กรมอุทยานฯ เดินหน้าสร้างความรู้ พ.ร.บ.อุทยานฯฉบับใหม่

วันศุกร์ที่ 05 มีนาคม พ.ศ. 2564

กรมอุทยานฯ เดินหน้าสร้างความรู้ พ.ร.บ.อุทยานฯฉบับใหม่


กรมอุทยานฯ เปิดเวทีสัญจร จ.เลย สร้างการรับรู้ ต่อ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติและ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า (ฉบับใหม่) หวังภาคประชาชนจับมือภาครัฐร่วมดูแลทรัพยากรธรรมชาติสู่ความยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “ป่าอยู่ได้... คนอยู่ได้”

ที่โรงเรียนอนุบาลชุมชนภูกระดึง จ.เลย กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดกิจกรรมสัญจรภายใต้โครงการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารเพื่อสร้างการรับรู้ในภาคประชาชนต่อ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 (ฉบับใหม่) และพ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 (ฉบับใหม่)  โดยมี นายรวมศิลป์  มานะจงประเสริฐ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่8 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)  กล่าวว่า เนื่องจากพ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติที่มีอยู่เดิมไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน จึงมีการปรับปรุงให้เหมาะสม โดย พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 (ฉบับใหม่) และพ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 (ฉบับใหม่)  ซึ่งประกาศใช้ไปเมื่อ 25 พฤศจิกายน 2562  แล้วนั้น ได้รับการปรับปรุงเพื่อให้ปฏิบัติการตามภารกิจมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันประชาชนยังใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติได้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดขึ้นมาใหม่ ภายใต้แนวคิด “ป่าอยู่ได้...คนอยู่ได้” และเพื่อสร้างความเข้าใจในเจตนารมณ์ของกฎหมาย  กรมอุทยานแห่งชาติฯ จึงกำหนดให้ดำเนินโครงการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารที่สำคัญเกี่ยวกับกฎหมาย ภายใต้แนวคิด คนสมดุล ป่าสมบูรณ์ โดยการจัดเวทีเสวนาในครั้งที่ 3 นี้ ที่จะสร้างการรับรู้ต่อภาคประชาชน โดยเฉพาะชุมชนโดยรอบพื้นที่ป่าอนุรักษ์ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมดูแลทรัพยากรธรรมชาติให้มีความยั่งยืนต่อไป

นายรวมศิลป์ กล่าวด้วยว่า  พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 (ฉบับใหม่) ได้รับการออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาที่ได้สะท้อนออกมาจากทุกฝ่าย  เช่น เรื่องของการใช้ประโยชน์จากที่ดิน  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการอยู่อาศัย การใช้เป็นที่ดินทำกิน สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปจาก พ.ร.บ. ฉบับเดิมโดยเฉพาะมาตรา 64  ในพ.ร.บ.ฉบับใหม่มีบทบัญญัติให้มีการสำรวจการถือครองที่ดินของประชาชนที่อยู่อาศัยหรือทำกินในอุทยานแห่งชาติ เพื่อนำไปสู่การจัดทำโครงการเกี่ยวกับการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติภายในอุทยานแห่งชาติ โดยมิได้สิทธิ์ในที่ดินนั้น ทั้งนี้ เพื่อช่วยเหลือบุคคลที่ไม่มีที่ดินทำกินให้ได้อยู่อาศัยหรือทำกินในอุทยานแห่งชาติ ซึ่งขณะนี้อุทยานแห่งชาติทุกแห่งได้ดำเนินการสำรวจการถือครองที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติเสร็จเรียบร้อยแล้วโดยสิ้นสุดเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2563 ภายใต้เงื่อนไขกรอบเวลา 240 วัน นับตั้งแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ

นายรวมศิลป์ กล่าวด้วยว่า ใน พ.ร.บ.กฎหมายใหม่สามารถให้ชาวบ้านหากินในเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเก็บหาหรือการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งตามมาตรา 65 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 หมายถึง ทรัพยากรธรรมชาติที่สามารถเกิดใหม่ทดแทนได้ตามฤดูกาลที่อนุญาตให้เก็บหา หรือใช้ประโยชน์ตามประเภท ชนิด และจำนวนที่กำหนด  เพื่อการดำรงชีพอย่างเป็นปกติในช่วงเวลาที่เหมาะสม โดยจะมีหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการอนุญาตการเก็บหา หรือการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ และการสิ้นสุดการอนุญาต ตลอดจนมาตรการในการกำกับดูแล การตรวจสอบ การติดตาม การควบคุมผลกระทบ และการฟื้นฟูพื้นที่หรือทรัพยากรธรรมชาติ รวมไปถึง การประเมินผลการดำเนินโครงการและแนวทางในการลดการพึ่งพิงการใช้ทรัพยากรธรรมชาติดังกล่าว

นายรวมศิลป์ กล่าวในตอนท้าย ว่า ทั้งนี้ พ.ร.บ. อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 และพ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ได้มีการเพิ่มบทกำหนดโทษ อัตราโทษที่มากขึ้นหลายเท่าตัวเมื่อเทียบจาก พ.ร.บ. ฉบับเดิม   อาทิ  ล่าสัตว์ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ  โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ    และหากผู้ใดยึดถือหรือครอบครองที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 4-20 ปี หรือปรับตั้งแต่ 400,000 -2,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ฯลฯ  ต่างๆ เหล่านี้ เป็นสิ่งที่ประชาชนจำเป็นต้องรู้เพื่อให้เกิดการปฏิบัติที่ไม่ผิดต่อข้อกฎหมายใหม่ อันจะนำไปสู่การอยู่ร่วมของคนกับป่าได้อย่างสมดุล ตามเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติฯ (ฉบับใหม่) ที่ว่า “ป่าอยู่ได้... คนอยู่ได้”



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ