นายชินจิ คามิยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 ที่ผ่านมา ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงต่อการใช้ชีวิตของผู้คนในสังคม รวมทั้งส่งผลกระทบในวงกว้างต่อทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจ และภายใต้สถานการณ์เหล่านี้ทำให้การขยายตัวในธุรกิจเครื่องปรับอากาศลดลง รวมถึงส่งผลต่อผลประกอบการรวมของบริษัทฯ ในปีงบประมาณ 2563 นี้ มีแนวโน้มลดลงประมาณ 4% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตามเรายังสามารถรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดอันดับ 1 และแบรนด์ยอดนิยมที่ผู้บริโภคให้ความไว้วางใจในสินค้าประเภทเครื่องปรับอากาศภายในบ้าน และปั๊มน้ำได้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับในปี 2564 การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังคงอยู่ต่อเนื่อง ส่งผลต่อการใช้ชีวิตของผู้คนในรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ หรือ New Normal ชัดเจนยิ่งขึ้น ทำให้ทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในปีนี้ มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคในยุค New Normal ล่าสุด เปิดตัวเครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิ อีเล็คทริค มิสเตอร์สลิม ECO EYE INVERTER XT Series ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์อัจฉริยะ “ECO EYE Sensor” มอบความสะดวกสบายและประหยัดพลังงานมากกว่า พร้อมตู้เย็น 2 ประตู FC Series รุ่นใหม่ ระบบ Neuro Inverter ด้วยขนาดความจุที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญด้านบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐาน ยกระดับการบริการที่รวดเร็ว เพื่อเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าทั่วประเทศ พร้อมเสริมความแข็งแกร่งด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ โดยตั้งเป้ายอดขายภายในปีงบประมาณ 2564 โตขึ้นกว่า 19% จากปีที่ผ่านมา อีกทั้ง มุ่งเดินหน้าสร้างการเติบโตและสร้างยอดขายในส่วนของเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์มากยิ่งขึ้น ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะเป็นตลาดที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี พร้อมกันนี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายศูนย์บริการสาขา “สำนักงานสนับสนุนลูกค้าโครงการระบบปรับอากาศซิตี้มัลติ” จากปัจจุบัน 6 สาขา เพิ่มเป็น 9 สาขา และเพิ่มสัดส่วนการขายธุรกิจ B2B จากปัจจุบัน 15% เป็น 30% ภายในปี 2568
ด้าน นายประพนธ์ โพธิวรคุณ กรรมการรองผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด กล่าวเสริมว่า ในปีที่ผ่านมาเป็นอีกปีหนึ่งที่สร้างความท้าทายให้กับงานบริการหลังการขายของเราเป็นอย่างมากเนื่องจากการไวรัสโควิด-19 ในปี 2564 นี้ บริษัทฯ ได้เสริมความแข็งแกร่งด้านบริการหลังการขายให้กับลูกค้าทั่วประเทศ ด้วยการพัฒนาระบบไอทีเชื่อมโยศูนย์บริการทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการแก่ลูกค้าทั้งในกทม. และต่างจังหวัด ให้ได้รับความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
นายทาคาชิ ฟูจิกิ กรรมการและผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาดและการขาย บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด กล่าวทิ้งท้ายว่า จากวิกฤตการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมา หลายภาคส่วนได้รับผลกระทบรวมถึงตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในไทย และด้วยวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปผู้คนใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้นเพื่อเว้นระยะห่างทางสังคม ช่องทางการขายทางอีคอมเมอร์สเติบโตขึ้นมากถึง 150% รวมถึงอัตราการใช้เครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์ที่เพิ่มมากขึ้นในปีที่ผ่านมา ซึ่งคิดเป็น 73% และในปี 2564 นี้ คาดการณ์ว่าจะมากถึง 80% ซึ่งจากแนวโน้มต่าง ๆ เหล่านี้ บริษัทฯ จึงพัฒนากลยุทธ์การขาย ช่องทางการจัดจำหน่าย การสื่อสารทางการตลาด เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้มากยิ่งขึ้น โดยมุ่งผลักดันสินค้าหลัก ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น และพัดลมพร้อมฟังก์ชั่นใหม่ที่ตอบโจทย์ชีวิตวิถีใหม่ของผู้บริโภคโดยทำการตลาดผ่านรูปแบบออนไลน์มากขึ้น