Toggle navigation
วันจันทร์ ที่ 23 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
วิเคราะห์-บทความ-คอลัมน์
เตือนพึ่ง QE มากไป สั่นคลอนเศรษฐกิจโลก
เตือนพึ่ง QE มากไป สั่นคลอนเศรษฐกิจโลก
วันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2556
Tweet
สถาบันการเงินระหว่างประ-เทศ เตือนการตรึงดอกเบี้ยต่ำมาก และพึ่งพามาตรการนโยบายผ่อนคลายการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้ฟื้นตัว ทำให้เกิดสภาพคล่องส่วนเกิน ส่อเค้ากลายเป็นความเสี่ยงที่สั่นคลอนเสถียรภาพทางเศรษฐกิจทั่วโลก ขณะที่ อีซีบี บีโอเจ และแบงก์ชาติอังกฤษ ยังคงดอกเบี้ยต่อไป
สถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IIF) ซึ่งเป็นตัวแทนของสถาบันการเงินรายใหญ่กว่า 450 แห่งทั่วโลก ระบุในรายงาน "Capital Markets Monitor" ฉบับล่าสุดว่า มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และการตรึงอัตราดอกเบี้ย ที่ต่ำมาก ไม่ใช่แนวทางที่ยั่งยืน แต่มีความ เสี่ยงว่าตลาดการเงินมีแนวโน้มต้องพึ่งพา แนวทางเหล่านี้ โดยหลายประเทศได้พึ่งพา นโยบายผ่อนคลายการเงินของธนาคารกลางต่างๆ อย่างมาก ในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า การผ่อนคลายทางการเงินซึ่งจะทำให้เกิด สภาพคล่องส่วนเกินในท้ายที่สุดนั้น จะกลายเป็นความเสี่ยงที่สั่นคลอนเสถียรภาพ ทางเศรษฐกิจทั่วโลก
โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงที่ผ่านมา ได้สะท้อนให้เห็นถึง ผลพวงของการใช้มาตรการผ่อนคลายทาง การเงินทั่วโลก มากกว่าที่จะเป็นสัญญาณ บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่แท้จริง และยิ่งเศรษฐกิจทั่วโลกต้องพึ่งพาสภาพคล่องของธนาคารกลาง ก็จะยิ่งทำให้ระบบการเงินมีสภาพคล่องสูงเกินไปและบิดเบือนไปจากปัจจัยพื้นฐาน
ทั้งนี้ เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนหลัก 4 ประการ ซึ่งรวมถึงความยุ่งยากที่เกิดจากภาวะ hung parliament หรือการที่ไม่มีพรรคการเมือง ใดได้เสียงข้างมากอย่างเด็ดขาดในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดของอิตาลี ผลพวงของมาตรการปรับลดการใช้จ่ายในสหรัฐฯ ความเห็นที่ไม่ลงรอยกันอย่างมากภายในคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ว่าควรจะเดินหน้า QE3 ต่อไปหรือไม่ และความพยา-ยามของญี่ปุ่นในการจัดการกับภาวะเงินฝืด ที่ยืดเยื้อมานานถึง 15 ปี
สำหรับทิศทางดอกเบี้ยโลก ยังมีแนวโน้มต่ำต่อไป โดยล่าสุด คณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบา ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ต่อไปที่ 0.75% ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ของตลาด ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอยในภูมิภาค อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่า การที่อัตราว่างงานอยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการจัดทำสถิติในปี 2538 และตัวเลขเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ ทำให้มีแนวโน้มมากขึ้นที่อีซีบีอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้
นายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบี กล่าวย้ำว่า อีซีบีให้ความสำคัญเป็นอันดับ แรกในการสนับสนุนการดำเนินจุดยืนด้าน นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายทั่วยูโรโซน
ขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.5% แต่ได้ตัดสินใจที่จะไม่ขยายโครงการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) วงเงิน 3.75 แสนล้านปอนด์ ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ ธนาคารกลางอังกฤษได้คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติ-การณ์มาเป็นเวลากว่า 3 ปีแล้ว โดยธนาคารกลางอังกฤษได้ลดดอกเบี้ยลงสู่ระดับ 0.5% เมื่อเดือนมีนาคม 2552 และได้คงอัตราดอกเบี้ย ไว้ที่ระดับดังกล่าวมานับตั้งแต่นั้น
ด้านธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0-0.1% นอกจากนี้ บีโอเจยังไม่ประกาศผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมในการประชุมครั้งนี้ด้วย โดยมีความเชื่อว่า เศรษฐกิจไม่อ่อนแออีกต่อไปและคาดว่าจะเริ่มขยายตัวเร็วๆ นี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
ภาษีบุหรี่ ค้างคา "แช่แข็ง" ไม่เดินหน้...
...
อะไรคือ ? โจทย์ใหญ่ กระทรวงการคลัง ที่มา...
...
ttb analytics มองเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็ง...
...
มาตรการ MPOWER เสาหลักกฎหมายควบคุมผลิตภั...
...
“ทักษิณ” พ่อมดการเมือง????...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ