นายคาร์สเทน โนเบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเฮงเค็ล กล่าวว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี เฮงเค็ลได้รับผลกระทบอย่างมากจากสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกและอุปสงค์ที่ลดลงอย่างฉับพลันในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งในช่วงเวลาวิกฤติการณ์ทั่วโลกที่ไม่สามารถคาดเดาได้เช่นนี้เราได้มุ่งเน้นในการดูแลพนักงาน กลุ่มลูกค้า เพื่อให้ธุรกิจยังดำเนินต่อไปได้ทำให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายของช่วงครึ่งแรกของปี 2563ได้จากความหลากหลายของธุรกิจเราทั้งในภาคผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรมช่วยให้เราสามารถลดผลกระทบต่อยอดขายรวมและผลกำไรของเราจากวิกฤติในครั้งนี้
โดยในช่วงหกเดือนแรกธุรกิจเทคโนโลยีกาวได้รับผลกระทบหลักจากอุปสงค์ที่ลดลงอย่างมีนัยยะของลูกค้ารายใหญ่ๆของภาคอุตสาหกรรมธุรกิจผลิตภัณฑ์บิวตี้แคร์ได้รับผลกระทบอย่างมากในธุรกิจร้านทำผมจากมาตรการการสั่งปิดในหลายประเทศจากวิกฤติไวรัสโควิด-19 ในทางกลับกันธุรกิจผลิตภัณฑ์ซักล้างและผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนมีการเติบโตอย่างมากโดยได้รับการสนับสนุนจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากของผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทำความสะอาด
ผู้บริหาร กล่าวต่อว่า เฮงเค็ลมียอดขายในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563 อยู่ที่ 9,485 ล้านยูโร ลดลงร้อยละ 6.0 โดยมีผลประกอบการลดลงสุทธิ ร้อยละ 5.2 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา เฮงเค็ล ยังได้กำไรจากการดำเนินงานซึ่งปรับแล้วที่ 1,191 ล้านยูโรในช่วงหกเดือนแรกของปี 2563 ต่ำกว่าช่วงเลาเดียวกันในปีก่อน ร้อยละ 27.5 โดยที่อัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีอยู่ที่ ร้อยละ 12.6 ลดลง 370 เบสิสพอยท์ (หรือ 3.7 เปอร์เซ็นต์เทจพอยท์) เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาซึ่งมีอัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีอยู่ที่ร้อยละ 16.3 ส่วนตลาดเกิดใหม่มีการเติบโตของยอดขายลดลงร้อยละ 2.6 (Q2: ลดลงร้อยละ 7.1)
สำหรับตลาดที่พัฒนาแล้ว มีการเติบโตของยอดขายลดลงร้อยละ 6.9 (Q2: ลดลงร้อยละ 10.9) ยุโรปตะวันตกมีการเติบโตของยอดขายลดลงร้อยละ 8.0 (Q2: ลดลงร้อยละ 11.6) ในขณะที่ยุโรปตะวันออกมีการเติบโตของยอดขายที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.1 (Q2: ลดลงร้อยละ 3.8) และในแอฟริกาและตะวันออกกลางมีการเติบโตของยอดขายร้อยละ 4.2 (Q2: โตเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.4) ในภูมิภาคอเมริกาเหนือ มียอดขายลดลงร้อยละ 6.4 (Q2: ลดลงร้อยละ 10.9) ภูมิภาคละตินอเมริกามียอดขายลดลงร้อยละ 11.4 (Q2: ลดลงร้อยละ 20.1) สำหรับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก มียอดขายลดลงร้อยละ 6.4 (Q2: ลดลงร้อยละ 7.2)
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจของเฮงเค็ลได้กำหนดให้กระบวนการเข้าสู่ความเป็นดิจิทัลเป็นอีกหนึ่งแกนหลักในการเสริมสร้างขีดความสามารถการแข่งขันของบริษัทในช่วงครึ่งปีแรกยอดขายจากช่องทางดิจิทัลของเฮงเค็ลในส่วนธุรกิจผลิตภัณฑ์บิวตี้แคร์และธุรกิจผลิตภัณฑ์ซักล้างและผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนรวมกันแล้วเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 60 ทำให้ยอดขายในช่องทางดิจิทัลของเฮงเค็ลมีส่วนแบ่งเข้าใกล้ช่วง15%ของยอดขายทั้งหมดการตั้งหน่วยธุรกิจใหม่อย่าง "ธุรกิจดิจิทัล" ดังนั้นเมื่อปลายเดือนมิถุนายน เฮงเค็ลจึงได้เปิดตัวรูปแบบการดำเนินงานแบบใหม่สำหรับกิจกรรมดิจิทัลและไอที