กนกพร ปรัชญาเศรษฐ ผู้จัดการประจำประเทศไทย) บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ‘คอนเทนต์’ คือสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจวิดีโอสตรีมมิ่ง ในฐานะที่ WeTV เป็นแอปพลิเคชันที่มีจุดยืนทางการตลาดเป็น‘ศูนย์รวมความบันเทิงแห่งเอเชีย’เราจึงมุ่งสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่โดดเด่นและหลากหลายจากทั้งจีน ไทยและเกาหลีให้กับแฟนชาวไทยนอกจากจุดแข็งของการนำเสนอซีรีส์จีนคุณภาพระดับโลกซึ่งเป็นออริจินัลคอนเทนต์ที่ส่งตรงมาจากเทนเซ็นต์พิคเจอร์ส ผู้ผลิตคอนเทนต์อันดับต้นๆของจีนให้คนไทยได้ชมแบบจุใจแล้ว WeTV ยังมีการจับมือกับพันธมิตรผู้ผลิตชั้นนำในประเทศไทย เพื่อสร้างสรรค์คอนเทนต์และขยายฐานผู้ใช้งานสู่กลุ่มเป้าหมายที่มีความหลากหลายขึ้นควบคู่กับการนำเสนอเอ็กซ์คลูซีฟคอนเทนต์ต่างๆโดยสามารถรับชมผ่านแอปพลิเคชัน WeTV ได้ที่เดียวเท่านั้นปัจจุบันสัดส่วนคอนเทนต์ที่อยู่บนแพลตฟอร์มของ WeTV แบ่งเป็นออริจินัลคอนเทนต์ 70% และเอ็กซ์คลูซีฟ คอนเทนต์คิดเป็น 30% ของคอนเทนต์ทั้งหมด
“WeTV มองเห็นโอกาสการเติบโตของแพลตฟอร์มกับตลาดกลุ่มคอนเทนต์วายจึงได้วางแผนเพิ่มไลน์อัพในปี 2563 สร้างความแตกต่างในตลาดเสริมทัพทั้งส่วนที่เป็นออริจินัลคอนเทนต์ไทยและเอ็กซ์คลูซีฟคอนเทนต์ไทยและต่างประเทศโดยตั้งเป้าในปีนี้ 6-8 เรื่อง เล็งเจาะกลุ่มเป้าหมายหลักคือผู้หญิงอายุ 13-34 ปี รวมถึงการขยายไปยังกลุ่มผู้ชมใหม่ๆซึ่งปัจจุบันมีแนวโน้มเปิดรับคอนเทนต์วายมากขึ้น”
ล่าสุด WeTV จับมือกับ 3 ผู้ผลิตคอนเทนต์ยักษ์ใหญ่ ได้แก่ “จีเอ็มเอ็ม ทีวี” “ทีวี ธันเดอร์” และ “สตูดิโอ วาบิ ซาบิ” เปิดโปรเจกต์ “ปฏิบัติการหัวใจ‘วาย’” เตรียมส่งซีรีส์วาย 3 เรื่อง ออกอากาศแบบเอ็กซ์คลูซีฟทางแอปฯ WeTV ที่เดียวเท่านั้น ประกอบด้วยซีรีส์วายจากนิยายชื่อดังที่แฟนๆ รอคอยอย่าง “เกียร์สีขาวกับกาวน์สีฝุ่น” ต่อด้วยซีรีส์วายแนวสืบสวนสอบสวนเรื่องแรกของเมืองไทย เรื่อง “พฤติการณ์ที่ตาย” และเรื่อง “เชือกป่าน” ซีรีส์เรื่องราวคู่ขนานของซีรีส์ด้ายแดง โดยซีรีส์ทั้งสามเรื่องจะทยอยออกอากาศตั้งแต่เดือนกันยายนนี้เป็นต้นไป พร้อมเตรียมจัดกิจกรรมบนออนไลน์ อาทิ Live Chat, Online Fan Meeting ให้กับแฟนๆ ชาวไทยและในประเทศต่างๆ
“สำหรับการร่วมมือกับ 3 ผู้ผลิตคอนเทนต์ชั้นแนวหน้าของเมืองไทยครั้งนี้ เรามองว่าทั้ง 3 ค่ายล้วนมีชื่อเสียงในด้านการสร้างสรรค์ซีรีส์ที่มีคุณภาพ และมีฐานแฟนอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อนำมาผสานกับความแข็งแกร่งในด้านแพลตฟอร์มของวีทีวี เราจึงมั่นใจว่าโปรเจกต์ “ปฏิบัติการหัวใจ ‘วาย’ จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีทั้งจากกลุ่มผู้ใช้เดิม และจะสามารถขยายฐานผู้ใช้ใหม่ให้เพิ่มขึ้น 4 เท่า ภายในสิ้นปี”