"พุทธิพงษ์" ย้ำ "เฟซบุ๊ค" ให้เคารพความรู้สึกคนไทย กรณีเกิดข้อผิดพลาดผ่านไทยพีบีเอส พร้อมตั้งคณะทำงานร่วมใหม่ลุยปราบเว็บผิดกฏหมาย

วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2563



นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า กรณีที่ระบบของเฟซบุ๊กมีการแปลที่ทำให้เกิดคำไม่เหมาะสมและไม่ถูกต้องบนหน้าเพจไทยพีบีเอส (Thai PBS) ในระหว่างที่มีการดำเนินการถ่ายทอดสดพระราชพิธีสำคัญในหัวใจของคนไทยทุกคนส่งผลกระทบต่อจิตใจของคนไทยทั้งประเทศเมื่อรับทราบจากทาง Thai PBS ทางกระทรวงได้เร่งประสานไปยังเฟซบุ๊คทันทีและได้รับแจ้งว่าเป็นความผิดพลาดทางเทคนิคของเฟซบุ๊คและจะดำเนินการแก้ไขซึ่งทางกระทรวงได้เตรียมการในการดำเนินการต่อ 

แพลตฟอร์มใดก็ตามในต่างประเทศที่ให้บริการคนไทยทำธุรกิจในประเทศไทยต้องเรียนรู้ที่จะเคารพกฎหมายไทยและให้เกียรติและรับผิดชอบต่อความรู้สึกของคนไทยและสิ่งที่ประเทศไทยยึดมั่นยึดถือด้วยสิ่งที่เกิดขึ้นกระทรวงได้ดำเนินการสื่อสารกับทางเฟซบุ๊คทันทีตั้งแต่เมื่อวานและเมื่อเช้าก็ได้ส่งจดหมายไปยังเฟซบุ๊คทั้งประเทศไทยและทางสิงคโปร์เพื่อให้เฟซบุ๊คแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้อย่างเป็นรูปธรรม

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราต้องดำเนินการทางกฎหมายอย่างจริงจังการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จหรือไม่ถูกต้องถือว่าผิดพรบ.คอมพิวเตอร์เนื่องจากเฟซบุ๊คได้นำข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเข้าสู่ระบบและมีผู้ร้องทุกข์คือ Thai PBS ก็จะมีการดำเนินการตามกฎหมายต่อบริษัทเฟซบุ๊คตามพรบ.คอมพิวเตอร์ ต่อไปและในเรื่องความมั่นคงเราใช้กระบวนการยุติธรรมในการขอความร่วมมือไปยังแพลตฟอร์มต่างประเทศซึ่งทางยูทู้ปได้ดำเนินการตามที่ขอประมาณ 90% แต่เฟซบุ๊คดำเนินการเพียง 28% ส่งไป 4,676 เรื่องทางเฟซบุ๊คดำเนินการไป 1,316 เรื่องจึงต้องสื่อสารยังเฟซบุ๊คว่าเมื่อดำเนินการในเมืองไทยก็อยากให้ให้ความร่วมมือในการให้ความเคารพมีความรับผิดชอบต่อสังคมไทย นอกจากทำจดหมายไปขอให้ทางเฟซบุ๊คแสดงความรับผิดชอบแล้วยังขอความร่วมมือในเรื่องการขอให้ดำเนินการตามคำสั่งศาลต่อไป

เรื่อง Thai PBS ซึ่งทางกระทรวงได้ดำเนินการแต่ต้องดำเนินการภายใต้กฎหมายซึ่งเราต้องดำเนินตามกระบวนการโดยไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพใครไม่ใช่การปัดภาระ แต่ดำเนินการตามกระบวนการและหลายๆ เรื่องก็เกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์มต่างประเทศการไปปิด บล็อก จึงไม่สามารถทำได้ทันทีแต่อะไรที่เข้าข่ายผิดตามกฎหมายก็ได้ดำเนินการและได้ดำเนินการตั้งคณะทำงานร่วมกับทาง ISP ในการดำเนินการกับข้อมูลที่ผิดพรบ.คอมพิวเตอร์โดยทำให้คณะทำงานมีความกระชับมากขึ้นทำให้ ISP ดำเนินการตามหมายศาลได้อย่างชัดเจนต่อเนื่องมีตัวเลขที่ติดตามและเปิดเผยให้ประชาชนได้ทราบได้วันนี้จึงขอความกรุณาสื่อมวลชนช่วยสื่อสารว่าขั้นตอนในการดำเนินการมีอยู่และไม่ช้าสามารถดำเนินการส่งถึงศาลได้ภายใน 3 วัน ซึ่งเราก็นำคำสั่งศาลไปส่งให้ทั้งทาง ปอท. ISP และตัวแฟลตฟอร์มเองทันที

โดยในรอบ 7 เดือนแรกของปี 2563 กระทรวงดิจิทัลฯได้มีการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งรวมถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และประสานงานร่วมกับไอเอสพีจนนำไปสู่กระบวนการตรวจสอบ รวบรวมพยานหลักฐานและยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งปิดหรือลบข้อมูลในเว็บไซต์ผิดกฎหมายไปแล้วจำนวน 7,164 ยูอาร์แอล (ขัอมูล ณ วันที่ 23 ก.ค.2563) จากจำนวนที่กระทรวงฯได้รับแจ้งทั้งสิ้น 8,715 ยูอาร์แอล และมีการส่งศาล 7,164 ยูอาร์แอล

สำหรับการกระทำผิดส่วนใหญ่ที่ได้รับข้อมูลจากการแจ้งข้อมูลเข้ามาพบว่าส่วนใหญ่เกิดขึ้นบนเครือข่ายสังคมออนไลน์และมีช่องทางอื่นๆบ้างทั้งนี้ ดีอีเอส ได้ดำเนินการส่งข้อมูลให้กับ บก.ปอท. จำนวน 7,164 ยูอาร์แอล พร้อมพยาน หลักฐาน และคำสั่งศาลเพื่อดำเนินการหาตัวผู้กระทำความผิดตามกฎหมายต่อไป

พร้อมกันนี้กระทรวงดิจิทัลฯ เห็นความสำคัญว่าต้องขอความช่วยเหลือจากประชาชนเพื่อร่วมช่วยกันสอดส่องดูแลเว็บไซต์ไม่เหมาะสมที่มีการกระทำผิดกฎหมายทางออนไลน์หรือผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ ล่าสุดจึงได้เปิดเพจเฟซบุ๊ก “อาสา จับตา ออนไลน์” เพื่อเป็นช่องทางรับแจ้งข้อมูลจากประชาชนโดยมีเจ้าหน้าที่รับเรื่องและตรวจสอบตลอด 24 ชม.และพิจารณาตามข้อกฎหมายและตอบกลับและอีกช่องทางหนึ่งคือหมายเลขโทรศัพท์ 02-141 6747



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ