วิชัย บรรดาศักดิ์ นายกเทศมนตรีนครปากเกร็ด จ.นนทบุรี 6 สมัย และยังนั่งเป็นนายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย (นายกส.ท.ท.) อีกตำแหน่ง ถือเป็นผู้บริหารท้องถิ่นขวัญใจชาวนครปากเกร็ด โดยเฉพาะการป้องกันและแก้ไขน้ำท่วมใหญ่เมื่อปลายปี 2554 ที่ผ่านมา ทำให้ขึ้นแท่นนายกขวัญใจประชาชนได้ไม่ยาก
เป็นชาว ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด โดยกำเนิด ดำรงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ต.บ้านใหม่ ตั้งแต่อายุ 25 ปี ต่อมาได้ รับการเลือกตั้งให้เป็นกำนัน ต.บ้านใหม่ เมื่อปี 2521 หลังจากนั้นก็เป็นสมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) ตำบลปากเกร็ด และ ได้รับการแต่งตั้งเป็นเทศมนตรีฝ่ายโยธา เมื่อปี 2535
เข้าสู่ปี 2539 เข้าสู่สภาเทศบาลเมืองปากเกร็ดอีกครั้ง และได้รับการโหวตให้ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมือง ปากเกร็ดในปีเดียวกัน ต่อมามีการยกฐานะเป็นเทศบาลนครปากเกร็ดก็นั่งตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครปากเกร็ดตั้งแต่ปี 2547 ถึงปัจจุบัน
สำหรับแรงบันดาลใจในการเข้ามาทำงานการเมือง "นายกวิชัย" บอกว่า คุณพ่อซึ่งเป็นกำนันอยู่ในขณะนั้นเสียชีวิต ทำให้ตำแหน่งกำนันว่างลง ชาวบ้านเห็นว่า เราน่าจะสานต่องานของคุณพ่อได้ จึงเรียกร้องให้ลงสมัครเป็นผู้ใหญ่บ้านก่อน จากนั้นก็มาเป็นกำนันในเวลาต่อมา สิ่งที่เห็นมาตลอดคือ การทำงานช่วยเหลือชาว บ้านของคุณพ่อทำให้ซึมซับภาพเหล่านั้นมาโดยอัตโนมัติ สุดท้ายก็กลายเป็นแรงผลักดันให้สู่สนามการเมืองท้องถิ่น
"สมัยก่อนได้เงินเดือนเพียง 270 บาท บ้านเมืองยังไม่เจริญยังเป็นป่า เป็นที่รกร้าง ประชาชนยังใช้วิถีชีวิตชนบท สังคมยังพึ่งพากัน ฉะนั้นตำแหน่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้านจึงสำคัญมาก เพราะต้องทำงาน หรือเป็นหูเป็นตาให้กับทางการ มีหน้าที่ในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทต่างๆ สมัยนั้นกำนัน ผู้ใหญ่บ้านมีบทบาทเยอะมาก"
นายกวิชัย บอกอีกว่า ในยุคแรกๆ ปากเกร็ดต้องเน้นการพัฒนาเรื่องถนน หนทาง และไฟฟ้าเป็นหลัก หรือพูดง่ายๆ จะเน้นพัฒนาด้านโครง สร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะถนนต้องทำเป็นคอนกรีตทั่วทั้งพื้นที่ เพราะหากทำลาดยางเวลารถบรรทุกน้ำหนักเกิน หรือใช้นานไปจะพังแล้ววิ่งไม่ได้ ต้องสร้างใหม่ แต่หากเป็นคอนกรีตจะทนกว่า หรือหากพังไม่มาก ถนนก็ยังใช้งานได้ ทำให้เราสร้างถนนคอนกรีตทั่วทั้งเขตเทศบาลมาตลอด
นายกเล็กนครปากเกร็ด จะให้ความ สำคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชนมาตลอดก่อนทำโครงการต่างๆ ต้องลงพื้นที่สอบถามชาวบ้านอยู่เสมอเพราะหลายคนก็ยังไม่เข้าใจ เช่น เทศบาลจะยกถนนให้สูงขึ้นกว่าเดิมก็ต้องสอบถามชาวบ้านก่อน และถนนที่สูงขึ้นก็ส่งผลต่อการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเมื่อปี 2554 ได้เป็นอย่างดี
ได้ย้ำให้ข้าราชการทุกภาคส่วนบริการประชาชนอย่างเต็มที่โดยเฉพาะงานทะเบียนและการติดต่อราชการ เพราะสมัยก่อนงานทะเบียนมีปัญหามาก การเดินทางของประชาชนก็ลำบากหาก มาติดต่อราชการ เพราะหากลืมเอกสาร หรือนำเอกสารมาไม่ครบจะต้องเสียเวลา บางครั้งอาจจะต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสัญญาบัตรขึ้นไปรับรองการทำบัตรประจำตัวประชาชน และเมื่อก่อนทั้งตำบลก็หาตำรวจระดับสัญญาบัตรยากจึงวุ่นวายพอสมควร ดังนั้นเมื่อเทศบาลจัดทำงานทะเบียนราษฎรเองจึงกำชับให้ข้าราชการดูแลเรื่องนี้เป็นพิเศษ
ในฐานะ .นายก ส.ท.ท. วิชัย. มองเรื่องทิศทางการกระจายอำนาจและการจัดสรรเงินให้กับท้องถิ่นในอนาคตว่า ทุกภาคส่วนต้องสนับสนุนแนวทางหรือทิศทางการกระจายอำนาจให้กับท้องถิ่น มากยิ่งขึ้น แต่ที่ผ่านมาก็มีปัญหามาตลอด โดยเฉพาะการจัดสรรงบประมาณ ที่ได้ไม่เต็มจำนวน แต่มีภารกิจเพิ่มขึ้น ทำให้ท้องถิ่นขนาดใหญ่และขนาดเล็กลำบากเพราะงบประมาณไม่เพียงพอ
.รัฐบาลควรเร่งการถ่ายโอนภารกิจ และงบประมาณมาให้ท้องถิ่น เพราะท้องถิ่นเองก็ไม่รู้จะหารายได้มาจากไหน ต้องพึ่งงบประมาณจากส่วนกลางเป็นหลัก แต่เมื่อมีการตัดงบประมาณจึงกระทบด้านการเงินการคลังของท้องถิ่น ทั่วประเทศ และทราบว่างบประมาณปี 2557 ท้องถิ่นจะได้จัดสรรเงินจำนวนร้อยละ 27.50 เป็นเงิน 625,625 ล้านบาท แต่เมื่อเข้าสภาแล้วจะได้ตามนั้นหรือไม่ก็ต้องคอยติดตามดู.
ทั้งหมดเป็นวิสัยทัศน์แนวคิด และตัวตนของผู้บริหารท้องถิ่นที่ชื่อวิชัย บรรดาศักดิ์ นายกเทศมนตรีนครปากเกร็ด