รัฐบาลไซปรัสจำใจยอมรับใบสั่ง "ทรอยก้า"

วันจันทร์ที่ 08 เมษายน พ.ศ. 2556

รัฐบาลไซปรัสจำใจยอมรับใบสั่ง


ในที่สุดรัฐบาลไซปรัส ก็สามารถบรรลุเงื่อนไขข้อตกลงรับความช่วยเหลือทางการเงิน จำนวน 10,000 ล้านยูโร ไปเป็นที่เรียบร้อยโรงเรียน "ทรอยก้า" เมื่อกลางดึกของวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา

กว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย ประธานาธิบดีนิคอส อนาตาเซียเดส แห่งไซปรัส ต้องทนหวานอมขมกลืนกับเงื่อนไขสุดเขี้ยวของธนาคารกลางแห่งยุโรป (อีซียู) และคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป ร่วมกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ซึ่งถูกเรียกขานเป็นที่รู้ทั่วกัน ว่า "ทรอยก้า"

เงื่อนไขสุดเข้มที่ทรอยก้า ยื่นให้รัฐบาลไซปรัสต้องตอบรับ โดยไม่เปิดทางเลือกเป็นอย่างอื่น เพื่อแลกเปลี่ยนกับเงินช่วยเหลือจำนวน 10,000 ล้านยูโร ที่จะจัดสรรจากกองทุนรักษาเสถียรภาพทางการเงินแห่งยุโรป(European Stability Mechanism Fund-ESMF) มีอยู่ด้วยกัน 3 ประการ

ประการแรก รัฐบาลจะให้ความคุ้มครองเฉพาะบัญชีเงินฝากที่มียอดเงินฝากต่ำกว่า 100,000 ยูโรเท่านั้น

ประการที่สอง รัฐบาลต้องยุบธนาคารไซปรัสป๊อปปูลาร์แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของไซปรัส แล้วไปควบรวมกับธนาคารแห่งไซปรัส แล้วแยกเอาหนี้เสียในธนาคารไซปรัสป๊อปปูลาร์แบงก์ ไปตั้งเป็น "แบดแบงก์" พร้อมกับมอบหมายให้แบดแบงก์ที่จัดตั้งขึ้นทำหน้าที่ "ฟอกหนี้"

ประการที่สาม รัฐบาลต้องออกกฎหมาย "ยกเครื่อง" ระบบสถาบันการเงิน

แม้เงื่อนไขการได้รับความช่วยเหลือจากทรอยก้าจะเข้มและเขี้ยว แต่รัฐบาลไซปรัสอับจนหนทางที่จะเลี้ยวไปหาทางอื่น จึงได้แต่จำใจ "ยอมรับ" แบบ "หลังกระแทกฝา" หาไม่แล้วระบบเศรษฐกิจมีสิทธิ์พังย่อยยับกู่ไม่กลับแหงแก๋

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา รัฐบาลไซปรัสเคยประสบความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ในการผลักดันเงื่อนไขของทรอยก้าให้สัมฤทธิผล

ตอนนั้นทรอยก้า ยื่นข้อเสนอให้รัฐบาลไซปรัส ออกกฎหมายเรียกเก็บอากร เงินฝากร้อยละ 6.75 สำหรับบัญชีเงินฝากที่ต่ำกว่า 100,000 ยูโร และร้อยละ 9.9 สำหรับบัญชีเงินฝากตั้งแต่ 100,000 ยูโรขึ้นไป แต่สุดท้ายต้องลงเอยด้วยความพ่ายแพ้แบบหมดรูปในสภา เนื่องจากไม่มีสมาชิก รัฐสภาแม้แต่คนเดียวยกมือเห็นด้วยกับกฎหมายฉบับนี้

หลังจาก "เสียมวย" ในสภา รัฐบาลไซปรัส ได้ส่งรัฐมนตรีกระทรวงการคลังบากหน้าไปขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลรัสเซีย และหวังไว้อย่างสูงว่าน่าจะได้รับน้ำใจ เหมือนกับที่เคยได้รับความช่วยเหลือเป็นวงเงิน 2,500 ล้านยูโร เมื่อปี 2554 เนื่องจาก กองทุนและนายทุนรัสเซียมีส่วนได้ส่วนเสียมหาศาลผูกพันอยู่กับระบบธนาคารในไซปรัส ในฐานะที่เป็นลูกค้าเงินฝากรายใหญ่ที่สุด ด้วยสัดส่วนเงินฝากกว่าร้อยละ 50 ของเงินฝากทั้งหมดในระบบธนาคาร

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไซปรัสต้องผิดหวังอย่างแรง เมื่อถูกรัฐบาลรัสเซียปฏิเสธ ทำเอารัฐบาลไซปรัสหมดที่พึ่ง ทำให้ต้องจำใจกลับหลังหันบากหน้าไปพึ่งทรอยก้า และยอมรับเงื่อนไขของทรอยก้าอย่างว่าง่าย

รัฐบาลไซปรัส ไม่เพียงยินยอมทำตาม เงื่อนไขของทรอยก้าเท่านั้น แต่ยังเสริมเพิ่มความเข้มข้นมากไปกว่าเงื่อนไขของทรอยก้า ซะอีก

แพ็กเกจเสริมที่รัฐบาลไซปรัสเพิ่มเติมต่อยอดจากเงื่อนไขของทรอยก้า คือการสั่งควบคุมการเคลื่อนย้ายเงินทุน เพื่อป้องกันการอพยพเคลื่อนย้ายเงินทุนออกนอกประเทศ และการลดวงเงินที่อนุญาตให้เบิกถอนผ่านเครื่องเอทีเอ็ม เพื่อรักษาสภาพคล่องในระบบเอาไว้

ถึงขั้นนี้แล้ว ธนาคารทุกแห่งในไซปรัสที่ถูกปิดตายยาวเฟื้อยมาตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคมเป็นต้นมา ยังอาจจะต้องปิดยาวต่อเนื่องไปอีกหลายวัน จนกว่าจะมั่นใจว่าเมื่อกลับมาเปิดทำการแล้ว จะไม่ถูกรุมถอนเงินกระทั่งเจ๊งล้มละลายกันทั้งบาง


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ