร์ เอปสันยังครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับหนึ่งที่ 43% ซึ่งทำยอดขายจากช่องทางออนไลน์ได้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2562 เช่นเดียวกับตลาดโปรเจคเตอร์ที่ยังคงรักษาตำแหน่งเจ้าตลาดไว้ได้ด้วยส่วนแบ่งตลาด 33% ในขณะที่ตลาดโดยรวมหดตัวลง 22%

ผู้บริหาร กล่าวต่อ สำหรับทิศทางธุรกิจในปี 2564 นี้ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อธุรกิจของเอปสันยังคงเป็นสถานการณ์ทางการเมืองและการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งหากมีแนวโน้มที่ดี คนไทยสามารถเข้าถึงวัคซีนต้านโควิด-19 ได้อย่างทั่วถึง จีดีพีของประเทศก็น่าจะกลับมาบวก และได้เห็นการลงทุนของภาครัฐกลับมาในช่วงครึ่งปีหลัง รวม ถึงภาคการท่องเที่ยวก็จะเริ่มฟื้นตัวได้ดี สถาบันศึกษากลับมาเปิดทำการ ซึ่งเอปสันก็ได้เตรียมความพร้อมสำหรับการดำเนินธุรกิจด้วยกลยุทธ์เพื่อรุกตลาด B2B โดยภายหลังได้ปรับเปลี่ยนทั้งโครงสร้างและกระบวนการทำงานภายในองค์กร พัฒนาศักยภาพของเครือข่ายตัวแทนจำหน่าย และเพิ่มคุณค่าในส่วนต่างๆ ซึ่งช่วยยกระดับความพึงพอใจและประสบการณ์ที่ดีของลูกค้า โดยตั้งเป้าว่าบริษัทฯ จะกลับมาเติบโตได้ในระดับที่มากกว่า 10% ในปีนี้

ในด้านการจัดโครงสร้างและกระบวนการทำงานภายในองค์กร บริษัทฯ ได้มีการขยายทีมขาย B2B ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด รวมถึงทีมพิเศษที่เน้นเจาะตลาดและดูแลลูกค้าองค์กรญี่ปุ่นโดยเฉพาะ ทั้งยังขยายทีมบริการลูกค้า B2B เพิ่มขึ้น ในด้านการพัฒนาตัวแทนจำหน่าย เอปสันมีการเพิ่มจำนวนตัวแทนที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะตลาด B2B และได้ฝึกอบรมตัวแทนเดิมให้สามารถขยายธุรกิจไปยังตลาด B2B ได้ และในด้านการเพิ่มคุณค่าซึ่งเอปสันยังเน้นการเพิ่มสินค้าใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้องค์กรทุกขนาดในทุกวงการธุรกิจได้เลือกโซลูชั่นที่เหมาะที่สุดกับตัวเอง พร้อมกับจัดกิจกรรมทางการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์เพื่อเพิ่มการเข้าถึงลูกค้าใหม่และตลาดใหม่ ที่สำคัญ บริษัทฯ จะเดินหน้าดิสรัปท์โมเดลธุรกิจในกลุ่มอิงค์เจ็ทพรินเตอร์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าองค์กรในปัจจุบันได้แม่นยำยิ่งขึ้น

นายยรรยง กล่าวทิ้งท้ายว่า เมื่อสิบปีก่อนเอปสันได้ดิสรัปท์เทคโนโลยีอิงค์เจ็ทพรินเตอร์ของตัวเองมาสู่ระบบแท็งค์ และได้ขยายการใช้ระบบดังกล่าวไปในทุกกลุ่มสินค้าพรินเตอร์ ตั้งแต่พรินเตอร์ขนาดเล็ก พรินเตอร์เพื่อธุรกิจ จนถึงพรินเตอร์ระดับมืออาชีพสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถลดต้นทุนการพิมพ์ ประหยัดค่าไฟ ทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ดิสรัปชั่นทางเทคโนโลยีครั้งนั้นได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการการพิมพ์ทั่วโลกและสร้างเอสเคิร์ฟใหม่ให้กับบริษัทฯ ปัจจุบันเอปสันมีอิงค์เจ็ทพรินเตอร์ระบบแท็งค์มากที่สุดในท้องตลาด และสามารถพิมพ์งานทั้งสีและขาวดำด้วยคุณภาพและความเร็วที่เทียบเท่าเลเซอร์พรินเตอร์ และปีนี้ เอปสันจะดิสรัปท์ธุรกิจพรินเตอร์อีกครั้ง โดยมุ่งเปลี่ยนโมเดลธุรกิจจากการขายเครื่องไปสู่การให้บริการแบบเต็มตัว

นอกจากดิสรัปชั่นโมเดลธุรกิจเพื่อให้ธุรกิจของเอปสันสามารถตอบโจทย์ความต้องการและพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้าอยู่เสมอ บริษัทฯ ยังได้สร้าง Epson Virtual Solutions Center เพื่อให้ลูกค้า B2B ไม่เพียงแต่ในประเทศไทย แต่รวมถึงกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และปากีสถาน ที่อยู่ภายใต้การดูแลของเอปสัน ประเทศไทย ได้สัมผัสกับประสบการณ์เสมือนจริงระหว่างการทำความรู้จักกับเทคโนโลยีและ B2B โซลูชั่นของเอปสัน ซึ่งจะแบ่งออกตามประเภทธุรกิจหรืออุตสาหกรรม อาทิ เทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน การพิมพ์ดิจิทัล ร้านค้าปลีก อุตสาหกรรมการผลิต การศึกษา สาธารณสุข และองค์กรธุรกิจ และในเฟสถัดไปจะมีการเพิ่มเติมโซนพิเศษสำหรับลูกค้าโฮมยูสทั่วไปให้ สามารถมาชมสินค้าและพูดคุยกับพนักงานขายทางออนไลน์ได้ทันที โดยได้รับบริการทุกอย่างเหมือนอยู่หน้าร้าน โดยในเฟสแรก Epson Virtual Solutions Center นี้ จะเปิดให้บริการในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ