ส่องเหล่าธุรกิจอะไรบ้าง ? ตื่นตัวรับระบาดไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ คัมแบค !!

วันเสาร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2564

ส่องเหล่าธุรกิจอะไรบ้าง ? ตื่นตัวรับระบาดไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ คัมแบค !!


หลังจากที่สถานการณ์ในช่วงครึ่งปีหลังของปีที่ผ่านมาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ภายในประเทศไทยดีขึ้นมากทำให้ผู้ประกอบการในหลากหลายธุรกิจและคนไทยเริ่มผ่อนคลายจากสถานการณ์ดังกล่าวมากขึ้น แต่แล้วในช่วงปลายปีจนถึงปีใหม่และมาจนขณะนี้ประเทศไทยได้กลับมาเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ภายในประเทศอีกครั้ง ส่งผลให้ทำให้เหล่าผู้ประกอบการธุรกิจและคนไทยเองกลับมาตื่นตัว โดยหลากหลายผู้ประกอบการธุรกิจก็ได้ออกมายกระดับมาตรฐานความปลอดภัยและสุขอนามัยขั้นสูงสุดกันอีกครั้ง หรือก็ได้ออกมาสินค้าที่เกี่ยวกับการป้องกันไวรัสดังกล่าว นำกลับมาลุยทำตลาดอย่างหนักอีกในครั้งนี้ ซึ่งจะมีอะไรบ้าง ฉบับนี้ สยามธุรกิจได้รวบรวมบางส่วนว่ามีผู้ประกอบการธุรกิจใหน อะไร ตื่นตัวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้อีกครั้ง  เริ่มกันเลยที่

นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 แม็คโครตระหนักถึงรูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปของประชาชน ที่มุ่งเน้นความปลอดภัย ให้ความสำคัญกับการรักษาระยะห่าง เราจึงได้ชูโมเดล ห้างวิถีใหม่ใส่ใจระยะห่าง สู่การจับจ่ายวิถีใหม่สู้วิกฤต โควิดเต็มรูปแบบ เข้มปรับพื้นที่ ตีเส้น เว้นระยะห่าง นับจำนวนคนเข้าออก พร้อมตั้งทีมรักษาระยะห่างย้ำเตือน-ขอความร่วมมือลูกค้าประชาชน เพิ่มความห่วงใยในทุกตารางเมตร อีกทั้ง จากปริมาณผู้ใช้บริการดิลิเวอรี่ได้เพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ แม็คโครจึงได้ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยและสุขอนามัยขั้นสูงสุด ครอบคลุมการบริการตลอดกระบวนการ ทั้งพนักงาน รถขนส่ง และอุปกรณ์ ผ่าน 3 มาตรการหลัก พร้อมทั้งวางมาตรการเสริม สร้างความมั่นใจให้กับพนักงานและลูกค้าผู้รับสินค้า ที่ใช้บริการคุณสั่ง เราส่ง ผ่าน www.makroclick.com” เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคอีกด้วย

นายวุฒิเกียรติ เตชะมงคลาภิวัฒน์ Property President บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เผยว่า ตั้งแต่ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในระยะแรกนั้น โรบินสันไลฟ์สไตล์ได้มีการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์ กิน - ช้อป - เที่ยว ของนักช้อปยุค New Normal ซึ่งโดยรวมถือว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งความสำเร็จส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าเป็นผลมาจากความร่วมมืออันดีจากเหล่าพันธมิตรธุรกิจ ทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ฟู้ดพาร์ค และสเปเชียลตี้สโตร์ต่างๆ ภายในศูนย์การค้าฯ ที่มีการปรับตัวอย่างสอดคล้องไปกับเรา รวมทั้งมีความเคร่งครัดในเรื่องของมาตรการฯ ที่เข้มข้น ส่งผลให้ ณ วันนี้ที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 กลับมาอีกครั้ง ทำให้เรามีบทเรียนที่แข็งแกร่ง และมีความพร้อมในการตั้งรับสถานการณ์ดังกล่าวภายใต้ยุทธศาสตร์ 5 แผนแม่บท ‘โรบินสัน สะอาด มั่นใจ ในทุกตารางเมตร’ (คัดกรองเข้มงวด, ลดความแออัด, ติดตามให้มั่นใจ, สะอาดทุกจุดในเชิงรุก, ลดการสัมผัส)  เช่นเคยพร้อมตั้งรับทุกสถานการณ์ สู่การเป็นพื้นที่ Safe Zone ของนักช้อปทั่วประเทศ

ด้าน ท็อปส์ และ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ เดินหน้ายกระดับความสะอาดปลอดภัยขั้นสูงสุด พร้อมรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด -19 ระลอกใหม่ ล่าสุดนำนวัตกรรมหุ่นยนต์ฆ่าเชื้อด้วยรังสียูวี-ซี (UV-C DISINFECTION ROBOTS) เทคโนโลยีสุดล้ำที่จะเข้ามาช่วยดูแล ป้องกัน สร้างสุขอนามัยที่ดีและเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้ามาทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคมุ่งเน้นและจัดลำดับความสำคัญของการใช้หุ่นยนต์ฆ่าเชื้อด้วยรังสียูวี-ซี ให้ครอบคลุมในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงเป็นลำดับแรก เช่น สมุทรสาคร กรุงเทพมหานคร นครปฐม    โดยเริ่มที่ร้านท็อปส์ และ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ 10 สาขา ได้แก่  ท็อปส์ มาร์เก็ต สาขา ปิ่นเกล้า , พระราม 2, พระราม 3, ศาลายา, สมุทรปราการ, เวสเกต , เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ สาขาบางนาชิดลม, ลาดพร้าว และ ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์ สาขามหาชัย พร้อมเตรียมแผนดำเนินการใช้หุ่นยนต์ฆ่าเชื้อด้วยรังสียูวี-ซี เฟสต่อไปทั้งร้านท็อปส์ , เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และครอบคลุมไปถึงศูนย์กระจายสินค้าอาหารสด อาหารแห้ง และ ศูนย์เติมสินค้าออนไลน์ เพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยในการส่งมอบสินค้าตั้งแต่คลังสินค้าจนถือมือผู้บริโภค

เทสโก้ โลตัส ยกระดับความปลอดภัยและสุขอนามัยในสาขาทั่วประเทศ โดยเป็นห้างค้าปลีกรายแรกที่นำนวัตกรรมเครื่อง Smart Detector ระบบอัจฉริยะวัดอุณหภูมิและตรวจสอบการใส่หน้ากากของลูกค้าอัตโนมัติ ติดตั้งในไฮเปอร์มาร์เก็ต 109 สาขาทั่วประเทศ โดยระบบนี้เป็นหนึ่งในมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่องของโลตัส ที่เพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าด้วยการเดินผ่านเครื่องซึ่งจะตรวจสอบว่ามีการสวมใส่หน้ากากและอุณหภูมิร่างกายไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียส ระบบจึงจะเปิดที่กั้นอัตโนมัติเพื่อให้ลูกค้าสามารถผ่านเข้าไปใช้บริการได้ อีกทั้งยังเสริมความปลอดภัย ด้วยการลดการสัมผัสใกล้ชิดระหว่างพนักงานและลูกค้าและโลตัสยังได้นำนวัตกรรมอื่น ๆ เข้ามาใช้ภายในสาขาเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและมั่นใจให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ อาทิ อุโมงค์ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อรถเข็นหลังจากใช้งาน ,ระบบ UV Filter ในเครื่องปรับอากาศเพื่อฆ่าเชื้อโรค แบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา ,เครื่องอบช้อนส้อมด้วยแสงยูวี เพื่อฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทานอาหารภายในศูนย์อาหาร ,ระบบชำระเงินด้วย QR Code และ PayWave,แอพพลิเคชั่น Scan & Shop ผ่านโทรศัพท์มือถือของตนเอง เป็นต้น

นางสาวจันต์สุดา ธนานิตยะอุดม ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด แกร็บ ประเทศไทย เผยว่า “จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ แกร็บ ประเทศไทย ได้ติดตามสถานการณ์และให้ความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐอย่างใกล้ชิด โดยล่าสุด เราได้จัดโครงการ ‘แกร็บแคร์ 2.0 #เราจะผ่านมันไปด้วยกัน’ พร้อมประกาศ 9 มาตรการสำคัญเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้บริการการเดินทางและบริการจัดส่งอาหาร-พัสดุ รวมถึงแนวทางการช่วยบรรเทาความเดือนร้อนแก่กลุ่มพาร์ทเนอร์คนขับ พาร์ทเนอร์ร้านอาหารและผู้ประกอบการรายย่อยที่ได้ประกาศยกระดับมาตรฐานด้านความปลอดภัยและสุขอนามัย ครอบคลุมทั้งบริการการเดินทางและบริการจัดส่งอาหาร-พัสดุ เพื่อขานรับนโยบายของภาครัฐในการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค โดยส่งเสริมให้พาร์ทเนอร์คนขับ พาร์ทเนอร์ร้านค้า รวมถึงผู้ใช้บริการ ปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานต่างๆ ภายใต้สังกัดกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด รวมถึงได้ประกาศปรับเวลาการให้บริการในจังหวัดที่มีการแพร่ระบาดฯให้สอดคล้องกับการประกาศนโยบายจำกัดเวลาเปิด-ปิดสถานประกอบการที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด อีกด้วย

นายวีระพงค์ ลือสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีรพัฒน์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PRAPAT ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำยาซักรีด น้ำยาทำความสะอาดและฆ่าเชื้อสำหรับภาคอุตสาหกรรม กล่าวว่า จากการที่ประเทศไทยเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ส่งผลทำให้ผู้ประกอบการรวมถึงธุรกิจต่างๆ  ยกระดับมาตรการและแนวทางในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19  ด้วยการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อที่ถี่มากขึ้นเพื่อความปลอดภัย ในยุคนิวนอร์มอล หลังพบผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มขึ้นสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ จากการยกระดับดังกล่าวของผู้ประกอบการจึงเป็นโอกาสในการเปิดธุรกิจใหม่ที่บริษัทฯ มีความชำนาญการกว่า  30 ปี พร้อมตอกย้ำความเป็นผู้นำ Cleaning Hygiene Solutions แบบครบวงจรรายแรกของไทย คือ “ธุรกิจให้บริการฉีดพ่นฆ่าเชื้อ” ด้วยน้ำยาที่ได้รับใบรับรองการฆ่าเชื้อ เจาะกลุ่มโรงเรียน, อาคารสำนักงาน, โรงพยาบาล,โรงแรม, โรงงาน, คอนโดมิเนียม บ้านเรือนประชาชน ฯลฯ ด้วยค่าบริการที่จับต้องได้เริ่มต้นที่ 3 บาทต่อตรม. โดยบริษัทฯ เชื่อว่าธุรกิจใหม่นี้จะมีส่วนช่วยทำให้บริษัทฯ มีรายได้เพิ่มขึ้นจากธุรกิจนี้ พร้อมผลักดันให้ทั้งปีมีรายได้รวมกว่า 900 ล้านบาท

นายบุญฤทธิ์ มหามนตรี ประธานกรรมการ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า นับแต่เกิดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา และเกิดการระบาดระลอกใหม่ในขณะนี้ ได้ส่งผลต่อแนวโน้มยอดขายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการป้องกัน/ฆ่าเชื้อไวรัสให้เพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และที่มีคุณสมบัติในการช่วยลดการสะสมเชื้อโรค เช่น โฟมล้างมือ, เจลล้างมือ, สเปรย์ฆ่าเชื้อ คิเรอิ คิเรอิ (KIREI KIREI), ครีมอาบน้ำโชกุบุสซึ โมโนกาตาริ, ลุค(LOOK) สเปรย์ฆ่าเชื้อโรคสำหรับพื้นผิวอเนกประสงค์, ผลิตภัณฑ์ซักผ้าเปา (PAO) , น้ำยาล้างจาน ไลปอนเอฟ และรวมถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ เปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้อย่าง แอสคอร์-เท็น (Ascor-10) เป็นต้น

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตอบโจทย์คนห่วงสุขภาพ และเพิ่มความสะดวกสำหรับคนจะทำงานที่บ้าน หรือเวิร์คฟรอมโฮม มากขึ้นเราจึงได้ได้จัดโปรโมชั่นผ่านช่องทางการขายต่างๆ โดยจัดแพ็คเกจพิเศษในกลุ่มสินค้าทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค เช่น โฟมล้างมือเจลล้างมือ ‘คิเรอิ คิเรอิ’ ครีมอาบน้ำโชกุบุสซึ รวมถึงผลิตภัณฑ์ซักล้าง น้ำยาซักผ้า เพื่อช่วยผู้บริโภคในการป้องกันโรคโควิด-19 ได้อย่างมั่นใจ และสามารถช้อปได้ทาง Website : LionShopOnline.com, ช่องทางมือถือสามารถสั่งสินค้าผ่าน LINE Official Account : LIONFAMILY รวมถึงช่องทางออนไลน์ทั่วไป พร้อมบริการจัดส่งถึงบ้านด้วย

นายประพันธ์  ศิริวิริยะกุล  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท  เกษตรไทย  อินเตอร์เนชั่นแนล  ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือกลุ่ม KTIS (เคทิส)  กล่าวว่า ตามที่กลุ่ม KTIS ได้ผลิตแอลกอฮอล์ 70% พร้อมใช้ ภายใต้แบรนด์ KNAS ออกจำหน่ายให้ประชาชนในราคาถูก ต่อเนื่องมาตั้งแต่การระบาดระลอกแรกเมื่อเดือนเมษายน 2563 โดยเริ่มจากแนวความคิดที่ต้องการเห็นราคาแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือในท้องตลาดซึ่งเป็นราคาสูงเกินจริงในขณะนั้น ได้ปรับลดลงมาในระดับที่ไม่เป็นภาระของประชาชนทั่วไป โดย KNAS ขนาด 5 ลิตร จำหน่ายในราคาเพียง 300 บาท

 “ช่วงที่เกิดการระบาดของโควิด-19 ระลอกแรก ราคาแอลกอฮอล์พุ่งขึ้นไปสูงมาก จากความต้องการ แอลกอฮอล์ที่สูง และตั้งแต่ปลายปี 2563 ซึ่งเกิดการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ความต้องการใช้แอลกอฮอล์ก็กลับมาเพิ่มสูงอีกครั้ง ทางกลุ่ม KTIS ก็ยังคงยืนยันในเจตนารมณ์เดิม คือ สนับสนุนให้ประชาชนมีแอลกอฮอล์ที่ใช้ทำความสะอาดมืออย่างทั่วถึง ไม่ขาดแคลน ในราคาที่เป็นธรรม จึงได้ป้อนแอลกอฮอล์ 70% ภายใต้แบรนด์ KNAS เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง”



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ