“ซาบีน่า” รับโควิด-19 บทเรียนชั้นครู หันปรับตัวฉับพลัน ดันขายออนไลน์โตพุ่ง

วันพุธที่ 02 กันยายน พ.ศ. 2563

“ซาบีน่า” รับโควิด-19 บทเรียนชั้นครู หันปรับตัวฉับพลัน ดันขายออนไลน์โตพุ่ง


นายบุญชัย ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) หรือ SABINA กล่าวว่า หลังจาก บมจ.ซาบีน่า ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 200 บริษัทมหาชนที่มีรายได้ต่ำกว่าพันล้านเหรียญที่ดีที่สุดในเอเชียประจำปี 2020 (Asia's 200 Best Under A Billion 2020) จัดอันดับโดยนิตยสารฟอร์บส์และเป็น 1 ใน 19 บริษัทไทยที่ติดอันดับในปีนี้ ซึ่งตรงจุดนี้สามารถพิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของบริษัทไทยที่สามารถติดอันดับบริษัทที่ดีที่สุดในเอเชียโดยเฉพาะความพยายามรักษาผลการดำเนินงานให้มีกำไรสุทธิแม้ในภาวะที่ธุรกิจต้องเผชิญกับความยากลำบากในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ทั้งนี้การจัดอันดับ Asia's 200 Best Under A Billion 2020 ของนิตยสารฟอร์บส์จะพิจารณาจากบริษัทมหาชนขนาดเล็กและกลางในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกที่มีรายได้สูงกว่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐแต่ไม่เกิน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้นกว่า 18,000 บริษัท ก่อนจะคัดเลือก 200 บริษัทที่มีคุณสมบัติดีที่สุดตามเกณฑ์ที่กำหนดประกอบด้วย มีรายได้และกำไรเติบโตดีอย่างน้อย 3 ปีย้อนหลัง มีผลตอบแทนเฉลี่ยต่อหุ้นแข็งแกร่งตลอด 5 ปีย้อนหลัง มีภาระหนี้ต่ำและมีการกำกับดูแลที่แข็งแกร่ง นอกจากนั้น ยังมีเกณฑ์พิจารณาเชิงคุณภาพ เช่น เกณฑ์ด้านธรรมาภิบาล ความโปร่งใสและมาตรฐานของระบบบัญชี เป็นต้น

“การที่ซาบีน่าสามารถรักษาการเติบโตไว้ได้อย่างเข้มแข็งโดยเฉพาะในช่วงที่เราต้องเผชิญกับวิกฤติโควิด-19 แต่เราก็ยังทำผลงานในครึ่งแรกของปีนี้ให้ออกมามีกำไร 121 ล้านบาท เป็นกำไรสุทธิในไตรมาสแรก 70.44 ล้านบาทและไตรมาสที่ 2 อยู่ที่ 50.42 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากการขายครึ่งปีแรกอยู่ที่ 1,331 ล้านบาท มาจากปัจจัยสำคัญ 3 ประการ ประกอบด้วย ประการแรก การที่เราลดการพึ่งพาลูกค้าต่างชาติ จากเดิมที่ซาบีน่ามีสัดส่วนรับจ้างผลิต (OEM) เป็นหลัก เราค่อยๆ ปรับจนทุกวันนี้เราเหลือสัดส่วน OEM เพียงแค่ 9-10% และหันมาสร้างแบรนด์ “ซาบีน่า” ผ่านช่องทางค้าปลีกเป็นช่องทางหลักโดยมีสัดส่วนราว 66% ของยอดขายรวม”

ส่วนปัจจัยประการที่สองคือการที่ซาบีน่ามีคนรุ่นใหม่ทางการตลาดทำให้บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายผ่านช่องทาง NSR (Non Store Retailing) ทั้งออนไลน์ ทีวี โซเชียลมีเดีย และสื่ออื่นๆให้เติบโตได้อย่างน่าพอใจไม่นับรวมแคมเปญการตลาดหรือกิจกรรมต่างๆที่ซาบีน่าสามารถสร้างกระแสในโลกออนไลน์ได้อย่างต่อเนื่องโดยในครึ่งแรกของปีนี้ ยอดขายผ่านช่อง NSR มีสัดส่วนสูงถึง 20% ของยอดขายรวม จากเมื่อปลายปีที่แล้วที่บริษัทฯตั้งเป้าว่าจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3-4 ปีที่จะผลักดันให้สัดส่วนยอดขาย NSR ขึ้นมาอยู่ที่ 20% แต่โควิด-19 ทำให้พฤติกรรมการผู้บริโภคเปลี่ยนไปและทำให้การเติบโตของการขายออนไลน์สูงเกินกว่าเป้าหมายในเวลาอันรวดเร็วซึ่งทีมคนรุ่นใหม่ทางการตลาดถือเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญและปัจจัยประการสุดท้าย คือ การสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้พนักงานต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวอยู่เสมอ เพื่อสร้างความสำเร็จที่ยั่งยืน

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซาบีน่า กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับในช่วงครึ่งหลังของปีแม้ว่าบริษัทฯ จะรุกขยายตลาดออนไลน์อย่างต่อเนื่องโดยคาดว่าสัดส่วนยอดขายจากช่องทางนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 15% ในปีนี้ แต่บริษัทฯก็คงยังเน้นดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวังเพราะยังมีปัจจัยเสี่ยงที่อาจจะมีผลกระทบกับกำลังซื้อทั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19ในระลอกที่สองที่ยังมีความไม่แน่นอนรวมถึงสถานการณ์ทางการเมือง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิดมากขึ้นอีกด้วย



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ