“สสวท. เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี ทั้งในและนอกสถานศึกษา ให้นักเรียนพัฒนาตามศักยภาพขึ้นเป็นประชากรที่มีความรู้ นักวิชาชีพฐานดี และนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำต่อไป” เป็นวิสัยทัศน์ที่สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) กระทรวงศึกษาธิการ มุ่งยึดถือและดำเนินงานตามนโยบายประเทศไทย 4.0 ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติที่มุ่งยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยพัฒนาและสร้างกำลังคนให้มีความรู้และทักษะด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี  ให้มีทักษะที่จำเป็นสำหรับโลกในศตวรรษที่ 21  สอดคล้องกับนโยบายเร่งด่วนเรื่องที่ 7 “การเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21” ของรัฐบาล 

“สสวท. เน้นพัฒนาการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี ของนักเรียนครบทุกชั้นปี ตั้งแต่ระดับชั้นปฐมวัยถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย  เพื่อให้มีความสามารถ มีทักษะในการคิดวิเคราะห์ วางแผน แก้ปัญหา มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะในการใช้ชีวิต ท่ามกลางการพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี และเป็นพื้นฐานในการยกระดับคุณภาพชีวิต การสร้างนวัตกรรม การประกอบอาชีพที่พึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน  ซึ่งการดำเนินงานภายใต้ภารกิจหลักของ สสวท. ในช่วงปีที่ผ่านมา ยังคงสอดรับกับนโยบายเร่งด่วนเรื่องที่ 7 การเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 ของรัฐบาล” ศาสตราจารย์ ดร. ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการ สสวท. กล่าว 

ผู้อำนวยการ สสวท. เผยว่า ในปี 2563 สสวท. ได้ดำเนินงานเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา มุ่งความเป็นเลิศและสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ รวมทั้งขับเคลื่อนการศึกษาด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ตามภารกิจหลัก 3 ด้าน ได้แก่

ด้านที่ 1 หนังสือเรียน หลักสูตร สื่อ และการจัดการเรียนรู้ในวิถีนิวนอร์มัล ครบ 12 ชั้นปี ปฏิรูปสื่อการเรียนการสอน หนังสือเรียน แบบเรียน แบบฝึกหัด ด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และการเรียนรู้โค้ดดิ้ง (Coding) ให้เหมาะกับการเรียนรู้ยุคความปกติใหม่ หรือ นิวนอร์มัล (New Normal)  ที่เกิดขึ้นทั้งในและนอกห้องเรียน รวมถึงการเรียนรู้ด้วยตนเองที่บ้าน โดยจัดทำเป็นรูปแบบสื่อดิจิทัล และใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น สื่อเสมือนจริง (AR/VR) คลิปยูทูป สื่อสังคมออนไลน์ ฯลฯ เพื่อรองรับกับความต้องการของสังคมยุคนิวนอร์มัล เป็นคลังข้อมูลด้านการเรียนรู้วิทยาศาสตร์​ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งชาติ ครอบคลุมการศึกษาขั้นพื้นฐาน (ระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษา รวม 12 ชั้นปีมากกว่า 500 รายการ) และจัดทำสื่อเฉลิมพระเกียรติ 60 และ 65 พรรษา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  เพื่อให้เยาวชนทุกคนของประเทศเข้าถึงสื่อที่มีคุณภาพ ได้อย่างทั่วถึง

ด้านที่ 2 พัฒนาครูวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี และยกระดับคุณภาพการจัดการเรียนรู้สู่ศตวรรษที่ 21 พลิกโฉมการฝึกอบรมครูด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี สะเต็มศึกษาและโค้ดดิ้ง กว่า 200,000 คน ผ่านระบบการอบรม Face-to-Face อบรมด้วยระบบทางไกล DLTV และระบบออนไลน์ เพิ่มทักษะสมรรถนะในการจัดการเรียนการสอนที่เน้นสะเต็มศึกษาแนวใหม่ให้ก้าวทันยุคนิวนอร์มัล หลักสูตรโค้ดดิ้ง หลักสูตรการจัดการเรียนรู้ฐานสมรรถนะที่สอดรับการการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 โดยเป็นแกนหลักขับเคลื่อน และประสานความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย อาทิ สพฐ. สช. อปท. กศน. มหาวิทยาลัย ราชภัฎ 38 แห่ง และเครือข่ายมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ รวมถึงการฝึกอบรมผู้บริหารสถานศึกษาเพื่อการยกระดับโรงเรียนคุณภาพด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี (โรงเรียนคุณภาพ SMT ตามมาตรฐาน สสวท.) มากกว่า 1,500 โรงเรียน สร้างความเสมอภาคทางการศึกษาด้วยโรงเรียนคุณภาพใกล้บ้านทุกอำเภอ

ด้านที่ 3 ผลิตกำลังคนที่มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทย 4.0 จัดระบบการพัฒนาและส่งเสริมอัจฉริยภาพและความสามารถพิเศษสำหรับเยาวชนที่มีศักยภาพสูงทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อผลิตนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัยสาขาขาดแคลนนวัตกร และผู้เชี่ยวชาญวิทยาศาสตร์พื้นฐาน รวมถึงครูศักยภาพสูงที่เป็นกำลังสำคัญช่วยพัฒนาการเรียนการสอนในโรงเรียนและขยายผลแก่ครูในท้องถิ่น โดยการบริหารจัดการนักเรียนทุนที่กำลังศึกษาอยู่ประมาณ 2,000 คน ทั้งในและต่างประเทศ ในโครงการพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ทุน พสวท.) โครงการส่งเสริมการผลิตครูที่มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ (ทุน สควค.) และโครงการโอลิมปิกวิชาการ (ทุนโอลิมปิกฯ) และทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายของรัฐและเอกชนเพื่อส่งเสริมการสร้างเส้นทางอาชีพให้ผู้มีความสามารถพิเศษฯ โดยปัจจุบันมีการส่งเสริมและพัฒนาผู้มีความสามารถพิเศษฯ รวมทั้งสิ้นมากกว่า 10,000 คน 

ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เป็นตัวเร่งอุบัติการณ์สู่ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล หรือที่เรียกว่า ดิจิทัลดิสรัปชัน (Digital Disruption) แต่การพัฒนาการศึกษานั้นหยุดไม่ได้  สสวท. จึงปรับตัวและก้าวผ่านข้อจำกัด ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการทำงานแบบใหม่อย่างก้าวกระโดด  ซึ่งโครงการที่ สสวท. กำลังดำเนินการอยู่นี้สอดรับกับวิถีนิวนอร์มัลที่น่าจับตามอง เช่น การขับเคลื่อนการศึกษาด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมของกระทรวงศึกษาธิการ  คือ การพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้  โดยการวิจัยและพัฒนาระบบแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้ สื่อสนับสนุนการเรียนการสอน รวมทั้งวีดิทัศน์บทเรียนออนไลน์ที่เน้นความเข้าใจ เชื่อมโยงชีวิตจริง สะดวกในการเข้าถึงและใช้งาน สอดคล้องกับตัวชี้วัดกลุ่มสาระคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551( ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)   ครอบคลุมทุกระดับชั้น  ทั้งรายวิชาพื้นฐาน และรายวิชาเพิ่มเติม  ซึ่ง “โครงการ Project 14” เป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินงานดังกล่าว

Project 14 เป็นโครงการจัดทำหลักสูตรการเรียนรู้และบทเรียนออนไลน์วิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี  ตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 ตามหนังสือเรียนของ สสวท. สำหรับภาคเรียนที่ 1 และภาคเรียนที่ 2 เพื่อให้มีการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพและสอดคล้องกับ         แนวทางการจัดการเรียนรู้ของ สสวท. ที่นักเรียนสามารถเข้าถึงได้ง่าย โครงการนี้จึงมีการดำเนินงานเป็น 3 แบบ ได้แก่  Project 14  Project 14+   และ Project 14 บน DLTV  โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 

1. Project 14 เป็นการจัดทำและเผยแพร่หลักสูตรวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีซึ่งได้เผยแพร่แล้วผ่านระบบสำหรับนักเรียน ครู และผู้สนใจ  โดยมีจุดเน้นของโครงการใน 4 ด้าน คือ ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้จากทุกที่ทุกเวลาตามความสะดวก สามารถกำหนดการเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง เน้นความเข้าใจเชื่อมโยงกับชีวิตจริง และตรงตามหลักสูตรตามตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง (ฉบับปรับปรุง 2560) และหนังสือเรียน สสวท. 90 หลักสูตร ผ่านเว็บไซต์ http://proj14.ipst.ac.th ยูทูป IPST Proj14 และ Facebook https://www.facebook.com/ipstproj1

2. Project 14+ จัดทำและเผยแพร่หลักสูตรวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ผ่านระบบ Skooldio บนเว็บไซต์ https://classroom.proj14.ipst.ac.th เพื่อทำการศึกษาและวิจัยรูปแบบการเรียนรู้ของนักเรียนด้วยตนเองผ่านระบบออนไลน์ เพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการพัฒนาระบบ Learning Management System (LMS) ของ สสวท. ต่อไป ผู้ที่เข้าร่วมในการศึกษางานวิจัยนี้ได้แก่ เป็น นักเรียน จำนวน 25,000 คน ในเครือข่ายโรงเรียนคุณภาพ SMT ตามมาตรฐาน สสวท.  สิ่งที่แตกต่างจาก Project 14 คือ ครูสามารถติดตามการเรียนรู้ของผู้เรียนได้ การเข้าถึงการเรียนรู้ของผู้เรียนในแต่ละเรื่อง /แต่ละบท และแขวนมีเอกสาร ใบกิจกรรม ใบงาน แบบทดสอบ ให้ผู้เรียนสามารถทำกิจกรรม /ข้อสอบบนระบบได้

3. Project 14 ออกอากาศทาง DLTV สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายให้โรงเรียนจัดการเรียนรู้ผ่านทางโทรทัศน์ เพื่อรองรับสถานการณ์ดังกล่าว  สสวท. ได้ร่วมมือกับมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมในพระบรมราชูปถัมภ์ ในการส่งสื่อการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3, 6 และมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของ Project 14 ที่ปรับให้เหมาะสมกับการเรียนรู้แบบออกอากาศทางโทรทัศน์ เพื่อออกอากาศทางช่อง DLTV ในภาคเรียนที่ 1 และ 2 ของปีการศึกษา 2563 
ผู้อำนวยการ สสวท. ยังได้กล่าวอีกว่า “การเรียนรู้ที่คู่ขนานกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล หรือ ดิจิทัลดิสรัปชัน (Digital Disruption) ในกลุ่มเยาวชนที่ไม่อาจมองข้าม นั่นคือ  กลุ่มนักเรียนที่ด้อยโอกาสทางการศึกษา ซึ่ง สสวท. ยังคงเดินหน้าเพื่อให้เกิดความเสมอภาค และกระจายโอกาสในการเรียนรู้ สสวท. จึงได้ร่วมกับโครงการสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จัดทำสื่อเฉลิมพระเกียรติ 60 และ 65 พรรษา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  เพื่อให้นักเรียนกลุ่มนี้ได้เข้าถึงสื่อที่มีคุณภาพ”  
ทั้งนี้ “โครงการจัดทำสื่อ 65 พรรษา เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” เป็นโครงการริเริ่มใหม่ในปี 2563 และจะเร่งเครื่องเต็มรูปแบบในปี 2564  เพื่อลดปัญหาการขาดแคลนครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ฯ เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้ และยกระดับคุณภาพการศึกษาระดับมัธยมศึกษา สำหรับโรงเรียนในถิ่นทุนกันดาร โรงเรียนขยายโอกาสฯ โรงเรียนในโครงการพระราชดำริ โรงเรียนพระปริยัติธรรม โดยเป็นสื่อการเรียนรู้ในลักษณะบูรณาการ  ให้ความสำคัญกับศักยภาพ ความต้องการและความแตกต่างของผู้เรียนที่สอดคล้องกับบริบท และชีวิต ในรูปแบบของชุดการเรียนรู้สมบูรณ์แบบ (Comprehensive Learning Package) มีองค์ประกอบครบถ้วน ตั้งแต่จุดประสงค์ การเรียนรู้  การออกแบบกิจกรรม การวัด และประเมินผลที่สะท้อนถึงความสำเร็จของผู้เรียน คู่มือครู เพื่ออำนวยความสะดวกและลดภาระงานของครูผู้สอน  

ความเปลี่ยนแปลงใหม่ที่ได้ปฏิวัติเทคโนโลยีเข้าสู่การเรียนรู้แบบออนไลน์ (Online Real-time learning) การศึกษาทางไกล (Distance Learning) และการเรียนรู้ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-Learning) จะถูกนำไปใช้ในวงกว้างยิ่งขึ้น สสวท. ยังคงเดินหน้าพัฒนางานที่สามารถสนับสนุนสถานศึกษา ครูผู้สอน และนักเรียนทั้งกลุ่มทั่วไป กลุ่มด้อยโอกาส และกลุ่มผู้มีความสามารถพิเศษ เพื่อ "สร้างเด็กฉลาดรู้ ครูคุณภาพสูง ยกระดับการศึกษาชาติไทย แข่งขันได้ด้วยฐานสมรรถนะ" อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป