รู้จัก {apos}พอ{apos}...ชีวิตมีสุข {apos}ปรีชา ส่งวัฒนา{apos}

วันเสาร์ที่ 02 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

รู้จัก {apos}พอ{apos}...ชีวิตมีสุข {apos}ปรีชา ส่งวัฒนา{apos}


"ปรีชา ส่งวัฒนา" นักธุรกิจชาวไทยผู้นี้ชีวิตได้ล้มลุกคลุกคลาน ผ่านร้อนผ่านหนาวในแวดวงธุรกิจมาอย่างยาวนาน ในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะในระยะวิกฤติปี 2540 แต่ในที่สุดก็สามารถฟื้นคืนชีพกลับมาได้ จนขณะนี้ถือเป็นหนึ่งนักธุรกิจแถวหน้าของเมืองไทยที่ประกอบธุรกิจหลายแขนง อาทิ อุตสาหกรรมเสื้อผ้าและสิ่งทอ ธุรกิจกลุ่มค้าปลีก ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ โดยปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท ฟลายนาว ซึ่งมีธุรกิจในกลุ่ม 7 แห่ง ได้แก่ 1.บริษัท แอท แบงค็อก จำกัด ดูแลแบรนด์ฟลายนาว 2.บริษัท เพาเวอร์ นาว จำกัด ตัดเย็บเครื่องแบบให้กับธนาคารและองค์กรต่างๆ 3.บริษัท นีโอ คีย์ จำกัด ผลิตเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่ง 4.บริษัท เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท จำกัด 5.บริษัท ฟิกซ์ แอนด์ วอช เอทเซ็ททรา จำกัด ธุรกิจซักอบรีด และซ่อมแซมเสื้อผ้าที่ต้องการการดูแลที่ดี 6.บริษัท ขนมจีน บางกอก จำกัด ธุรกิจอาหาร และ 7.บริษัท ซีอาร์ซี ครีเอชั่น จำกัด (มหาชน) ผลิตเสื้อผ้าและเครื่องหนัง
"ผมเริ่มทำธุรกิจตัดเย็บเสื้อผ้าแบรนด์ FLYNOW ในปี 2526 ซึ่งตอนนั้นมีความตั้งใจว่าอยากสร้างแบรนด์สักหนึ่งแบรนด์ให้แบรนด์นี้เป็นที่ยอมรับทั้งในระดับประเทศและระดับโลก ด้วยเงินทุนที่ไม่ได้มากมายเท่าไหร่ โดยเริ่มต้นจากการดีไซน์เสื้อเพียง 1 ไซส์ ในโทนขาว-ดำ เมื่อทำไปสักระยะหนึ่งจนแบรนด์เป็นที่ยอมรับของคนไทย จึงส่งดีไซเนอร์ไปที่ประเทศอังกฤษเพื่อศึกษาทิศทางแฟชั่นและรสนิยมการบริโภคในตลาดแฟชั่นโลก และประมาณ 2 ปีต่อมา ก็ได้รับเลือกให้เข้าร่วมงาน London Fashion week ในฐานะดีไซเนอร์เอเชียจากผู้สมัครทั่วโลก"
และจากผลพวงในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 ส่งผลให้คุณปรีชา ต้องปรับแผนการทำตลาดแนวใหม่ครั้งใหญ่ ด้วย การเปิด "เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท" ขึ้น ซึ่งถือเป็นเอาต์เล็ตรายแรกของประเทศไทย
"ภาวะวิกฤติเศรษฐกิจในช่วงนั้นทำให้ผมเล็งเห็นว่ามองเห็นช่องว่างว่าคนไทยส่วนมากมักจะซื้อสินค้าที่ต่างประเทศกลับมาใช้ในประเทศไทย จึงปรับวิธีการทำธุรกิจโดยเน้นไปที่การตลาดเชิงรุกที่เจาะจงถึงกลุ่มผู้บริโภคทั้งชาวไทยและต่างประเทศโดยการเปิดเอาต์เล็ต โดยเน้นการบริหารตั้งแต่กลางน้ำ คือความครีทีฟ จนถึงปลายน้ำ คือการทำตลาดผนวกเข้ากับแนวความคิดเศรษฐกิจพอเพียง เป็นการทำธุรกิจที่ได้ช่วยเหลือสังคม ช่วยคนในแวดวงให้มีความสุข จนปัจจุบันมเอาต์เล็ต ทั้งหมด 7 สาขา คือ เพชรบุรี, กาญจนบุรี, พัทยา, ปากช่อง, สิงห์บุรี, หัวหิน และศรีราชา โดยตั้งเป้าว่าในอีก 3 ปี จะมีการขยายสาขาอีก 2 แห่ง ในภาคอีสาน ภายใต้งบลงทุนแห่งละราว 400-500 ล้านบาท และมีแผนขยายตลาดค้าปลีกสู่ประเทศมาเลเซีย และประเทศใกล้เคียง ต้อนรับการเข้าสู่เออีซีในอนาคตอันใกล้นี้อีกด้วย"
ซีอีโอ กลุ่มบริษัทฟลายนาว ได้บอกต่อว่า เนื่องในโอกาสครบรอบ FN Factory Outlet 15 ปี บริษัทจึงได้จัดงานเพื่อขอบคุณลูกค้าอย่างยิ่งใหญ่ด้วยงบ 20 ล้านบาท จัดงาน "ลดสุดคุ้ม ในรอบ 15 ปี" โดยมอบส่วนลดพิเศษมากกว่าที่เคย อาทิ เสื้อผ้าบรุษ เสื้อผ้าสตรี เครื่องนอน เครื่องหนัง กระเป๋าเดินทาง เครื่องครัว ของใช้ในบ้าน และสินค้าจากโครงการหลวงฯ ช็อปสนุกกับมุมสินค้า "ซื้อเท่าไหร่ จ่ายครึ่งเดียว" และสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย ที่จำหน่ายในราคาลดสุดคุ้มพร้อมโปรโมชั่นพิเศษเพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าเพียง 4 วันเท่านั้น ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ฮอลล์ 4 ตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค.-3 พ.ย. 56 นี้
จากการที่คุณปรีชาได้บริหารธุรกิจมาอย่างยาวนาน ได้เล่าถึงหลักในการทำงานให้ฟังต่อว่า ตนเองจะใช้หลักบริหาร ธุรกิจแบบ Value Chain คือ จากกลางน้ำจนถึงปลายน้ำ โดยเฉพาะปลายน้ำคือ การตลาด ซึ่งหัวใจของการตลาด คือ การมีแบรนด์ที่ดี แต่นักธุรกิจไทยส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับการรับจ้างผลิตสินค้า (OEM) ไม่สนใจในการสร้างแบรนด์ นอกจากนั้นผมมองว่าส่วนผสมที่สำคัญในการสร้างแบรนด์ คือ ตัวสินค้า แบรนด์ดีแต่สินค้าไม่ดีก็ไม่มีความหมาย ดังนั้น การสร้างแบรนด์ของตนเองจะเริ่มจากตัวสินค้าจะต้องมีความครีเอทีฟ มีนวัตกรรม มีดีไซน์ที่ควบคู่กับคุณภาพที่ดีด้วย และมีประสิทธิภาพของการผลิตสูง ต้นทุนต้องแข่งขันได้ ทำ ให้สินค้ามีราคาที่เหมาะสม
"อีกอย่างที่ผมจะให้ความสำคัญมากในเรื่องของการทำธุรกิจคือเรื่องของการให้ความสำคัญกับพนักงาน เพราะพนักงานเปรียบเสมือนคนในครอบครัว และเป็นเหมือนหุ้น ส่วนทางธุรกิจที่จะต้องดูแลและให้ค่าตอบแทนที่เหมาะสม เขาจะต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งรายได้ ความเป็นอยู่ ความรู้และประสบการณ์ ดังนั้น ผมจะให้ความสำคัญและเชื่อในเรื่องของคลื่นลูกใหม่ ภายใต้แนวคิดการส่งต่อธุรกิจจากรุ่นสู่รุ่นว่าถ้ามีการบ่มฟักและฝึกฝนเป็นอย่างดี จะสามารถส่งต่อภารกิจให้กับรุ่นต่อไปได้ โดยเริ่มจากลูกตัว และลูกน้อง เท่าๆ กัน โดยพยายามสอนและผลักดันให้ทุกคนคิดเป็นแชร์วิธีคิด วิธีทำงาน เพื่อให้เกิดขบวนการเรียนรู้ร่วมกัน ดังความตั้งใจที่ต้องการให้องค์กรธุรกิจแห่งนี้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้"
นอกจากหลักคิดในการทำงานดีๆ แล้ว คุณปรีชา ยังได้บอกถึงหลักในการดำเนินชีวิตที่ดีของตนเองให้ฟังทิ้งท้ายอีกว่า ชิวิตตนเองผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะกว่าจะมามีทุกวันนี้ จึงทำให้ตนเองเชื่อมั่นว่าการเริ่มต้นจากคำว่า "พอ" โดยยึดหลักปรัชญา "เศรษฐกิจพอเพียง" ของในหลวงเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ชัดเจนที่สุดแล้ว เพราะทำให้ผมรู้เข้าใจแก่นแท้ของชีวิตของการทำธุรกิจมากขึ้นว่า เราต้องเข้มแข็ง ต้องมั่นคงมาก และรู้จักคำว่า "พอ" โดยไม่ได้สนใจวิธีการทำธุรกิจเพื่อคิดแต่ให้ได้ "กำไรสูงสุด" เป็นเป้าหมายอย่างเดียว เราควรจะคิดในการทำธุรกิจเพื่อช่วยสังคมและคนอื่นด้วย
"การทำงานของผมทุกวันนี้ ถ้าบอกว่าทำเพื่ออยากได้เงินเพียงอย่างเดียว ไม่อยากทำแล้ว แต่ถ้าอยากทำเพื่อได้ช่วยสังคม ช่วยคนในแวดวงมีความสุข ทำเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ คือต้องการทำธุรกิจในวันนี้ของตนเองให้เกิดจากองค์ประกอบหลายอย่าง ได้แก่ ต้องมีความสมบูรณ์ ไม่เบียดเบียนสังคม ช่วยสังคมได้ ช่วยตัวเองได้ โดยเริ่มจากสังคมเล็กๆ เริ่มจากคนที่ทำงานกับเรา ทำให้เขามีรายได้มากขึ้น เขาเข้มแข็งขึ้น นี่แหละคือเป้าหมายสูงสุดในการทำธุรกิจของผมในวันนี้" คุณปรีชา กล่าวทิ้งท้าย


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ