Toggle navigation
วันจันทร์ ที่ 23 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
วิเคราะห์-บทความ-คอลัมน์
จริงใจ จริงจัง ยั่งยืน! คำมั่น‘รัฐบาลประยุทธ์’
จริงใจ จริงจัง ยั่งยืน! คำมั่น‘รัฐบาลประยุทธ์’
วันจันทร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2557
Tweet
รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เริ่มต้นนับหนึ่ง บริหารประเทศอย่างเป็นทางการ หลังพล.อ.ประยุทธ์ นายกฯ นำทีมคณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายของรัฐบาลทั้ง 11 ด้านต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เรียบร้อยแล้ว ภายใต้หลักการทำงาน “จริงใจ จริงจังและยั่งยืน” โดยประกาศว่าจะต้องทำให้สัมฤทธิผลภายใน 1 ปี
การแถลงนโยบายของรัฐบาลครั้งนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่มีเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญชั่วคราว แต่ด้วย “ธรรมเนียมปฏิบัติ” ตามประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ครม.จะต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งในการแถลงนโยบายครั้งนี้ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเต็มแบบม้วนเดียวจบ หากเทียบกับการแถลงนโยบายของ “รัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์” ที่รัฐสภาเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 เกิดการปะทะกันระหว่างตำรวจกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จนมีผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ
หรือแถลงนโยบายของ “รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2551 ต้องย้ายสถานที่แถลงนโยบายจากอาคารรัฐสภาไปยังกระทรวงการต่างประเทศ เนื่องจากอาคารรัฐสภาถูกปิดล้อมโดยใช้เวลาแถลงเพียงแค่ 1 ชั่วโมง ขณะที่การแถลงนโยบายของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็มีการลุกขึ้นประท้วงในห้องประชุมจนวุ่นวาย
อย่างไรก็ดี ในระหว่างการแถลงนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่า รัฐบาลตระหนักดีว่าแม้ความเร่งด่วนและรุนแรงของปัญหาที่รอแก้ไขเยียวยาจะมีมาก เมื่อเทียบกับกรอบเวลาทำงานอันสั้น ขณะที่ประชาคมโลกกำลังเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงของไทยด้วยความห่วงใย แต่รัฐบาลจะไม่ถือว่าเป็น “จุดอ่อน” หรือข้อจำกัด แต่เป็น “ความท้าทาย” ให้ต้องเร่งคิดเร่งทำจนเกิดผลสัมฤทธิ์
ทั้งนี้ รัฐบาลไม่ได้จัดตั้งขึ้นจากพรรค การเมือง “จึงไม่มีนโยบายที่ใช้หาเสียง หวังคะแนนประชานิยมเป็นฐานทางการเมือง”!!
หากใครติดตามดูการแถลงนโยบายรัฐบาลครั้งนี้ จะเห็นว่ากว่าสองชั่วโมงที่พล.อ.ประยุทธ์ ได้ใช้โอกาสนี้เพิ่มเติมเนื้อหาไว้ในนโยบาย 11 ด้าน ถึงกับยอมรับกับตัวเองว่า “นโยบายมีทั้งหมด 25 หน้าแต่ของผมทำไมถึงมี 97 หน้า สงสัยจะพูดเติมเข้าไปมากหน่อย”
เมื่อมาดูนโยบายฉบับ “ทำก่อน ทำจริง ทำทันที” สาระสำคัญ คือ การบริหาร ราชการแผ่นดินโดยยึดหลักแนวทางพระราชดำริ “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” รวมไปถึงการใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาบริหาร งานประเทศให้เจริญก้าว หน้าอย่างยั่งยืน
โดยเฉพาะนโยบาย ด้านเศรษฐกิจ พล.อ. ประยุทธ์ เน้นย้ำนโยบายเศรษฐกิจเกี่ยวกับการเก็บภาษีสร้างรายได้ชดใช้หนี้ภาครัฐที่สูงถึง 700,000 ล้านบาท โดยต้องปรับปรุงวิธีการจัดเก็บภาษีให้จัด เก็บได้ครบถ้วน โดยปรับ ปรุงโครงสร้างภาษี ให้คงอัตราภาษีเงินได้ในระดับปัจจุบัน ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล แต่ปรับปรุงโครงสร้างภาษีให้คงอัตราด้านการค้าและ “ขยายฐาน” การจัดเก็บภาษีประเภทใหม่
ทั้งนี้ จะเก็บจากทรัพย์สิน เช่น ภาษีมรดก ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และระยะยาวต้องวางรากฐานเพื่อความเจริญเติบโตต่อเนื่อง การบริหารหนี้ภาครัฐที่เกิดขึ้นในช่วงรัฐบาลที่ผ่านมามีจำนวนเงินสูงมากกว่า 7 แสนล้านบาท เป็นภาระงบประมาณใน 5 ปีข้างหน้า จะทำให้เหลืองบประมาณเพื่อการลงทุนพัฒนาประเทศน้อยลง โดยประมวลหนี้เหล่านี้ให้ครบ ถ้วนหาแหล่งเงินระยะยาวมาสะสางหนี้ทั้งหมด และยืดระยะเวลาชำระคืนให้นานที่สุดเพื่อลดภาระงบประมาณในอนาคต
ส่วนนโยบาย ด้านความมั่นคง พล.อ. ประยุทธ์ แจงเรื่องของการบริหารจัดการชายแดน ว่า เราต้องสร้างความไว้วางใจกับประเทศเพื่อนบ้าน ว่าเราจะรบกันอีกหรือเปล่า จะรบกันไปทำไม เดี๋ยวนี้โลกไร้พรมแดนแล้ว เราต้องทำให้เป็นพรมแดนที่ ร่วมมือกัน เป็นพรมแดนแห่งสันติสุข อยากให้เดินไปอย่างนั้น เราต้องสร้างตัวเองให้เข้มแข็ง มีศักยภาพเพื่อใช้ในการต่อรอง แต่ไม่ใช่มีไว้รบกัน แต่มีไว้เพื่อสร้างความทัดเทียมกัน
อีกเรื่องก็สำคัญ คือ การปฏิรูปการศึกษา ที่ต้องปรับปรุงคือระบบการกู้ยืมให้มีประสิทธิภาพ ให้คนยากจนได้ไป ขณะเดียวกันต้องส่งเสริมการเรียนสายอาชีพ สายอาชีวศึกษา สนับสนุนให้เป็นช่าง และจะทำอย่างไรถึงจะเชื่อมโยงให้เด็กที่เรียนจบไปได้ทำงาน มีบริษัทมาจองตัวตั้งแต่ปี 3 ปี 4 รวมทั้งให้ผู้ที่เรียนจบด้านอาชีวะมีเกียรติยศศักดิ์ศรี
ด้านการปรับปรุงกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม พล.อ.ประยุทธ์ชี้แจงว่า จะจัดตั้งองค์กรปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ปราศจากการแทรกแซงของรัฐนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยและความรู้ทางนิติวิทยาศาสตร์มาใช้เพื่อเร่งรัดดำเนินคดีทุกขั้นตอนให้รวดเร็ว เป็นธรรม และมีระบบฐานข้อมูลเชื่อมโยงกัน รวมทั้งปรับปรุงระบบช่วยเหลือทางกฎหมายและค่าใช้จ่ายแก่ประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ให้เข้าถึงความเป็นธรรมได้ง่าย ส่งเสริมกองทุนยุติธรรม เพื่อคุ้มครองช่วยเหลือคนจนและผู้ด้อยโอกาส
“...นโยบายทั้งหมด พูดให้ดี เขียนให้หรู ไม่ได้ทำ ก็ไม่เกิดประโยชน์ แล้วจะเหนื่อยทำไม เพราะฉะนั้นทุกกระทรวงจะต้องยึดถือแล้วนำไปปฏิบัติ และทำริเริ่มเพิ่มเติมไปด้วย สิ่งไหนทำได้ ก็ทำทันที แล้วให้เกิดผลสัมฤทธิ์ภายใน 1 ปี อันไหนที่ยั่งยืนก็ทำต่อเพื่อรัฐบาลหน้า เพราะบางอย่างใช้เวลาเป็นชาติ...”
ตอนท้าย พล.อ.ประยุทธ์ ระบุด้วยว่า ไม่ได้ทำเพื่อใคร แต่ทำเพื่อประเทศ นโยบายของรัฐบาลคือ ทำก่อน ทำจริง ทำทันที เกิดผลสัมฤทธิ์ และยั่งยืน ส่วนหลักการของรัฐบาลคือ “จริงใจ จริงจัง และยั่งยืน”
เหล่านี้คือการแถลงนโยบายของ รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ต่อรัฐสภา ยึดหลักตามแนวทางพระราชดำริ เสริมสร้างค่านิยมให้คนในชาติ 12 ข้อ ปฏิรูป 11 ด้าน และแนวทางนโยบายบริหารแผ่นดินอีก 11 ด้าน สิ่งที่ปรากฏในถ้อยคำแถลงล้วนแล้วแต่จะเป็นผลดีต่อประเทศชาติอย่างใหญ่หลวง
หากทำให้สัมฤทธิผลได้จริง!!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
ภาษีบุหรี่ ค้างคา "แช่แข็ง" ไม่เดินหน้...
...
อะไรคือ ? โจทย์ใหญ่ กระทรวงการคลัง ที่มา...
...
ttb analytics มองเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็ง...
...
มาตรการ MPOWER เสาหลักกฎหมายควบคุมผลิตภั...
...
“ทักษิณ” พ่อมดการเมือง????...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ