เทรนด์ชอปปิ้งออนไลน์แรงดันตลาดอีคอมเมิร์ซโตพุ่ง กระตุ้น 3 แบรนด์ธุรกิจขนส่งพัสดุงัดกลยุทธ์แข่งเดือด

วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2563

เทรนด์ชอปปิ้งออนไลน์แรงดันตลาดอีคอมเมิร์ซโตพุ่ง กระตุ้น 3 แบรนด์ธุรกิจขนส่งพัสดุงัดกลยุทธ์แข่งเดือด


จากการวิเคราะห์ตั้งแต่ ช่วงต้นปีที่แล้วของปีนี้ ตาม SCB EIC เปิดรายงานวิเคราะห์อุตสาหกรรมขนส่งพัสดุของไทย พบว่าภาคธุรกิจนี้มีโอกาสเติบโต 35% YoY ในปี 2020 ทำให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 6.6 หมื่นล้านบาท เนื่องจากธุรกิจอี-คอมเมิร์ซซึ่งเป็นแรงผลักดันสำคัญยังคงเติบโต โดยมองว่าปีนี้อี-คอมเมิร์ซจะโตขึ้นอีก 17% YoY ทำให้มีมูลค่าแตะ 1 แสนล้านบาท จากปัจจัยนี้เองยิ่งส่งผลให้ภาพรวมตลาดธุรกิจขนส่งพัสดุก็มีการแข่งขันกันดุเดือดเพิ่มมากขึ้นและเริ่มมีผู้เล่นหน้าใหม่ทั้งไทยและต่างประเทศเข้ามาลงเล่นในธุรกิจนี้จำนวนมากจากเดิมเริ่มแรกมีผู้ประกอบการหน้าเก่าหลักที่เราคุ้นเคยอยู่  2 เจ้า คือ “ไปรษณีย์ไทย” และ “Kerry Express”  แต่ปัจจุบันพบว่าในประเทศไทยมีธุรกิจผู้ให้บริการขนส่งพัสดุและโลจิสติกส์มากกว่า 10 ราย  และยังมีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาเรื่อย ๆ

ทั้งนี้ จากในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ช่วงที่ผ่านมายิ่งส่งผลผลักดันให้พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปต้องการช้อปปิ้งออนไลน์ที่มากขึ้น ก็ยิ่งส่งผลให้ธุรกิจตลาดอีคอมเมิร์ซที่เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด จนพวงมาถึงธุรกิจบริการขนส่งพัสดุโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในแง่รายได้ และปริมาณการขนส่ง จนยิ่งทำให้สภาวะการแข่งขันยิ่งเพิ่มสูงขึ้นไปอีก ส่งผลให้เหล่าผู้ประกอบการธุรกิจขนส่งพัสดุต่างงัดกลยุทธ์ออกมาสู้กันอย่างดุเดือด ไม่ว่าจะเป็นทางด้านราคา , ความรวดเร็วและปลอดภัยในการขนส่ง , จุดบริการ และการสร้างแบรนด์ด้วยการมีพรีเซ็นเตอร์ เป็นต้น ซึ่งล่าสุดนี้ 3 แบรนด์ ได้แก่ BEST Express (เบสท์ เอ็กซ์เพรส) ,KERRY EXPRESS (เคอรี่ เอ็กซ์เพรส). และ 'แฟลช เอ็กซ์เพรส' (Flash Express) ต่างงัดกลยุทธ์ออกมาลุยทำตลาดปลายปีนี้

** เคอรี่ เอ็กซ์เพรส เปิดโครงการ Kerry Grow Greenง นำร่องรับ-ส่งพัสดุ ด้วยมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า **

นาย อเล็กซ์ อึ้งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการจัดส่งพัสดุด่วนทั่วไทย กล่าวว่า เทรนด์การใช้รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเรียกได้ว่ากำลังเป็นกระแสที่ถูกจับตาว่าจะกลายมาเป็นพาหนะแห่งยุคดิจิทัล เนื่องมาจากได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง จากในอดีตที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเพียงสมรรถนะของมอเตอร์ไฟฟ้า และความจุและระยะการใช้งานของแบตเตอร์รี่ต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง โดยข้อจำกัดของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจะอยู่ที่ระยะทางของการใช้งานต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และความเร็วที่ไม่สามารถวิ่งได้เทียบเท่ากับรถมอเตอร์ไซค์ทั่วไป อย่างไรก็ตามในปัจจุบันมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าได้ถูกพัฒนาให้มีความสามารถในการใช้งานได้เทียบเท่ากับรถมอเตอร์ไซค์แบบเครื่องยนต์ เทคโนโลยีอันทันสมัยในปัจจุบันทำให้สามารถวิ่งได้เร็วเทียบเท่ากับรถมอเตอร์ไซค์ปกติอีกทั้งยังก้าวไกลไปจนถึงความสามารถในการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบสภาพรถได้ด้วยตนเองไปแล้ว

ล่าสุด เราได้เปิดตัวโครงการ “Kerry Express Grow Green” นำร่องทดลองใช้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในการจัดส่งพัสดุ โดยในเฟสแรกจะเริ่มต้นใช้ในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายประหยัดพลังงาน รักษาสิ่งแวดล้อมของบริษัทฯ และแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัทฯ ที่เน้นการดำเนินธุรกิจอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและพร้อมเป็นแบบอย่างให้กับภาคอุตสาหกรรม โดยในเฟสแรกของโครงการเราวางแผนที่จะนำรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามาใช้ในศูนย์กระจายสินค้าของเคอรี่ในเขตกรุงเทพฯ เป็นระยะเวลา 4 เดือน เพื่อศึกษา และเปรียบเทียบประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงานต่อระยะทางในการขับขี่ ตลอดจนการซ่อมแซมและบำรุงรักษา โดยจะนำมาคำนวณจากรถจักรยานยนต์กว่าพันคันของเคอรี่ที่ใช้ในการให้บริการอยู่บนท้องถนนในปัจจุบัน เพื่อที่จะนำมาพัฒนาและปรับปรุงให้เหมาะสมแก่ภาคธุรกิจและนำไปสู่การนำมาใช้งานจริงในระยะยาว โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ที่จะเกิดแก่สิ่งแวดล้อม และสังคมไทยเป็น

“ในปัจจุบันเคอรี่ เอ็กซ์เพรส เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมขนส่งพัสดุในประเทศไทยโดยมีจำนวนยานพาหนะที่ใช้ขนส่งอยู่กว่า 20,000 คัน โครงการ Kerry Express Grow Green เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเรา ในฐานะที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมที่มีจำนวนพนักงานมากที่สุด เรายังคงมุ่งมั่นในการทำงานโดยคำนึงถึงจุดยืนของบริษัทฯ ที่ไม่เคยหยุดที่จะทดลองและนำนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งใหม่ ๆ มาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศไทยทั้งยังใส่ใจในสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ลูกหลานของพนักงานของเราและประชาชนชาวไทยได้มีอากาศบริสุทธิ์เพื่ออนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน” นายอเล็กซ์ กล่าวเสริม

** “BEST Express” ผุดโครงการขนส่งวิถีชีวิตใหม่สไตล์ New Normal ช่วย ตุ๊กตุ๊กไทยลุยอีคอมเมิร์ซฝ่าโควิด-19 **

นายเจสัน เชียน ผู้จัดการทั่วไปภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประธานกรรมการ บริษัท เบสท์ โลจิสติกส์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า กว่า 8 เดือนแล้วที่เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 ได้ระบาดไปเกือบทั่วโลก แม้สถานการณ์ในบางประเทศจะดีขึ้น และมาตรการควบคุมโรคมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่จำนวนผู้ติดเชื้อในภาพรวมทั่วโลกยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเกือบถึง 30 ล้านรายแล้ว ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตทะลุเกือบ 1 ล้านราย ผลกระทบต่างๆ ที่กล่าวมายังไม่นับรวมผลกระทบต่อเนื่องไปยังภาคการค้าระหว่างประเทศ ภาคการลงทุนในประเทศ รวมถึงการท่องเที่ยวที่กระทบหนักที่สุด ซึ่งคาดว่าในช่วงที่เหลือของปี 2563 ก็ยังไม่สามารถพลิกกลับมาเป็นบวกได้

โดยรายได้การท่องเที่ยวในปีนี้อาจสูญเสียไปราว 1.69 ล้านล้านบาท จากตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทยเที่ยวในประเทศทั้งปี (ข้อมูลอ้างอิงจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย) จากสถานการณ์ข้างต้นได้สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้คนหลากหลายอาชีพ ไม่เว้นแม้แต่ผู้ขับขี่รถโดยสาร รถตุ๊กตุ๊ก อย่างที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ตลอดระยะเวลาช่วงวิกฤตโควิด19 ที่ผ่านมา พิษโควิดกระทบต่อคนขับรถตุ๊กตุ๊ก พากันจอดเรียงตามสถานที่ท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากโดยปราศจากนักท่องเที่ยวใช้บริการ และด้วยความซบเซาของเศรษฐกิจเช่นนี้ทำให้ผู้ขับขี่รถตุ๊กตุ๊กขาดรายได้มากยิ่งขึ้น

ซึ่งในทางกลับกันแล้ว ธุรกิจ E-Commerce (อีคอมเมิร์ซ) และธุรกิจโลจิสติกส์ นับว่าเป็นธุรกิจที่โตสวนกระแส ยิ่งช่วงวิกฤตโควิด-19 ขณะนี้ ทำให้มูลค่าการสั่งสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ้น และธุรกิจโลจิสติกส์ก็มีจำนวนพัสดุเพิ่มมากขึ้นอย่างมหาศาล เป็นผลพลอยได้จากมูลค่าตลาด E-Commerce (อีคอมเมิร์ซ) ที่นับวันจะเติบโตขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง และด้วยการเติบโตของธุรกิจ E-Commerce นี้ ทำให้ BEST Express บางศูนย์บริการสาขา ได้เพิ่มจำนวนรถขนส่งมากขึ้น และหนึ่งในนั้นก็ได้เปิดโอกาสให้รถตุ๊กตุ๊กเข้าร่วมส่งพัสดุกับ BEST Express จากวิ่งส่งให้หนึ่งสาขาเพิ่มเป็นสองและสามสาขา

 ด้วยเหตุนี้ทางบริษัทฯ จึงเกิดเป็นไอเดียและอยากเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งอันน้อยนิดช่วยเหลือเพื่อพี่น้องรถตุ๊กตุ๊กไทยที่กำลังขาดแคลนรายได้จากวิกฤตโควิด รวมถึงต้องการคงความเป็นเอกลักษณ์ รถตุ๊กตุ๊กไทย ให้โลดแล่นต่อไปดังเดิม จนเกิดเป็นโครงการใหญ่ โดยเป็นความร่วมมือระหว่าง BEST Express และบริษัท ไทย คิงมอเตอร์ อินโนเวชั่น จำกัด ร่วมพลิกวิกฤตโควิดครั้งนี้ เสริมรายได้สนับสนุนอาชีพ “รถตุ๊กตุ๊กไทย” เปลี่ยนวิกฤตสู่โอกาส มาร่วมวิ่งรถตุ๊กตุ๊กส่งพัสดุทั่วไทยกับ BEST Express โดยทางบริษัทฯ ได้เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีรถตุ๊กตุ๊ก และกำลังประสบปัญหาขาดแคลนรายได้จากพิษโควิด มาสมัครร่วมจัดส่งพัสดุกับบริษัทฯ ซึ่งโครงการจะเปิดให้ผู้ที่สนใจในทุกพื้นที่ส่งข้อมูลรายละเอียดมาร่วมสมัครกัน โดยทาง BEST Express และบริษัท ไทย คิงมอเตอร์ อินโนเวชั่น จำกัด จะทำการคัดกรองคุณสมบัติผู้สมัครร่วมกัน รวมถึงพิจารณาในหลาย ๆ ส่วน อาทิ เขตพื้นที่การเดินรถ ความพร้อมของผู้สมัคร และคุณสมบัติครบถ้วนตามข้อกำหนดของ BEST Express

“BEST Express นอกจากจะเป็นบริษัทฯ ขนส่ง ที่ให้บริการ รับ-ส่งพัสดุด่วนทั่วไทยแล้ว เรายังมองว่า ช่วงหลังโควิดนี้ธุรกิจท่องเที่ยวยังคงซบเซาอยู่ ดังนั้นเราทุกคนต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เมื่อเขาประสบปัญหา เราก็ควรช่วยเหลือพวกเขา เพื่อที่ในภายภาคหน้าพวกเขาจะประกอบอาชีพสุจริตและขยันทำมาหากินไม่ตกทุกข์ได้ยากอีกต่อไป และทาง BEST Express ยังคงหวังในใจที่จะจัดทำโครงการอื่น ๆ ต่อไป เพื่อรองรับการช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยเท่าที่ BEST Express จะสามารถช่วยเหลือได้

** “แฟลช เอ็กซ์เพรสควักงบกว่า 100 ลบ.ดูดนักช้อปออนไลน์ส่งพัสดุทะลุ 2 ล้านชิ้น/วัน **

นายคมสันต์ ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด ผู้ให้บริการขนส่งสัญชาติไทยแบบครบวงจร กล่าวว่า ตลอดระยะเวลามากกว่า 2 ปี ในการให้บริการ เราอยากขอบคุณคนไทยทั้งประเทศที่ให้การสนับสนุน และไว้วางใจใน แฟลช เอ็กซ์เพรส มาโดยตลอด และเพื่อเป็นการตอบแทนลูกค้าบริษัทฯ จึงได้ทุ่มงบการตลาดมากกว่า 100 ล้านบาท จัดโปรโมชั่นส่งท้ายปลายปี และยังเป็นการต้อนรับเทศกาลอีคอมเมิร์ซที่จะมาถึง เพื่อให้ลูกค้าได้มีความสุขกับการช้อปปิ้งออนไลน์

ในส่วนของโปรโมชั่นที่ แฟลช เอ็กซ์เพรส เตรียมส่งมอบความคุ้มค่าให้แก่ลูกค้าแบบจัดเต็มพร้อมกันทั่วประเทศ มีตั้งแต่ การปรับฐานราคาค่าจัดส่งพัสดุใหม่สุดคุ้มทุกวัน เริ่มต้นเพียง 18 บาท เมื่อส่งพัสดุในจังหวัดเดียวกันทั่วไทย เริ่มตั้งแต่ 1 กันยายนที่ผ่านมา, การส่งพัสดุสุดคุ้มX2 เพียง 9.9 บาท  ทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ ตั้งแต่วันนี้ จนถึง วันที่ 1 พ.ย. 2020 และการปรับวิธีคิดคำนวนอัตราค่าบริการแบบใหม่ช่วยขยายความคุ้มค่าในการจัดส่งพัสดุเริ่มต้นที่ 0-3 กก.ลดสูงสุด 70%  โดยพัสดุไซส์เล็กก็จะเป็นการคิดคำนวณจากน้ำหนักพัสดุอย่างเดียว

 “แฟลช เอ็กซ์เพรส ขอให้คำมั่นสัญญาว่าจะเป็นผู้ให้บริการขนส่งเจ้าแรกเพียงเจ้าเดียวที่ไม่ว่าจะต้องเผชิญกับต้นทุนการทำบริการที่สูงแค่ไหน บริษัทฯ จะยังคงนโยบาย การเข้ารับพัสดุฟรีถึงหน้าบ้านตั้งแต่ชิ้นแรก (Door to door service) ตลอด 365 วัน ไม่บวกเพิ่ม ไม่มีขั้นต่ำ และไม่มีวันหยุดและรับรองว่าไม่มีขนส่งเจ้าไหนกล้าทำอย่างแน่นอน และจากสถิติที่บริษัทฯ ได้รบรวมไว้พบว่า บริการรับฟรีถึงบ้านตั้งแต่ชิ้นแรกที่แฟลช เป็นผู้ริเริ่มสามารถช่วยให้ลูกค้าลดค่าเดินทางได้เฉลี่ย 30 บาท และยังประหยัดเวลาในการใช้ชีวิตได้กว่า 65 นาที จากการที่ไม่ต้องไปเข้าคิวส่งของ

อย่างไรก็ดีบริษัทฯ จะยังคงรักษามาตรฐานเพื่อสร้างบริการที่ดี และไม่หยุดที่จะพัฒนาการบริการของเราให้ดียิ่งขึ้นอยู่เสมอ  และในเร็วๆนี้บริษัทฯ เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่จะเข้ามาสร้างการเปลี่ยนแปลงวงการขนส่งไทย ตลอดจนการคิดค้น และพัฒนา Platform การใช้งานในฟังก์ชั่นต่างๆ ที่จะสามารถตอบสนองต่อพฤติกรรมของลูกค้าคนไทยได้อย่างครอบคลุมในระยะยาวต่อไป



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ