“ซีพีแรม” เผย เจ้าไวรัสโควิดร้ายทำรายได้ปี 63 ตกลง 3 % คาดปีนี้ดีขึ้นเดินหน้าลงทุนผุดโรงงาน ออกไลน์สินค้าใหม่

วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

“ซีพีแรม” เผย เจ้าไวรัสโควิดร้ายทำรายได้ปี 63 ตกลง 3 % คาดปีนี้ดีขึ้นเดินหน้าลงทุนผุดโรงงาน ออกไลน์สินค้าใหม่


นายวิเศษ วิศิษฏ์วิญญู กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีแรม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี 2563 ที่ผ่านมาได้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ไปทั่วโลก เศรษฐกิจไทยก็ได้รับผลกระทบนั้นเช่นกัน หลายธุรกิจชะลอตัว หลายธุรกิจก็ปิดตัวลง และยังคงมีผลกระทบต่อเนื่องมาจนถึงในปีนี้ โดยในปีทีผ่านมาส่วนของซีพีแรมก็ได้รับผลกระทบเช่นกันถึงแม้ว่าเราจะเป็นธุรกิจอาหารแต่ทว่าจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า มีช่วงนึงได้ปิดบริการชั่วคราวไป หาซื้อของทานยากมากขึ้น ประกอบกับผู้คนมีความกังวลไม่ค่อยอยากออกมาเดินจับจ่ายซื้อข้าวของเหมือนช่วงปกติ  

อีกทั้ง นักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทางมาในประเทศได้ ซึ่งทางเราก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทไม่ได้ตามเป้าที่วางไว้ในปี 62 ที่คาดว่าจะโตราว 10 % แต่หลังจากที่เราก็ได้ทำการปรับกลยุทธ์และการดำเนินธุรกิจเพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวเพื่อให้เราสามารถประคองธุรกิจให้มีผลประกอบการเกือบเท่ากับปี 2562 ให้ได้มากที่สุด โดยปี 63 เราอาจจะมียอดตกลงอยู่เพียง 3% ซึ่งเราก็ถือว่าน้อยมากถ้าเทียบกับธุรกิจอื่น ๆ โดยในปี 63 บริษัทมียอดขายรวม 19,379 ล้านบาท (สัดส่วนมาจากในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น 95%, นอกร้านเซเว่นอีเลฟเว่น 3% และส่งออก 2%) ขณะที่ปี 2562 มียอดขายรวม 19,922 ล้านบาท (สัดส่วนมาจากในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น 94%, นอกร้านเซเว่นอีเลฟเว่น 3% และส่งออก 2%) และมีการพัฒนาสินค้าใหม่ กลุ่มอาหารพร้อมรับประทาน 186 รายการ และเบเกอรี 152 รายการ

สำหรับปี 2564 นี้ซีพีแรมคาดการณ์ว่า วิกฤตเศรษฐกิจโลกอันเนื่องมาจากการระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ยังคงมีต่อเนื่อง แต่จะคลี่คลายลงบ้างตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3 เป็นต้นไป โดยปีนี้เรายังคงเดินหน้าตามแผนลงทุนที่เราวางงบประมาณไว้ราว 2,660 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างฐานการผลิตโรงงานเบเกอรีแห่งที่ 6 ที่ชลบุรี ที่มี 2 ไลน์ผลิต คือทั้งผลิตสำเร็จรูป กับผลิตแป้งโดแช่แข็งเพื่อส่งไปอบสดแต่ละแห่ง คาดว่าแล้วเสร็จกลางปีหน้า มีกำลังผลิต 1.2 ล้านชิ้นต่อวัน หรือประมาณ 30,000 ตันต่อเดือน ซึ่งเป็นโรงงานเบเกอรีแห่งที่ 6 แต่เป็นแห่งที่ 2 ที่อยู่ต่างจังหวัด โดยอีกแห่งอยู่ที่ขอนแก่น ส่วนอีก 4 แห่งอยู่ลาดกระบัง หรือจากทั้งหมดโรงงานแห่งที่ 16 ของซีพีแรม นอกจากนั้นยังอยู่ระหว่างการพิจารณาเตรียมแผนการลงทุนในอีก 2 ปีข้างหน้า คาดว่าปีนี้จะสรุปได้ว่าจะลงทุนอะไรบ้าง ทั้งโรงงานผลิตเบเกอรี โรงงานผลิตอาหารพร้อมรับประทาน และอื่นๆ

ผู้บริหาร กล่าวต่อว่า  ปีนี้บริษัทฯ มีแผนจะพัฒนากลุ่มสินค้าใหม่ออกมาตอบสนองความต้องการกลุ่มผู้บริโภคในกลุ่มอาหารเพื่อสุขภาพสำเร็จรูปพร้อมรับประทานมากขึ้น ภายใต้ตราสินค้า “ VG for Love ” อาหารกลุ่มใหม่สำหรับผู้บริโภคที่มีการบริโภคพืชเป็นหลัก “ Plant Based Diet ”แบ่งประเภทอาหารเป็น 5 ประเภท ได้แก่ หมายเลข 1 อาหารเจ, หมายเลข 2 อาหารวีแกน, หมายเลข 3 อาหารมังสวิรัติกับนม, หมายเลข 4 อาหารมังสวิรัติกับไข่ และหมายเลข 5 อาหารมังสวิรัติกับนม และไข่ ซึ่งบรรจุในบรรจุภัณฑ์ “สีฟ้า” ปิดผนึกมิดชิดเพื่อคงสภาพความสด ใหม่ สะอาด และความปลอดภัยทางอาหารสูงสุด โดยขณะนี้ได้เริ่มวางจำหน่ายแล้วผ่านช่องทางแม็คโคร, 7-Eleven (online) ร้านค้าชั้นนำในกรุงเทพฯ และปริมณฑล อีกทั้งพร้อมจะขยายจุดจำหน่ายคลอบคลุมทั่วประเทศเร็วๆ นี้ มีราคาตั้งแต่ 39-45 บาท และจะมีเมนูใหม่ทยอยออกมาต่อเนื่อง

ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายยอดขายปีแรกของสินค้าแบรนด์ดังกล่าวนี้ไว้ที่ 120 ล้านบาท และปีหน้า 500 ล้านบาท และปี 2566 ประมาณ 1,000 ล้านบาท และเป้าหมายสร้างรายได้สัดส่วนเป็น 20% จากรายได้รวมของบริษัทภายใน 3-5 ปีจากนี้ เบื้องต้นใช้ไลน์ผลิตจากโรงงานเดิมมาปรับผลิตแบรนด์ใหม่นี้  ส่วนในปี 2564 นี้ซีพีแรมตั้งเป้าหมายยอดขายรวม 21,310 ล้านบาท โต 10% (สัดส่วนยอดขายมาจากร้านเซเว่นอีเลฟเว่น 94%, นอกร้านเซเว่นอีเลฟเว่น 4% และส่งออก 2%) ปัจจุบันสัดส่วนรายได้มาจากกลุ่มอาหารพร้อมรับประทานประมาณ 70% และมาจากกลุ่มเบเกอรีประมาณ 30% จากอดีตเมื่อ 2 ปีที่แล้วสัดส่วนเท่ากันที่ 50%

 



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ