ดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) กล่าวว่า จากสถานการณ์การระบาดโควิดระลอกใหม่ที่เกิดขึ้นตอนนี้ มองว่ายังมีผลกระทบน้อยกว่ารอบแรกเนื่องจากยังไม่มีคำสั่งปิดห้างสรรพสินค้าทั้งหมดเหมือนครั้งแรก ประกอบกับคนไทยเริ่มมีการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ดีแล้ว โดยถ้าให้มองกลับไปก่อนช่วงเกิดการระบาดระลอกใหม่ขณะนี้ ศูนย์การค้า CPN มีทราฟฟิกเฉลี่ยอยู่ราว 80% โดยเฉพาะช่วงเดือนธันวาคม 2563 ที่คึกคักมากจากการประดับไฟเทศกาลคริสต์มาส-ปีใหม่ ยกตัวอย่าง เซ็นทรัลเวิลด์ เคยมีทราฟฟิกกลับขึ้นไปแตะ 1 แสนคนต่อวันในช่วงคริสต์มาส เกือบจะเท่ากับช่วงปกติในปี 2562 แต่ปัจจุบันกลับลงมาเหลือ 4-5 หมื่นคนต่อวันอีกครั้ง เนื่องจากการระบาดอีกรอบทำให้จัดอีเวนต์เพื่อดึงดูดลูกค้าไม่ได้ ประกอบกับคนอยู่บ้านมากขึ้นและให้มีการกลับไปทำงานที่บ้านอีกครั้ง แต่หลังจากที่ภาครัฐคลายล็อกเฟสแรกไปเมื่ออาทิตย์ผ่านมาที่อนุญาตธุรกิจ 13 ประเภท เช่น ฟิตเนส สปา สถานเสริมความงาม กลับมาให้บริการได้ ซึ่งทำให้ลูกค้ามีกิจกรรมภายในศูนย์ฯ ได้มากขึ้น ส่งผลให้เซ็นทรัลมีทราฟฟิกเพิ่มขึ้น 5-10% ส่วนสาขาที่อยู่ในแหล่งท่องเที่ยว เช่น เกาะสมุย พัทยา เชียงใหม่ เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลวิลเลจ ทราฟฟิกยังอยู่ต่ำกว่า 50% แต่ยืนยันไม่ได้มีแผนปิดชั่วคราวสาขาใดๆ นอกจากที่ปิดอยู่แล้วเนื่องจากการระบาดของ COVID-19 คือ สาขามหาชัยและระยอง (*เซ็นทรัล ป่าตอง ซึ่งมีข่าวปิดชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.นี้ เป็นห้างสรรพสินค้าในส่วนของเซ็นทรัล รีเทล หรือ CRC)
อย่างไรก็ตาม คาดว่าถ้ามีการปลดล็อกขั้นต่อไป คือ โรงเรียนเปิดเรียนตามปกติขยายเวลาปิดร้านอาหาร และสามารถจัดอีเวนต์สาธารณะได้เต็มที่ขึ้นเรามองว่าน่าจะเป็นแนวโน้มในทางที่ดีสำหรับห้างเซ็นทรัลและร้านค้าที่เช่าพื้นที่ในห้าง เพราะทราฟฟิกของคนเดินห้างโอกาสสร้างรายได้ก็จะมีมากขึ้นตามมา ดังนั้น ในไตรมาสแรกของปีนี้บริษัทจึงได้ใช้งบการตลาด 200 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นงบการตลาดที่เพิ่มขึ้นจากที่เคยวางไว้ก่อนคลายล็อกดาวน์ที่ 80 ล้านบาทแต่ยังเป็นงบการตลาดที่ยังน้อยกว่าไตรมาสแรกของปีที่ผ่านมาซึ่งเป็นช่วงเวลาปกติ ที่ใช้งบการตลาดตลอดไตรมาสแรกที่ 300 ล้านบาท เนื่องจากไม่สามารถจัดอีเวนต์ได้ เพื่อจัดเทศกาล "ตรุษจีน" พ่วงเทศกาลวาเลนไทน์ และเริ่มต้อนรับเทศกาลซัมเมอร์แคมเปญช่วงตรุษจีนนี้จะปูพรมในศูนย์การค้าเซ็นทรัล 33 แห่งทั่วประเทศ เน้นการตกแต่งภายในศูนย์ฯ ให้เป็น "แลนด์มาร์ก" จุดถ่ายรูปเช็กอิน กระตุ้นผู้บริโภคเดินห้างฯ พร้อมโปรโมชันมากมาย ลดสูงสุด 70% และจับมือ "หมอช้าง-ทศพร ศรีตุลา" จัดทำสติกเกอร์นำโชค Sticker of Luck Limited Edition แจกฟรีสำหรับลูกค้าที่ช้อปครบ 1,500 บาทขึ้นไป และลูกค้า Top Spenders 5 ท่านแรกที่ช้อปสูงสุดตลอดแคมเปญตั้งแต่วันที่ 29 ม.ค. - 21 ก.พ. 64
“สำหรับแคมเปญตรุษจีนปีนี้เรายังเน้นย้ำจัดขึ้นภายใต้กฎระเบียบของภาครัฐ ซึ่งยังไม่อนุญาตให้จัดอีเวนต์ขนาดใหญ่แต่ยังคงต้องจัดเพื่อต้องการกระตุ้นให้ลูกค้ายังมาศูนย์ฯ ได้ตามปกติ โดยเฉพาะในช่วงนี้คนไทยเชื้อสายจีนจะจับจ่ายซื้อของสดไหว้เจ้า ซื้อเสื้อผ้าใหม่ตามธรรมเนียม และพาครอบครัวรับประทานอาหารเพื่อฉลองปีใหม่จีน คาดว่าทราฟฟิกจะเพิ่มขึ้นอีก 15-20% ในช่วงเทศกาลดังกล่าว”
ผู้บริหาร กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับแนวโน้มธุรกิตค้าปลีกในปี 2564 นั้น มองว่าจะต้องดูสถานการณ์กันเดือนต่อเดือน เพราะยังไม่มีความแน่นอนสูงมากจากเรื่องของการระบาด โควิดที่ยังไม่สามารถคาดเดาได้เลย แต่มีความหวังว่าจะดีกว่าปี 2563 เพราะในช่วงกลางปีนี้จะเริ่มนำวัคซีน COVID-19 เข้ามาฉีดในประเทศไทยแล้ว ซึ่งมองว่าสถานการณ์น่าจะดีขึ้น