นายภาณุศักดิ์ ซื่อสัตย์บุญ ผู้จัดการทั่วไป เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ภายใต้การดำเนินการของ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดธุรกิจพิซซ่าในไทยมีมูลค่ารวมอยู่ที่ราว 15,000 ล้านบาท เฉลี่ยต่อปีโตปีละ 10-15 % แต่จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คาดว่าปีนี้น่าจะโตอยู่ที่ราว 8-9% สำหรับในส่วนของเดอะ พิซซ่า คอมปะนี เองภาพรวมผลประกอบการในช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมาของปีนี้เติบโตอยู่ที่ 6% ถึงแม้ว่าเราจะได้มีการปิดบริการหน้าร้านชั่วคราวประมาณเกือบ 2 เดือน แต่ช่วงเวลาดังกล่าวกลับส่งผลให้ช่องทางดีลิเวอรีเราเติบโตมากกว่า 2 เท่าซึ่งก็คงเหมือนตลาดรวมทั่วไป ทำให้ขณะนี้สัดส่วนรายได้มาจากดีลิเวอรี 40% นั่งรับประทานในร้าน 20% และเทกอะเวย์ 40% ซึ่งส่วนใหญ่ในต่างจังหวัดจะซื้อแบบเทกอะเวย์มากกว่าในกรุงเทพฯ
อย่างไรก็ตาม แม้ภายหลังจากสถานการณ์โควิด-19ในไทยเริ่มคลี่คลายดีขึ้น แต่ตลาดภาพรวมยังคงค่อนข้างเงียบเนื่องจากผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่าย ซึ่งพบว่าผู้เข้าใช้บริการกลับมาเพียงแค่ 50% เท่านั้น ดังนั้นเราจึงต้องวางแผนปรับแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างไร เพื่อจะเป็นการดึงคนกลับเข้ามาใช้บริการนั่งทานในร้านมากขึ้น ซึ่งเราจึงได้จัดแคมเปญออกเมนูนิวยอร์กพิซซ่ายักษ์ XXXL 18 นิ้ว ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีสามารถทำให้ผู้เข้าใช้บริการกลับมาที่ 80% ของแต่ละสาขาที่เปิดให้บริการ
ผู้บริหาร กล่าวต่อว่า แม้ว่าปัจจุบันนี้สถานการณ์ในไทยจะคลี่คลายลงแต่เรายังไม่สามารถเปิดน่านฟ้าได้ส่งผลให้นักท่องเที่ยวยังไม่สามารถเดินทางมาเที่ยวภายในประเทศได้ ส่งผลให้ขณะนี้บริษัทยังปิดให้บริการชั่วคราวในบางสาขาอยู่ รวมประมาณ 7 แห่ง โดยเฉพาะสาขาที่จับตลาดนักท่องเที่ยว อาทิ ภูเก็ต,สมุย, พัทยา,เชียงใหม่ เป็นต้น และปิดถาวรในสาขาที่เปิดบริการก็ไม่คุ้มค่าอีก 4 สาขาเช่น สาขาเอเชียทีค สาขาเดอะมาร์เก็ต สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว สาขาเมญ่าเชียงใหม่ เป็นต้น ซึ่งขณะนี้บริษัทฯ มีสาขารวมในไทยอยู่ที่ 426 สาขา
โดยปีนี้ บริษัทฯ จึงได้ชะลอการลงทุนในเรื่องการขยายสาขาจากเดิมที่จะเปิด 8 สาขา ต้องเลื่อนแผนการลงทุนหลักไปเป็นปีหน้าหากสถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับซึ่งมองว่าน่าจะดีขึ้นได้ประมาณกลางปีปีหน้า ถ้าเริ่มมีวัคซีนที่ใช้ได้ผลแล้ว และเริ่มมีการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เริ่มเข้ามาไทยได้บ้าง กำลังซื้อของผู้บริโภคที่ดีขึ้น ภาวะเศรษฐกิจรวมดีขึ้นก็คาดว่าปีหน้าคงได้เดินหน้าตามแผนในการลงทุนที่วางไว้ โดยในเบื่องต้นมองว่าเราจะมีการปรับรูปแบบการลงทุนสาขาเป็นรูปแบบ โมเดลร้านที่เล็กลงกว่าเดิมจากปกติ 300 ตารางเมตร เหลือประมาณ 180-200 ตารางเมตร
“ถึงแม้ว่าเราจะชะลอแผนการลงทุนแต่ในเรื่องการของการทำตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ซึ่งถือเป็นช่วงไฮซีซั่น ล่าสุด เราจึงได้ออกแคมเปญ “พิซซ่าซึ้งๆ มาให้เธอ” ที่รับทำข้อความบนกล่องพิซซ่าเพื่อส่งไปที่บ้าน มีทั้งหมด 21 ข้อความ จาก 7 หมวดความรู้สึก เริ่ม 8 ตุลาคม - 22 พฤศจิกายน 2563 ควบคู่ไปกับการทำมิวสิคมาร์เก็ตติ้งครั้งแรก โดยร่วมมือกับทางแกรมมี่ในการนำวงดนตรี Tilly Birds มาถ่ายทอดเพลงเก่าของ วสันต์ โชติกุล กับเพลง "ให้เธอ" เพื่อเป็นการขยายกลุ่มเป้าหมายคนไทยที่เป็นกลุ่มรุ่นใหม่ให้มากขึ้น อีกทั้งยังจัดบิ๊กเซอร์ไพรส์ให้บรรดาลูกค้าที่มารับประทานที่ร้านในเดือนตุลาคม ควบคู่ไปกับการจัดโปรโมชันพิเศษ 1 แถม 1 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ทำแคมเปญ 1 แถม 1 ในเดือนตุลาคม เพราะปกติจะทำเดือนมีนาคมที่เป็นเดือนเกิด ซึ่งคาดว่าไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะสามารถผลักดันยอดขายเติบโตได้ราว 20%”