ส.ก๊าซชีวภาพไทยยื่นหนังสือ “บิ๊กตู่” ลุยโรงไฟฟ้าชุมชน คาใจ กกพ. ใส่เกียร์ว่าง

วันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

ส.ก๊าซชีวภาพไทยยื่นหนังสือ “บิ๊กตู่” ลุยโรงไฟฟ้าชุมชน  คาใจ  กกพ. ใส่เกียร์ว่าง


สมาคมการค้าก๊าซชีวภาพไทยบุกทำเนียบรัฐบาล ยื่นหนังสือถึง “บิ๊กตู่” ช่วยผลักดันโรงไฟฟ้าชุมชน หวังฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังวิกฤติไวรัสโควิด และช่วยเหลือเกษตรกรมีรายได้จากการปลูกพืชพลังงาน ชี้กระทบความเชื่อมั่นต่อการลงทุนแน่ หากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานคนใหม่ไม่สานต่อโครงการ ขณะเดียวกันคาใจ กกพ. ใส่เกียร์ว่างโรงไฟฟ้าชุมชน

วันนี้ (31 ก.ค.63) นายผจญ ศรีบุญเรือง นายกสมาคมการค้าก๊าซชีวภาพไทย ได้ยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้สนับสนุนผลักดันโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ผ่านสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

โดยนายผจญ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมากระทรวงพลังงาน สมัยที่นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ประกาศนโยบาย Energy for All หนึ่งในนั้นมีโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก จำนวน 1,933 เมกะวัตต์ โดยจะมีการนำร่อง 700 เมกะวัตต์ก่อน ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักลงทุน และวิสาหกิจชุมชนทั่วประเทศอย่างล้นหลาม โดยสาระสำคัญที่เป็นข้อจูงใจหลักๆ ให้กับประชาชนคือ วิสาหกิจชุมชนนั้นๆ จะมีความเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าชุมชนและเป็นผู้จำหน่ายเชื้อเพลิงให้กับโรงไฟฟ้า ทั้งชุมชนโดยรอบโรงไฟฟ้าที่จะได้รับเงินส่วนแบ่งรายได้จากการขายไฟฟ้าอีกด้วย ข้อเสนอเชิญชวนดังกล่าวข้างต้นที่มีภาคเอกชนเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนได้ก่อให้เกิดการตื่นตัวและรวมตัวกันของหลายชุมชนทั่วภูมิภาคของประเทศ เริ่มเตรียมและทำการจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนเพื่อเตรียมการเป็นนิติบุคคลเข้าร่วมโรงไฟฟ้าชุมชน โดยคาดหวังเป็นอย่างสูงว่าโครงการดังกล่าวนี้ของภาครัฐจะได้รับการส่งเสริมอนุมัติให้เกิดขึ้นโดยเร็ว

“แต่ความไม่แน่นอนของโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนได้ก่อเค้าลางขึ้นจากการที่ไม่ได้รับการบรรจุวาระเพื่อให้คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาตามกรอบเวลาที่ได้ประกาศต่อสาธารณะ อีกทั้งยังมีการลาออกของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ซึ่งเป็นผู้ผลักดันนโยบายก่อนการประกาศการรับซื้อ ทำให้ผู้พัฒนาโครงการและวิสาหกิจชุมชนทั้งหลายเกิดความไม่มั่นใจ และอาจก่อให้เกิดความไม่เชื่อถือในแนวนโยบายของภาครัฐอีกต่อไป หากท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานคนใหม่ไม่รับไปสานต่อ”

นายผจญ กล่าวว่า สมาคมการค้าก๊าซชีวภาพไทย คาดหวังว่านโยบายโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากจะได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจหลังวิกฤติไวรัสโควิด แก้ปัญหาของผู้ประกอบโรงงานอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปที่มีน้ำเสียของเสีย และนำมาผลิตก๊าซชีวภาพเพื่อผลิตไฟฟ้าได้ อีกทั้งโครงการนี้ยังเป็นโครงการที่เป็นทางเลือกใหม่ให้กับเกษตรกรได้ปลูกพืชพลังงานนำมาขายให้กับโรงไฟฟ้าชุมชนในราคาประกันตลอดอายุสัญญา ลดปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนยังมุ่งสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับภาคประชาชน ได้เข้าใจให้กับภาคประชาชน ได้เข้าใจในเรื่องโรงไฟฟ้าและพลังงานของประเทศ เป็นการเปลี่ยนแปลงทัศนคติมุมมองในทางดีต่อประชาชนที่มีต่อโรงไฟฟ้าทุกประเภทที่เกิดขึ้นในประเทศไทย

“สมาคมการค้าก๊าซชีวภาพไทย ใคร่ขอวิงวอนต่อท่านนายกรัฐมนตรี ได้ยึดมั่นและผลักดันนโยบายโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากอย่างเป็นรูปธรรม และได้เริ่มต้นไว้อย่างมีระเบียบหลักเกณฑ์ที่รัดกุม ให้ได้รับการพิจารณาผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการประกาศรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากต่อไป โดยไม่จำเป็นต้องรอการปรับคณะรัฐมนตรี”

ทั้งนี้ หนังสือที่ยื่นถึงนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ ได้ทำสำเนาเรียนผู้ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ปลัดกระทรวงพลังงาน ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน และประธานกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ด้วย

นายผจญ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนล่าช้าส่วนหนึ่งมาจากการไม่ใส่ใจการทำงานให้เต็มที่ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ซึ่งล่าสุดทาง กกพ. ปิดการยื่นขอรับในอนุญาตประกอบกิจการโรงงานผลิตไฟฟ้า (รง.2 ลำดับที่ 88) ซึ่งตนเชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อผู้ที่สนใจจะยื่นข้อเสนอโรงไฟฟ้าชุมชนในอนาคตอย่างแน่นอน

 



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ