นางสาวภารดี สินธวณรงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า คงปฏิเสธไม่ได้ว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับผลในทางบวกจากสถานการณ์ระบาดโควิด-19 แต่สิ่งที่ลาซาด้าให้ความสำคัญมากที่สุดคือการอยู่เคียงข้างสังคมไทยเป้าหมายของเราในสถานการณ์เช่นนี้คือการสนับสนุนผู้ขาย ผู้บริโภค ชุมชน และสังคม ให้เข้มแข็งขึ้นไปพร้อมๆกับเราด้วยลาซาด้าจึงนำศักยภาพและพลังของอีคอมเมิร์ซมาใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพเพื่่่อช่วยสังคมไทยในทุกภาคส่วนท่ามกลางสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้แม้สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19ในปัจจุบันจะเริ่มคลี่คลายลงแต่หลายๆชีวิตยังคงได้รับผลกระทบโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจลาซาด้าพร้อมยืนหยัดอยู่เคียงข้างสังคมไทยต่อไปเพื่อร่วมเป็นอีกหนึ่งพลังที่จะส่งให้เศรษฐกิจและสังคมไทยสามารถเดินหน้าได้อีกครั้ง
ดังนั้น ลาซาด้าเราถือเป็นผู้นำด้านอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะอยู่เคียงข้างและสนับสนุนสังคมไทยให้ก้าวต่อไปได้ในทุกสถานการณ์ด้วยการมอบสินค้าอุปโภคบริโภครวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ให้กับชุมชนต่างๆ รวมถึงมูลนิธิกระจกเงาเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของโครงการ “จ้างวานข้า” และได้จัดมอบข้าวสารที่จำเป็นรวมกว่า 5,000 กิโลกรัม ให้แก่สุนัขจรจัดผ่านมูลนิธิเดอะแมนแดทเรสคิวส์ดอกส์ บ้านหมาน้อยแฮปปี้ และบ้านรักหมาป้าพีร์ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากผลกระทบของโรคโควิด-19และเสริมกำลังใจให้ชุมชนไทยสามารถก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้ด้วยกันภายใต้โครงการ#StrongerTogether จากใจถึงใจ สู้ไปด้วยกัน
ทั้งนี้ ลาซาด้าริเริ่มโครงการ #StrongerTogether จากใจถึงใจสู้ไปด้วยกันเพื่อมอบความช่วยเหลือให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 มาตั้งแต่เดือนเมษายน ผ่านแคมเปญและกิจกรรมต่างๆเช่น SME Stimulus Package ที่ช่วยเหลือผู้ขายรายใหม่แล้วกว่า 90,000 ราย โครงการ LazadaForGood ให้ทุกใจได้ทำดีเปิดช่องทางบริจาคออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มลาซาด้าและมอบเงินสนับสนุนจำนวน 3 ล้านบาทให้กับโรงพยาบาลเพื่อสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล เป็นต้น ทั้งหมดนี้เพื่อให้ทั้งลาซาด้า ผู้ขาย ลูกค้า ชุมชน และสังคมไทยได้ก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน