“W9” เปิดเกมรุกเจาะตลาด Wellness เมืองไทย 6.5 หมื่นล้าน

วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2563

“W9” เปิดเกมรุกเจาะตลาด Wellness เมืองไทย 6.5 หมื่นล้าน


“W9” รุกหนักตลาด Wellness ไทย รับยุค New Normal เผย “โควิด-19” คนหันมาสนใจรักสุขภาพมากขึ้น เดินหน้าแชร์ส่วนแบ่งตลาดมูลค่า 6.5 หมื่นล้าน พร้อมเปิด 4 เทรนด์สุดฮิต ส่งโปรฯ 1 แถม 1 ฉลองครบรอบ 1 ปี วางเป้าปีนี้ (ก.ค.63-ก.ค.64) โต 100% ฟันรายได้ 50 ล้าน ไขปม 6 ปัญหาสุขภาพฮิตคนไทย พร้อมนำพาสู่การมีสุขภาพที่ดีและมีอายุที่ยืนยาว

นายแพทย์พิจักษณ์ วงศ์วิศิษฎ์ ผู้อำนวยการศูนย์ดูแลสุขภาพแบบองค์รวม W9 Wellness Center เปิดเผยว่า ตลาดสุขภาพ (Wellness) นับเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของไทย และมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้คนที่หันมาสนใจมากขึ้น ประกอบกับประเทศไทย ถือเป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวด้วย โดยตลาดดังกล่าว มีมูลค่ากว่า 65,000 ล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตเฉลี่ยปีละประมาณ 6.7-6.8% ด้วยจากหลากหลายปัจจัย อาทิ ปัญหามลภาวะฝุ่น PM 2.5 และการเกิดโรคอุบัติใหม่เชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ซึ่งเป็นอีกตัวแปรสำคัญที่เข้ามากระตุ้นผู้คนให้หันมาให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ จึงได้ประเมินเทรนด์การสร้างสมดุลความสุขชีวิตทุกด้าน โดยมี 4 เทรนด์ Wellness ประกอบด้วย 1.เทรนด์สังคมสูงวัย ปัจจุบันประเทศไทยกำลังจะก้าวสู่สังคมสูงวัยเต็มรูปแบบ โดยคาดว่าในปี 2564 จะมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปเป็นจำนวนถึง 20% ของจำนวนประชากรในประเทศ ในขณะที่ประชากรวัยทำงานมีอัตราลดลงอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับอัตราการเกิดใหม่ 2.เทรนด์อายุยืนด้วยคุณภาพชีวิตที่ดี ผู้คนสุขภาพดีอายุยืน สามารถใช้ร่างกายได้ดีตามวัย สามารถทำงานและช่วยเหลือตัวเองได้ โดยได้หันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ 

3.เทรนด์โภชนาการเฉพาะบุคคล คนสมัยนี้สนใจหาความรู้และให้ความสำคัญกับการดูแลโภชนาการเพิ่มมากขึ้น เลือกรับประทานอาหาร สร้างความสมดุลเฉพาะบุคคลมากขึ้น และ 4.ผู้บริโภคสนใจและใส่ใจสุขภาพเชิงรุก โดยเฉพาะคนยุคใหม่กลุ่มยุคมิลเลนเนียล และเจเนอเรชั่นวาย มีการหาข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพเชิงลึก ทั้งในเรื่องการบริโภคอาหาร การออกกำลังกาย การควบคุมน้ำหนักมากขึ้น
 
นายแพทย์พิจักษณ์ กล่าวต่ออีกว่า ในช่วง 1 ปีที่ W9 Wellness Center ได้ใกล้ชิดสุขภาพผู้บริโภค โดยเปิดให้บริการตั้งแต่ ก.ค. 2562 พบว่าผู้ที่มาใช้บริการกว่า 80% มาใช้บริการเนื่องจากมีปัญหาสุขภาพ โดยเบื้องต้นพบสาเหตุจากการใช้ชีวิตที่ไม่สมดุล ทั้งจากการรับประทานอาหาร การทำงานหนัก การพักผ่อนไม่เพียงพอ และความเครียดสะสม โดยจากสถิติของศูนย์ฯ ช่วงก่อนเกิดโควิด-19 พบผู้มีปัญหาสุขภาพที่มาใช้บริการศูนย์ฯ W9 ด้วย 6 ปัญหาสุขภาพ ได้แก่ 1.ปัญหานอนไม่หลับและมีความเครียด 19.34%, 2.ปัญหาผิวและริ้วรอย 19.34%, 3.ปัญหาน้ำหนักตัว 18.4%, 4.การเสริมภูมิคุ้มกัน 15.57%, 5.ปัญหาฮอร์โมน 14.62% และ 6.ความกังวลเกี่ยวกับมะเร็ง 12.73%  

ขณะเดียวกัน ในช่วงที่ไวรัสโควิด–19 แพร่ระบาด พบสถิติคนไทยมาปรึกษาเกี่ยวกับการเสริมภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้นเป็น 20.65% แสดงให้เห็นว่า คนไทยตระหนักถึงการดูแลสุขภาพมากขึ้น และมาปรึกษาด้วยปัญหานอนไม่หลับและมีความเครียดเพิ่มขึ้นเป็น 20.05% ต่อกันที่ปัญหาสุขภาพขยับขึ้นมาเป็น 2 อันดับแรกที่ผู้มาใช้บริการเข้ามารับคำปรึกษาในช่วงนี้ ทั้งนี้ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้พฤติกรรมด้านสุขภาพของคนไทยเปลี่ยนไป และเป็นปัจจัยเร่งให้ผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันมากขึ้น
 
อย่างไรก็ตาม W9 มุ่งสร้างความสมดุลให้สุขภาพของผู้มาใช้บริการ ภายใต้แนวคิด “Healthitude” ยกระดับ “การป้องกัน” และดูแลสุขภาพผ่านการตรวจสุขภาพเชิงลึก ให้ทราบถึงความสมดุลระบบพื้นฐานที่สำคัญของร่างกาย และจัดโปรแกรมการดูแลสุขภาพองค์รวมแบบเฉพาะบุคคลเพื่อร่วมรักษาโรค ลดความเสี่ยงของการเกิดโรค ชะลอวัย และเพื่อการมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 1 ปีนั้น W9 จึงได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ 1 แถม 1 ในราคา 9,900 บาทด้วย
 
ด้านนายขันธ์พลร์ ซื่อภาคย์ กรรมการบริหาร ศูนย์ดูแลสุขภาพแบบองค์รวม W9 Wellness Center กล่าวว่า ในปีนี้ทิศทางธุรกิจ Wellness โตไปพร้อมกับกระแสสังคมผู้สูงอายุที่คาดว่า ในปีหน้าจะเกิน 20% ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมดังกล่าวอย่างเต็มรูปแบบ สอดรับกับการใช้ชีวิตแบบ New normal ที่ต้องดูแลรักษาสุขภาพ นอกจากการดูแลลูกค้ากลุ่มเดิมแล้ว ยังมุ่งขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่ม Gen Y และเน้นการเข้าถึงคนในสังคมมากขึ้นด้วยราคาสมเหตุสมผล จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการออกแบบโปรแกรมดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคล ผ่านการตรวจสุขภาพเชิงลึก
 
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา (ก.ค. 2562-ก.ค. 2563) ที่ W9 ได้เปิดดำเนินการนั้น มีลูกค้ามาใช้บริการประมาณ 600-700 ราย ทั้งในส่วนของลูกค้าของโรงพยาบาลพระราม 9 และลูกค้าที่ติดต่อมาในช่องทางออนไลน์ แบ่งเป็น สัดส่วนลูกค้าคนไทย 70% และลูกค้าชาวต่างประเทศ 30% (ชาวเมียนมา และชาวจีน) โดยในจำนวนดังกล่าวมีอายุเฉลี่ย 30 ปี สำหรับในปีนี้ (ก.ค. 2563-ก.ค. 2564) W9 ตั้งเป้ารายได้ประมาณ 50 ล้านบาท หรือเติบโตจากปีที่ผ่านมา 100% ที่มีรายได้อยู่ประมาณ 20 กว่าล้านบาท และมีลูกค้าเพิ่มขึ้น 2 เท่า และจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีต่อๆ ไป โดยมุ่งเน้นที่กลุ่มลูกค้าคนไทยเป็นหลัก เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ