รัฐบาล‘ประยุทธ์ 1’ ผู้กุมบังเหียน…ชะตาประเทศ

วันจันทร์ที่ 08 กันยายน พ.ศ. 2557

รัฐบาล‘ประยุทธ์ 1’ ผู้กุมบังเหียน…ชะตาประเทศ


เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2557 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง คณะรัฐมนตรี “ประยุทธ์ 1” ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่ผิดคาด ซึ่งประกอบไปด้วย 1.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นรองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม 2.ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล เป็น รองนายกรัฐมนตรี 3.นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ เป็นรองนายกรัฐมนตรี 4.พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร เป็น รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ 5.นายวิษณุ เครืองาม เป็นรองนายกรัฐมนตรี 6.ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล เป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 7.นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ เป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

8.พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร เป็น รมช.กลาโหม 9.นายสมหมาย ภาษี เป็น รมว.คลัง 10.นายดอน ปรมัตถ์วินัย เป็นรมช.ต่างประเทศ 11.นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร เป็น รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา 12. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว เป็นรมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 13.นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา เป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์ 14.พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง เป็น รมว.คมนาคม 15.นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เป็น รมช.คมนาคม

16.พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เป็นรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 17.นายพรชัย รุจิประภา เป็น รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 18.นายณรงค์ชัย อัครเศรณี เป็น รมว.พลังงาน 19.พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ เป็นรมว.พาณิชย์ 20.นางอภิรดี ตันตราภรณ์ เป็น รมช.พาณิชย์ 21.พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เป็น รมว.มหาดไทย 22.นายสุธี มากบุญ เป็นรมช.มหาดไทย 23.พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา เป็น รมว.ยุติธรรม 24.พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ เป็นรมว.แรงงาน

25.นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ เป็น รมว.วัฒนธรรม 26.นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ เป็น รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 27.พล.ร.อ. ณรงค์ พิพัฒนาศัย เป็น รมว.ศึกษาธิการ 28. นายกฤษณพงศ์ กีรติกร เป็น รมช.ศึกษาธิการ 29.พล.ท.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ 30.นายรัชตะ รัชตะนาวิน เป็นรมว.สาธารณสุข 31.นายสมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ เป็นรมช.สาธารณสุข และ 32.นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช เป็น รมว.อุตสาหกรรม

เมื่อไล่เรียงรายชื่อ ครม. “ประยุทธ์1” ก็พบว่าเป็นไปตามความคาดหมายของสื่อมวลชนก่อนหน้านี้ โดยมีทั้งสิ้น 32 คน 34 ตำแหน่ง โดยมีนายทหารที่มีตำแหน่งอยู่ในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าดำรงตำแหน่งในครม.นี้ รวมทั้งสิ้น 11 นายด้วยกัน ขณะเดียวกันมีผู้หญิงใน ครม.นี้ 2 คน ได้แก่ นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมช.พาณิชย์ และนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร เป็นรมว.การท่องเที่ยวและกีฬา

ทั้งนี้ ภายหลังการเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณ ครม.ชุดนี้ก็จะปฏิบัติหน้าที่ได้ทันที แม้จะยังไม่มีแถลง นโยบายต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) หากเป็นกรณีที่สำคัญและจำเป็นเร่งด่วน! อย่างไรก็ดีเชื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ ครม.จะได้มีการแถลงนโยบายต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อให้เป็นครม.ที่สมบูรณ์ และเข้าบริหารราชการแผ่นดินได้อย่างเป็นทางการ ที่สำคัญจะทำให้ประชาชนรับทราบว่า ครม.มีนโยบายอย่างไร สามารถประเมินได้ว่า นโยบายใดเป็นเรื่องดี หรือนโยบายใดมีปัญหา รัฐบาลจะได้นำไปคิดให้รอบคอบได้

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาตามรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดนี้จะเห็นว่า 1 ใน 3 ของครม.เป็นทหาร-ตรวจ ขณะที่อีกส่วนหนึ่งเป็นข้าราชการประจำ นอกจากนั้นก็มีสายพลเรือนที่เป็นนักธุรกิจและเทคโนแครต อย่างไรก็ดีหากลงลึกไปในรายละเอียดของรัฐมนตรีแต่ละท่านโดยเฉพาะในสายพลเรือนจะพบว่า มีข้าราชการที่เคยทำงานในสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) หรือสำนักงานคณะกรรมการอยู่ถึง 5 คนประกอบด้วย “สมหมาย ภาษี”, “จักรมณฑ์ ผาสุกวนิช”, “ปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา”, “พรชัย รุจิประภา” และ “อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” เลขาธิการ สศช.คนปัจจุบัน

แน่นอนว่าท่านเหล่านี้มีความชำนาญในด้านเศรษฐกิจ มีประสบการณ์การบริหารหน่วยงานราชการที่มีผลต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศที่ขณะนี้กำลังรอการเยียวยา โดยเฉพาะปัญหาราคาพืชผลเกษตรตกต่ำ

นอกจากนี้ ประชาชนน่าจะมีความหวังขึ้นมาบ้างเมื่อครม.เศรษฐกิจชุดนี้น่าจะตัดสินใจนโยบายและทำงานได้ทันที เพราะรัฐมนตรีทุกคนมีประสบการณ์ ไม่ว่าจะเป็น “คุณชายอุ๋ย” ม.ร.ว. ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจที่เคยผ่านงานด้านเศรษฐกิจมาหลายครั้ง หรือ กระทรวงคมนาคมที่ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง เป็นรัฐมนตรี ก็สามารถทำงานได้ทันทีดังจะเห็นจากการที่ “โรดโชว์” ด้วยตัวเองในโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 3.4 ล้านล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูการพิสูจน์ผลงานรัฐบาลในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า เนื่องเพราะเศรษฐกิจไทยในปีนี้ขยายตัวได้แค่ 1.5-2% เนื่องจากการส่งออก ซึ่งเป็นตัวความหวังยังซึมเซา และไม่น่าขยายตัวได้ถึงเป้าหมาย 3% น่าจะ ดังนั้นอนาคตเศรษฐกิจไทยในระยะสั้น จึงขึ้นอยู่กับการเร่งรัดเบิกจ่ายงบฯ การรักษาระดับราคาพืชผลทางการเกษตร โดยเฉพาะข้าวและยางพารา ส่งผลให้กำลังซื้อชะงักงัน เศรษฐกิจภูมิภาคชะลอตัว หนี้นอกระบบเพิ่มขึ้น เด็กจบใหม่หางานทำยาก

หลังจาก “รัฐบาลประยุทธ์ 1” แถลงนโยบายต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และเข้าบริหารราชการแผ่นดิน อย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อถึงตอนนั้นประชาชนทั่วประเทศก็ถึงเวลาจับตามอง และเฝ้าดูการบริหารงาน ครม.ประยุทธ์ว่าเข้าเป้า และเดินหน้าไปสู่จุดหมายตาม “โรดแมป” ที่ได้ประกาศไว้หรือไม่

เพราะหากทำไม่ได้...คงไม่ต้องบอกว่า จะเกิดอะไรขึ้น ที่ผ่านมามีหนังตัวอย่างให้เห็นอยู่แล้ว!!


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ