AIT ปันผลระหว่างกาล 0.25 บาทต่อหุ้น

วันอังคารที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2563

AIT ปันผลระหว่างกาล 0.25 บาทต่อหุ้น


“แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นฯ”โชว์ผลงานไตรมาส 2/63 ทำกำไรสุทธิ 52 ล้านบาท ขณะที่รายได้ทำได้ 1,188 ล้านบาท ดันผลงานครี่งปีแรกกำไรสุทธิรวม 114 ล้านบาท และรายได้ที่ 2,419 ล้านบาท  ด้านบอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลงวดครึ่งปีแรกหุ้นละ 0.25 XD  24 สิงหาคม นี้  มั่นใจผลงานปีนี้ทำได้ 6,000 ล้านบาทตามเป้า หลังตุน Backlog ไว้กว่า 6,800 ล้านบาท

นายศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์ ประธานคณะกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT  เปิดเผยผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/63 (เม.ย.-มิ.ย.) มีกำไรสุทธิ 52 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิที่ 78 ล้านบาท และมีรายได้อยู่ที่ 1,188 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่ทำได้ 1,730 ล้านบาท

จากผลการดำเนินงานข้างต้น ส่งผลให้ภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย.2563) บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,419 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 2,994 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิที่ 114 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าจุดยืนการเป็นหุ้นในกลุ่มที่จ่ายปันผลสม่ำเสมอให้กับผู้ถือหุ้นและสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุน โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้พิจารณาจากงบเฉพาะกิจการและอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวดผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย.2563) ในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท โดยกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 24 สิงหาคม 2563 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 9 กันยายน 2563

ประธานคณะกรรมการบริหาร AIT กล่าวว่า แม้ในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทอาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 บ้าง ทำให้การส่งมอบงานหรือการตรวจรับงาน รวมทั้งการรับชำระเงินมีความล่าช้าออกไป ส่งผลให้ภาพรวมในช่วงครึ่งปีแรกลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม แผนการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯ มั่นใจรายได้ในปีนี้จะทำได้6,000 ล้านบาท ตามเป้าหมาย

โดยปัจจุบันมีมูลค่างานในมือ (Backlog) ณ วันที่ 4 สิงหาคม 2563 อยู่ที่ 6,800 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ในปีนี้ และที่เหลือจะทยอยรับรู้ในปีถัดไป นอกจากนี้ยังมีงานที่อยู่ระหว่างรอใบคำสั่งซื้อจากลูกค้าอีกจำนวนประมาณ 240 ล้านบาท

“จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 บริษัทฯได้รับผลกระทบเฉพาะเรื่องความล่าช้าในการส่งมอบและตรวจรับงาน รวมทั้งการรับชำระเงิน แต่ไม่ได้รับผลกระทบในเรื่องการขายโครงการเนื่องจากเป็นงานภาครัฐที่ปกติบริษัทฯมีสัดส่วนรายได้จากภาครัฐกว่า 80% ส่วนกำไรที่ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เนื่องจากบริษัทฯสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจากโครงการในปีก่อนๆและได้รับผลกระทบจากมาตรฐานบัญชีใหม่รวม 46 ล้านบาท จึงมีผลต่อกำไรสุทธิค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม บริษัทฯได้เพิ่มมาตรการลดความเสี่ยงด้านการขายมากขึ้น ซึ่งคาดว่าการสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจะลดลงในอนาคต” นายศิริพงษ์ กล่าว



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ