นางศุภจี สุธรรมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทเชื่อมั่นว่าตลาดการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นจะสามารถกลับมาแข็งแกร่งและเป็นที่นิยมเหมือนเช่นเดิม หลังจากต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ในสถานการณ์ปัจจุบัน ยิ่งไปกว่านั้น เกียวโตยังเป็นจุดหมายปลายทางอันยอดเยี่ยม ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ มรดกทางวัฒนธรรม ล่าสุด กลุ่มดุสิตธานี ได้ลงนามในสัญญาบริหารโรงแรมดุสิตธานี เกียวโต ซึ่งเป็นโรงแรมภายใต้แบรนด์ “ดุสิตธานี” แห่งแรกในประเทศญี่ปุ่น กับบริษัท ยาสุดะเรียลเอสเตท จำกัด บริษัทที่เน้นพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อชุมชนที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงโตเกียว โดยลงนามผ่านบริษัท ดีแอนด์เจ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของกลุ่มดุสิตธานีในกรุงโตเกียวด้วยเช่นกันซึ่งข้อตกลงครั้งนี้จะทำให้ ดุสิตธานี กลายเป็นแบรนด์โรงแรมไทยแห่งแรกในเมืองที่เต็มไปด้วยมรดกทางวัฒนธรรมอย่างเกียวโต และสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของดุสิตในการขยายการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว อาทิ การสร้างงานในชุมชน การสนับสนุนเศรษฐกิจ และการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบ
ทั้งนี้ โรงแรมดุสิตธานี เกียวโต ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ห่างจากสถานีเกียวโตในย่านฮอนกันจิ มอนเซน-มาชิ เพียง 850 เมตร ได้รับการออกแบบให้เป็นสไตล์ญี่ปุ่นร่วมสมัยขนาด 4 ชั้น มีห้องพักประมาณ 150 ห้อง และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน พร้อมโรงแรมรายล้อมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญหลายแห่ง เช่น วัดฮิกะชิ ฮอนกันจิ, วัดนิชิ ฮอนกันจิ, เกียวโตทาวเวอร์ และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเกียวโตนอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถไปยัง กิออน ย่านเกอิชา ด้วยรถไฟเพียง 10 นาที หรือไปเที่ยวตลาดนิชิกิ ซึ่งเป็นตลาดและถนนสายช้อปปิ้งที่โด่งดังที่สุดในเมืองเกียวโต โดยคาดว่าจะเปิดได้ภายในเดือน ก.ย. ปี 2566 ซึ่งตอนนั้นมั่นใจว่าการท่องเที่ยวญี่ปุ่นฟื้นกลับมาอย่างแข็งแกร่งเช่นเดิม
“สำหรับในปี 2562 ที่ผ่านมา มีผู้มาเยือนเกียวโต 87.91 ล้านคน เพิ่มขึ้น 2.86 ล้านคนจากปี 2561 ในขณะที่สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทำให้การท่องเที่ยวระหว่างประเทศหยุดชะงักชั่วคราวจากการจำกัดการเดินทาง ซึ่งผู้บริหารของดุสิตธานี คาดการณ์ว่า เมืองเกียวโตจะกลับมาเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่สำคัญเช่นเคย เมื่อนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นได้อีกครั้ง”
ทั้งนี้ ปัจจุบันกลุ่มดุสิตธานี ประกอบด้วย โรงแรมและรีสอร์ทจำนวน 339 แห่ง ที่ดำเนินงานภายใต้ 6 แบรนด์ใน 14 ประเทศ โดยดุสิตได้มีโอกาสบุกเข้าตลาดญี่ปุ่นเมื่อไม่นานมานี้ ผ่านอีลิธ เฮเวนส์ ซึ่งเป็นบริษัทรับบริหารวิลล่าหรูชั้นนำในเอเชีย ที่รับบริหาร สกีชาเล่ท์ ซึ่งเป็นพี่พักบนภูเขาในสกีรีสอร์ทสุดหรูที่นิเซโกะ