วีระ เกษตรสิน Head of Engineering บริษัท LINE ประเทศไทย กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปี LINE API มีฟีเจอร์ใหม่เปลี่ยนแปลงหลายจุดเพื่อให้นักพัฒนาสามารถนำไปต่อยอดในบริการของตัวเองจำนวนนักพัฒนาที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้จำนวนแชทบอทบน LINE เติบโตขึ้นเช่นกันโดยปัจจุบัน LINE มีแชทบอทรวม 130,000 ตัว เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาขณะที่ใน 1 วันมีผู้ใช้งานแชทบอทบน LINE มากกว่า 43 ล้านข้อความและ LIFF app (LINE Front-end Framework) มีจำนวนเกิน 5,500 แอปส่งให้ยอดผู้ใช้งาน LIFF app เพิ่มขึ้นเป็น 3 ล้านคนต่อวัน
“LINE Developer community มีการเติบโตที่ดีมากวันนี้จำนวนนักพัฒนาใน community มีมากกว่า 17,000 คน จากปีที่แล้วอยู่ที่ 8,000 คน เพิ่มขึ้น 1 เท่าตัวภายในเวลาเพียง 1 ปีเท่านั้นเองผมต้องขอขอบคุณทีม Developer Relations กลุ่ม LINE AI Expert และนักพัฒนาทุกคนที่ร่วมกันสร้างสรรค์และผลักดันการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
สำหรับไฮไลท์ของ Messenger API คือการเพิ่มความสามารถที่จะเปลี่ยนไอคอนและชื่อแอคเคาท์เนมของออฟฟิศเชียลแอคเคาท์หรือแชทบอทได้อย่างเสรีทำให้ลูกค้าองค์กรแถวหน้าของไทย อาทิ ธนาคารไทยพาณิชย์สามารถนำ Live Agent หรือทีมงานคนเข้ามาร่วมให้บริการกับแชทบอทบน SCB Connect เพื่อให้สามารถตอบคำถามของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นเพราะการเปลี่ยนรูปภาพและชื่อแอคเคาท์สลับระหว่างแชทบอทและแอดมินได้อย่างลงตัวทำให้ธนาคารสามารถนำแชทบอทมาให้บริการได้อย่างประหยัดค่าใช้จ่ายและทำงานได้ 24 ชั่วโมง โดยที่ลดปัญหาลูกค้ารู้สึกว่าแชทบอทไม่ฉลาดเพราะตอบคำถามผิดพลาด
อีกทั้ง ทีม KBTG จากธนาคารกสิกรไทยที่พัฒนาแชทบอท “ขุนทอง” ซึ่งถือเป็นกรณีศึกษาสำคัญเรื่องการสร้างแชทบอทในกลุ่ม LINE เป็นการพัฒนา LINE API ที่ตรงใจผู้ใช้ได้อย่างโดดเด่นเพราะผู้ใช้ไม่ต้องติดตั้งแอปพลิเคชันและสามารถใช้ LINE LOGIN เพื่อยืนยันตัวตนว่าเป็นผุ้ใช้ที่มาจาก LINE จริง ขณะที่ API ของ LINE ไม่เพิ่มต้นทุนให้บริการฟีเจอร์อื่นที่มีการอัปเดทคือ LINE Emoji ที่เปิดให้นักพัฒนาสามารถที่ส่งอิโมจิน่ารักผ่านข้อความที่เป็น Text Massage ได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องแปลงเป็นโค้ด เพราะสามารถกำหนด Emoji ID แล้วแนบไปกับข้อความเพื่อส่งไปหาผู้ใช้ได้เลยนอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ที่เปิดให้นักพัฒนารู้ว่าผู้ใช้ใช้งานภาษาอะไร ทำให้ส่ง Rich Menu ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
อีกทั้ง LINE ยังเพิ่ม Narrowcast API ให้นักพัฒนาส่งข้อความถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดีกว่าเดิมสามารถเลือกส่งเฉพาะกลุ่มคนที่เคยเห็นข้อความก่อนหน้านี้เท่านั้น รวมถึง Multicast API ที่ปลดล็อคจากก่อนหน้านี้ที่สามารถส่งหาผู้ใช้ได้สูงสุด 150 คน มาเป็นการส่งได้สูงสุด 500 คนต่อ 1 รีเควสท์ และสำหรับ Rich Menu ที่นิยมมากในผู้ใช้ LINE Official Account การอัปเดททำให้ Official Account สามารถเปลี่ยนแปลง Rich Menu ด้วย API พร้อมกันสูงสุด 500 คน จากเดิมที่ทำได้ 150 คน ตอบโจทย์ Official Account ที่มีผู้ใช้จำนวนมากเพื่อให้เห็นถึงความตั้งใจสูงสุดของไลน์ที่ให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัย LINE ได้เพิ่มความปลอดภัยให้องค์กรสามารถกำหนดอายุการใช้งาน Chanel Access Token ซึ่งเป็นเหมือนกุญแจสำคัญในการใช้ LINE Messaging API ได้ดั่งใจ ขณะเดียวกันก็ปรับปรุง X-Line-Retry-Key แก้ปัญหาและลดข้อผิดพลาดในการส่งข้อความซ้ำรวมถึง 2 Webhook Event ใหม่คือ Unsend Event ที่สามารถตรวจจับว่าผู้ใช้รายใดกดยกเลิกส่งข้อความหรือ unsend ในกลุ่มหรือห้องที่มีแชทบอทอยู่ และ Video Viewing Complete Event ที่สามารถตรวจจับผู้ใช้ที่ดูวิดีโอจบ ทำให้นักการตลาดสามารถส่งข้อความกลับไปพูดคุยต่อยอดกับผู้ใช้ รวมถึงสามารถวัดผลการชมวีดีโอจบได้