จากลูกหม้อ "เสาชิงช้า" สู่รองผู้ว่าฯ กทม. "จุมพล สำเภาพล"

วันศุกร์ที่ 03 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

จากลูกหม้อ


ถือว่าเป็นลูกหม้อ กทม.ขนานแท้ เพราะตลอดอายุการทำงาน จุมพล สำเภาพล รับราชการเป็นข้าราชการกรุงเทพ มหานครยาวนานถึง 38 ปี จากวิศวกรระดับ 3 ขยับขึ้นมาระดับ 10 จนกระทั่งถึงตำแหน่งสุดท้ายคือ รองปลัด กทม.และขยับเข้ามาเป็นข้าราชการการเมืองในตำแหน่งรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เมื่อ 3 เมษายน 2556
"จุมพล" ผ่านการทำงานภายใต้การบริหารของผู้ว่าฯกทม.ทั้งที่มาจากการแต่งตั้งและเลือกตั้งถึง 10 คน ซึ่งล้วนเป็นผู้บริหารแถวหน้าขององค์กร แถวหน้าของประเทศ ที่ประสบความสำเร็จแทบทั้งสิ้น เขาได้รับรู้ถึงแนวความคิด ได้รับรู้ถึงแนวทางการบริหารงาน ความเด็ดขาดในการตัดสินใจ และการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นมิซ้ำเรื่อง รวมทั้งบทบาทการเป็นผู้นำที่ดี ประสบการณ์เรื่องราวเหล่านี้ล้วนมีคุณค่าต่อเนื่องมาถึงการทำงานของ "จุมพล"
"ผมโชคดีที่ได้เข้ามาทำงานกับผู้ว่าฯ กทม.ที่มาจากการเลือกตั้งและแต่งตั้ง ที่ผ่านมาได้ซึมซับแนวทางการบริหารงานของบุคคลสำคัญเหล่านี้ ได้นำประสบการณ์ที่เห็นมาใช้ในการประกอบการตัดสินใจการทำงานจนถึงปัจจุบัน เพราะฉะนั้น 38 ปีที่ผ่านมา ผมได้อะไรมามาก คิดว่าจะทำงานจนเกษียณแล้วก็กลับไปอยู่บ้านทำงานเล็กๆน้อยๆ ใช้ชีวิตเหมือนข้าราชการเกษียณทั่วไป"
แต่ความคิดก็ถูกเปลี่ยนเมื่อ "ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร" ผู้ว่าฯ กทม. ชักชวนให้มาร่วมงาน...
"ครั้งแรกที่ได้ยินก็เกิดความคิดขึ้นมาทันทีว่า เราจะทำได้หรือ เพราะปัญหา กทม.เป็นปัญหาที่ใหญ่ และหนัก ต้องดูแล ทั้งความสุข ความทุกข์ การแก้ไขปัญหาของประชาชน แต่คุณชายได้ให้ความไว้วางใจ ให้เกียรติผมมาร่วมงาน ทั้งยังขอให้ผมอย่าไปกังวลว่ามันจะเกินความ สามารถ เพราะสิ่งที่ทำงาน มาตลอดนั้นคือ องค์ความรู้ และประสบการณ์ที่จะมาช่วยในการทำงาน"
คำพูดของผู้ว่าฯสุขุมพันธุ์ ทำให้เขาต้องกลับมาทบทวนแนวทางการดำเนินชีวิตใหม่ ย้อนคิดกลับไปตั้งแต่วันที่เริ่มทำงาน ก้าวแรกที่ได้เดินเข้ามาทำงานยังศาลาว่าการกรุงเทพมหานครจนถึงนาทีที่ครุ่นคิด ความทุ่มเท ความตั้งใจทำงาน ตั้งใจแก้ปัญหาของประชาชนอย่างเต็มความสามารถ และประสบการณ์ที่ผ่านมาน่าจะเป็นประโยชน์ต่อสังคม ต่อบ้านเมืองความคิดดังกล่าวนี้จึงทำให้ "จุมพล" ตัดสินใจลาออกจากราชการมาร่วมงานการเมือง
ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลทั้ง 2 เกิดขึ้นเมื่อสมัย "ดร.พิจิตต รัตตกุล" เป็นผู้ว่าฯกทม.ขณะนั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ รับตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม. กระทั่งต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน "จุมพล" จึงเป็นกัลยาณมิตรที่ได้รับความไว้วางใจให้รับหน้าที่ดูแลหน่วยงานสำคัญ
และในปี 2556 นี้ รองผู้ว่าฯกทม. บอกว่าการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าตาม นโยบายเร่งด่วน โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ความ สะอาด สภาวะสิ่งแวดล้อม ต้องเห็นผล ประชาชนจะได้เห็นไฟฟ้าสว่างในที่สาธารณะ ถนน ตรอกซอย จะได้รับการซ่อมแซม กล้อง CCTV จะติดตั้งในทุกพื้นที่เสี่ยง ชุมชนพิทักษ์ความปลอดภัยจะเกิดขึ้นเพื่อช่วยเหลือกัน และจะไม่มีขยะตกค้างเกิดขึ้น ถนนสายหลัก สายรอง ต้องสะอาด ทางเท้า ทางเดินคนพิการต้อง ราบเรียบ ปลอดภัย ไร้ขยะ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เห็นว่ากรุงเทพมหานครมีความพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยว
ในปีต่อมา กทม.จะดำเนินการปรับปรุงระบบโครงสร้างภาษีใหม่เพื่อให้สามารถเก็บรายได้ตามความเป็นจริง เช่นภาษีธรรมเนียมหัวจ่ายน้ำมัน, ภาษีธุรกิจโรงแรม เป็นต้น เพื่อนำรายได้มาพัฒนาเมืองตามยุทธศาสตร์ 6 ด้าน ประกอบด้วย มหานครแห่งการเรียนรู้ มหานครสีเขียว มหานครแห่งความสุข มหานครแห่งโอกาสของทุกคน มหานครแห่งความปลอดภัย มหานครแห่งอาเซียน มหานครแห่งโอกาสของทุกคน มหานครแห่งความปลอดภัย มหานครแห่งอาเซียน
"บางเรื่องก็ต้องขอรับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลเพิ่มขึ้น หรืออาจ จะต้องมาหารือในการปรับกฎหมายเฉพาะในส่วนของกทม.ให้มีความยืดหยุ่น ออกกฎกระทรวงเฉพาะพื้นที่เพื่อให้กรุงเทพฯ มีรายได้จากการจัดเก็บภาษีมากขึ้น" รองผู้ว่าฯกทม.กล่าว
ระยะถัดมาคือการเร่งรัดโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การสร้างโครงข่ายถนน การเพิ่มขีดความสามารถในถนนสายหลัก และสายรอง ให้สามารถรับปริมาณรถยนต์ เพิ่มขึ้นด้วยการปรับทางกายภาพ ทางร่วม ทางแยกและจุดตัด ทำทางยกระดับ และการเพิ่มขีดความสามารถด้านการบริหารจัดการจราจร เช่น การจัดจังหวะสัญญาณไฟ การจัดวันเวย์ ทูเวย์ การให้มีช่องรถประจำทาง การจัดช่องถนนให้สอดคล้องกับทิศทางการจราจร
ส่วนเรื่องของการบริหารจัดการขยะ กทม.ยังคงเดินหน้ารณรงค์ให้ความรู้เรื่องการคัดแยกขยะในโรงเรียน ชุมชน ผู้ประกอบการ อย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาสามารถลดปริมาณขยะจากเดิม 1.5 กก./คน/วัน เหลือ 1.2 กก./คน/วัน และยังมีแผนปรับขยะให้เป็น Waste Energy หรือ ขยะพลังงาน เพื่อลดปริมาณขยะที่มีอยู่ประมาณ 1 หมื่นตัน/วัน ให้ไปสู่ขบวนการที่จะนำขยะมาเป็นพลังงานในรูปแบบต่างๆ อีกด้วย
นอกจากนั้น เพื่อลดขยะตกค้าง กทม. ยังจะเพิ่มสถานีขนถ่ายขยะให้มากขึ้น เพิ่มปริมาณเที่ยวรถให้สามารถวิ่งได้มากกว่า 2-3 เที่ยว จากปัจจุบันที่วิ่งได้เพียง 1 เที่ยว/วัน เนื่องจากสถานีขนถ่ายขยะตั้งอยู่ไกล
เหล่านี้คือแผนงานที่ จุมพล สำเภาพล รองผู้ว่าฯกทม. จะต้องแบกรับและทำให้เห็นเป็นรูปธรรมภายใน 4 ปี ทุกเรื่องที่กล่าวมาล้วนเป็นงานหิน งานหนัก งานที่ท้าทายความสามารถยิ่งต้องอาศัยซึ่งประสบการณ์ ความชำนาญล้วนๆ เพราะเหตุนี้เขาจึงถูกเลือกให้มาร่วมงานกับ "ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร" ผู้ว่าฯกทม.คนปัจจุบัน


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ