สะบัดร้อนสะบัดหนาว : by ณรงค์ ปานนอก

ช่วงที่น้ำมันได้ลดภาษีสรรพสามิตลง ก็ทำให้ราคาน้ำมันหลายเกรดลดลงไปได้พอสมควร ถือว่าเป็นผลงานการปรับเปลี่ยนนโยบายราคาพลังงานที่บิดเบือนได้ระดับหนึ่ง

ต้องยอมรับว่า เป็นผลงานที่โดนใจประชาชนไม่น้อย

บางคนอาจมองว่า ผลลัพธ์ของ คสช.ครั้งนี้ ถือว่าดีกว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ดีกว่ารัฐบาลยุคคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งหลงทิศหลงทาง จน “ออกทะเล” หันหลังมาก็ไม่เห็นฝั่งอีกต่างหาก

เพราะแก้ปัญหาได้ตรงจุด ตรงใจประชาชน และตรงเป้าของปัญหามากกว่า

ต่อไปนี้ นโยบายพลังงานคงจะเข้ารูปเข้ารอยมากกว่าเดิม ที่คนรวยไม่แบกภาระฝ่ายเดียว และคนระดับกลาง-ล่าง โดยเฉพาะคนขี่มอเตอร์ไซค์และชาวบ้านที่ใช้เครื่องยนต์การเกษตรก็ไม่แบกราคาน้ำมันก๊าซโซฮอล์จนหลังแอ่นข้างเดียวเช่นกัน

แต่พอหันไปดูหน้าบรรดา “รัฐมนตรีถอดด้าม” แล้วก็อดเป็นห่วงไม่ได้

ยอมรับประการหนึ่งว่า หลายท่านเป็นผู้อาวุโส มีประสบการณ์ทั้งในภาครัฐและเอกชนมายาวนาน และน่าจะเป็น “คนดี” ไม่มีปูมหลังอยู่ในข่าย “เคยโกง” มาก่อน แต่เพราะอายุขัยและวัยที่ล่วงเลยความฉกาจฉกรรจ์มาแล้ว จึงไม่แน่ใจว่าหลายท่านจะมี “ไฟแรง” มากพอที่จะแก้ปัญหาบ้านเมืองที่อยู่ในหัวเลี้ยวหัวต่อของคำว่า “ปฏิรูป” ได้มากน้อยแค่ไหน

หลายท่านเคยรับตำแหน่งสูงสุดทางราชการของบางกระทรวงมาแล้ว ดูเหมือนไม่น่าจะยากกับการบริหารงานชั้นเสนาบดี แต่ความที่เคยเป็น “ปลัดกระทรวง” กับความเป็น “รัฐมนตรี” มันมีความท้าทายแตกต่างห่างกันพอสมควร

อย่างน้อยก็ชี้วัดกันที่ “ผลงานเป็นรูปธรรม” รวดเร็ว ทันใจประชาชน ถูกทิศถูกทาง และเชื่อมั่นกับอนาคตได้

กับรัฐบาลชุดใหม่วันนี้ ผมจึงเห็น “จุดบอด” ไปโฟกัสอยู่ที่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งสัมผัสกับปากท้องและความเชื่อมั่นของเกษตรกรทุกสาขาการผลิต จะมีวิสัยทัศน์ก้าวข้าม “หล่มเกษตร”อย่างไร

วัยวุฒิ คุณวุฒิและวุฒิภาวะไม่เป็นที่กังขาแม้แต่กระผีกลิ้น...ห่วงก็แต่ “อารมณ์ศิลปิน” จะชักนำไปในทางเคลิบเคลิ้มฝันถึงคะนึงหาแต่บันเทิงคดี จนลืมไปว่า เกษตรกรและผลผลิตที่ออกมาจะถูกผลักดันให้ไล่ทันสถานการณ์ตลาดพืชผลแต่ละชนิดหรือเปล่าเท่านั้น

“บิ๊กตู่” กำชับล่วงหน้าไว้แล้วว่า “ถ้าไม่ดี ก็เปลี่ยนได้”

เดี๋ยวไม่ทันแสดงผลงานโบแดงให้เห็นหรอก...เพราะอำนาจเบ็ดเสร็จเนี่ย เขาแข่งกับเวลานะครับ ไม่ใช่แข่งดีด สี ตี เป่า ?