Toggle navigation
วันอาทิตย์ ที่ 29 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
การตลาด-อีคอมเมิร์ซ
นวัตกรรมสร้างได้ สไตล์ 3M
นวัตกรรมสร้างได้ สไตล์ 3M
วันพุธที่ 09 ตุลาคม พ.ศ. 2556
Tweet
หากวิเคราะห์การแข่งขันระหว่างผู้ประกอบการรายหลักของแต่ละตลาดในปัจจุบัน จะเห็นได้ว่าปัจจัยหลักของการแข่งขันจะวนเวียนอยู่รอบคำว่า นวัตกรรม ทั้งการ ใช้นวัตกรรมเสริมมูลค่าให้แก่สินค้าเก่า หรือการสร้างนวัตกรรมขึ้นเพื่อเป็นสินค้าใหม่
สาเหตุที่แบรนด์ต่างๆ หันมาใช้นวัตกรรมเป็นปัจจัยการแข่งขันก็เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันด้านราคาหรือที่เรียกว่า เรดโอเชี่ยน ซึ่งส่งผลเสียต่อธุรกิจในระยะยาว โดยเมื่อใส่นวัตกรรมลงในสินค้า ก็ไม่จำเป็นต้องลดราคาจำหน่าย เพียงแต่ต้องนำเสนอให้ผู้บริโภคเห็นว่านวัตกรรมของตนเหนือกว่าคู่แข่งหรือจำเป็นต้องมีก็เพียงพอ
ตัวอย่างของการแข่งขันด้านนวัตกรรมที่เห็นได้ชัดเจนจะอยู่ในวงการสินค้าเทคโนโลยี เช่น สมาร์ทโฟน กล้องถ่ายภาพ โทรทัศน์และอื่นๆ ซึ่งแต่ละแบรนด์ต่างนำเสนอนวัตกรรมของตนเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค
แม้ผู้ร่วมแข่งขันที่โดดเด่นในขณะนี้จะเป็น แอปเปิล ซัมซุง กูเกิลและไมโครซอฟท์ แต่บริษัทที่ได้รับการยอมรับด้านนวัตกรรมในระดับโลกมาอย่างยาวนาน คือ บริษัท 3M ที่มีประวัติยาวนานถึง 111 ปี พร้อมยอดขาย 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ จากการจำหน่ายสินค้าในกว่า 200 ประเทศทั่วโลก
+ จุดเริ่มต้นนวัตกรรม
บริษัท 3M เป็นบริษัทสัญชาติสหรัฐฯ ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2445 (ค.ศ.1902) ในฐานะบริษัททำเหมืองแร่ โดยมีเป้าหมายที่จะทำเหมืองแร่คอรันดัม แต่ล้มเหลวในเวลาต่อมาเนื่องจากสินแร่ที่ขุดได้มีคุณภาพต่ำ ผู้ก่อตั้งทั้ง 5 คนจึงต้องคิดหาหนทางดำเนินธุรกิจใหม่ ซึ่งต่อมานำไปสู่การผลิตสินค้า นวัตกรรมชิ้นแรกของบริษัท นั่นคือ กระดาษทรายกันน้ำ
โดยหลังจากล้มเหลวในธุรกิจเหมืองแร่ บริษัท 3M ได้หันมานำเข้าแร่โกเมนจากสเปนเพื่อผลิตกระดาษทราย แต่ก็ได้รับการร้องเรียนจากลูกค้าว่า แร่โกเมนมักหลุดจากกระดาษก่อนใช้งาน บริษัทจึงได้ทำการตรวจสอบและพบว่าแร่โกเมนที่นำเข้ามีการปนเปื้อนน้ำมันมะกอกจากการขนส่ง เพื่อเป็นการแก้ปัญหาดังกล่าวบริษัทจึงได้ตัดสินใจ ย่างแร่เหล่านั้นเพื่อไล่น้ำมันมะกอกออก เหตุการณ์นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นกระบวนการ ค้นคว้าและพัฒนา (Research and Development) ของ 3M
หลังจากนั้น 3M ได้คิดค้นนวัตกรรมต่างๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง เช่น กระดาษทราย กันน้ำชิ้นแรกของโลก ในปี พ.ศ. 2464 ซึ่งช่วยลดฝุ่นที่เกิดจากการใช้กระดาษทรายลง แต่นวัตกรรมที่เป็นเหมือนตำนานของบริษัท คือ เทปกาวและ "Scotch Tape" ที่คิดค้นได้ในปี พ.ศ.2468
ต่อมาในช่วงปี พ.ศ. 2493-2503 3Mได้เริ่มขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศทั้งแคนาดา, เม็กซิโก, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อังกฤษและออสเตรเลีย โดยในปี พ.ศ.2493 บริษัทมีรายได้ในต่างประเทศประมาณ 20 ล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วงเดียวกันนี้เองบริษัทได้คิดค้น สก็อตไบรท์ (Scotch-Brite) ขึ้น
ต่อมาในปีพ.ศ.2523 กระดาษโน้ต Post-it ตัวช่วยสำคัญของเหล่านักเรียน นักศึกษาทั่วโลกได้ถูกวางตลาดเป็นครั้งแรก
นอกจากการผลิตเครื่องใช้ในอุตสาหกรรมและครัวเรือนแล้ว 3M ยังมีนวัตกรรมในด้านอื่นอีกด้วย เช่น เครื่องบันทึกข้อมูลลงบนแถบแม่เหล็ก ซึ่งต่อมากลายเป็นอุตสาหกรรมเทปคาสเซต รวมถึง เข้าสู่ธุรกิจผลิตอุปกรณ์การแพทย์ ยา รังสีวิทยาและพลังงาน
นวัตกรรมอื่นๆ ของ 3M เช่น เทปชนิดต่างๆ ในแบรนด์ Scotch รวมถึงเครื่องใช้แบรนด์ Scotch-Brite, วิดีโอเทป, Nexcare, ส่วนประกอบของจอแอลซีดี, อุปกรณ์การแพทย์และอุปกรณ์โซลาร์เซลล์
สำหรับประเทศไทย บริษัท 3M ประเทศไทย ก่อตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2510 โดยผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์หลากหลายเทคโนโลยี อาทิผลิตภัณฑ์วัสดุงานขัด ผลิตภัณฑ์ฟิลเทรชั่น ผลิตภัณฑ์โพสต์-อิท ผลิตภัณฑ์เทปกาวตราสก๊อตช์ ผลิตภัณฑ์กราฟิกสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ อาทิ เทปปิดแผลผ่าตัด อุปกรณ์และวัสดุตกแต่งแผล พลาสเตอร์ยาทั่วไป รวมถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ
+ สายพานสู่นวัตกรรม
การคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมนั้นไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้เองจากความบังเอิญ แต่เกิดจากกระบวนการคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ และแบบแผนการดำเนินงานในส่วนของ R{amp}D ที่เหมาะสม
โดยกระบวนการคิดพื้นฐานของการสร้างนวัตกรรมประกอบด้วย 6 ขั้นตอน คือ สร้างไอเดีย, คัดเลือกไอเดีย, ศึกษาทางเลือก, คัดเลือกผลิตภัณฑ์, ทดลองตลาดและพัฒนาต่อเนื่อง
ในขั้นตอน สร้างไอเดีย ซึ่งเป็นขั้นตอนแรกนั้น 3M ลงทุนด้าน R{amp}D มากถึง 6% ของรายได้ในแต่ละปี โดยพนักงานใช้เวลา 15% ของเวลางานทั้งหมดในการทำโครงการต่างๆ ที่ตนเลือก นอกจากนี้ ยังได้สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เอื้อต่อการสร้างนวัตกรรม เช่น ส่งเสริมให้กล้าเสี่ยง และยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น รวมถึงให้รางวัลจากความสำเร็จที่ได้
ขั้นตอนต่อมา คือ การคัดเลือกไอเดีย ที่ได้จากขั้นตอนแรก โดยไอเดียที่เหมาะสมจะนำมาต่อยอดจะต้องตรงตามแนวคิดหลัก ไม่เคยมีมาก่อนและตอบโจทย์ความต้องการของมนุษย์ ซึ่งความต้องการนั้นต้องพิสูจน์แล้วว่ามีอยู่จริง
เมื่อได้ไอเดียแล้ว ก็ต้องศึกษาทางเลือก ความเป็นไปได้ต่างๆ ในการทำตลาดสินค้าที่เกิดจากไอเดียดังกล่าวด้วย โดยอาจสร้างตัวอย่างสินค้าหลากหลายรูปแบบออกมาก่อน จากนั้นจึงคัดเลือกรูปแบบที่มีศักยภาพที่สุดเพื่อนำไปพัฒนาเป็นสินค้าต้นแบบ
หลังจากได้สินค้าต้นแบบแล้ว จะเป็นการนำเสนอสินค้านั้นแก่ผู้บริโภค โดยในกรณีของ Post-it จะใช้การแจกสินค้าตัวอย่าง
สุดท้ายจึงใช้เสียงตอบรับจากผู้บริโภคที่ทดลองสินค้ามาใช้ปรับปรุงสินค้าต้นแบบให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภคมากที่สุด
ขั้นตอนเหล่านี้คือกระบวนการเบื้องหลังที่ให้กำเนิดสินค้ากว่า 55,000 รายการ ของ 3M และยอดขายกว่า 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
"กลุ่มเดอะมอลล์" ร่วมฉลอง 50 ปี ความสัม...
...
“บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์” มั่นใจธุรกิจรี...
...
“อัศวิน เตชะเจริญวิกุล” แม่ทัพแห่ง BJC B...
...
"บิวเทรี่ยม" ชี้ ตลาดบิวตี้ไทยโตสวนกระแส...
...
“กาแฟพันธุ์ไทย” แย้มแผนธุรกิจครึ่งปี 68...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ