“ESRI” ชู เทคโนโลยี GIS ช่วย 4 ธุรกิจหลักปรับวิกฤตเป็นโอกาส รับยุค New Normal

วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

“ESRI” ชู เทคโนโลยี GIS ช่วย 4 ธุรกิจหลักปรับวิกฤตเป็นโอกาส รับยุค New Normal


บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด ในกลุ่มบริษัท ซีดีจี ผู้นำด้าน Location Intelligence เทคโนโลยีวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่ระดับโลก เผยร้อยละ 53 ของผู้ประกอบการมอง Location Intelligence เป็นตัวแปรสำคัญในการกำหนดกลยุทธ์ทางธุรกิจปี 2563 แนะ 4 ธุรกิจ รีเทล ซัพพลายเชน แบงก์กิ้ง เฮลธ์แคร์ ปรับวิกฤตเป็นโอกาส ใช้เทคโนโลยี GIS ซึ่งเป็นเครื่องมือในการจัดการ Location Intelligence มาตอบโจทย์วิถีชีวิตใหม่ เพิ่มรายได้ ลดต้นทุนและช่วยให้มองเห็นโอกาสทางธุรกิจ

นางสาวธนพร ฐิติสวัสดิ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากรายงานของ Forbes ระบุร้อยละ 53 ของผู้ประกอบการมีความเห็นตรงกันว่า Location Intelligence จะมีบทบาทสำคัญในการปรับกลยุทธ์เชิงรุกเพื่อให้ธุรกิจบรรลุเป้าหมายปี 2563 ปรับวิกฤตให้เป็นโอกาสพาธุรกิจเดินหน้าแนะ 4 ธุรกิจ ได้แก่ รีเทล ซัพพลายเชน แบงก์กิ้งและเฮลธ์แคร์ตั้งรับ New Normal โดยใช้ GIS เทคโนโลยีที่นำข้อมูลมาวิเคราะห์เชิงพื้นที่และแสดงผลที่เข้าใจง่ายโดยสามารถประยุกต์ใช้ได้หลากหลายทั้งวิเคราะห์ที่ตั้งสาขาดูตำแหน่งและพฤติกรรมของผู้บริโภคจัดการเส้นทางขนส่งเปรียบเทียบข้อมูลอดีตและปัจจุบันรวมถึงคาดคะเนสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตเพื่อประกอบการตัดสินใจในการดำเนินธุรกิจให้มีประสิทธิภาพสูงสุดช่วยลดค่าใช้จ่ายหรือกระบวนการที่ซ้ำซ้อนเป็นเครื่องมือตอบโจทย์ธุรกิจยุคหลังวิกฤต

“New Normal หลังวิกฤตโควิด-19 ทุกธุรกิจจะหันมาใช้เทคโนโลยีมากยิ่งขึ้นถ้าเรานำ Technology ที่มีประสิทธิภาพในการทำ Location Intelligence จะช่วยให้เราวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเห็นมุมมองได้ชัดเจนยิ่งขึ้นและสามารถรับมือกับสถานการณ์ต่างๆได้อย่างรวดเร็วโดย Location Intelligence จะไม่เพียงแค่ตอบคำถามว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป (What’s Next) แต่ยังหาคำตอบได้มากกว่าเดิมว่าเกิดขึ้นที่ไหน (Where’s Next) นำไปสู่การสร้างสรรค์สิ่งใหม่และแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทำให้มองเห็นโอกาสใหม่ๆรวมทั้งจุดแข็งและจุดอ่อนของธุรกิจได้เร็วขึ้น”

อย่างไรก็ตาม สำหรับธุรกิจทุกประเภทสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี GIS ปรับกลยุทธ์เชิงรุกแนะ 4 ธุรกิจหลัก คือ

1.ธุรกิจค้าปลีก (Retails) จะเห็นได้ว่าธุรกิจนี้มีการปรับตัวค่อนข้างมากในช่วงสถานการณ์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคเนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) แต่ความต้องการซื้อสินค้ายังมีอยู่ทำให้ธุรกิจเริ่มขยายการให้บริการขายสินค้าทางออนไลน์ (E-commerce) และ Delivery มากยิ่งขึ้นธุรกิจจึงต้องมีเครื่องมือเข้ามาช่วยในการวิเคราะห์พื้นที่การบริการของสาขาที่มีอยู่ร่วมกับข้อมูลยอดขาย GIS จะช่วยวิเคราะห์การจัดสรรสินค้าและเลือกที่ตั้งสาขาได้อย่างมีประสิทธิภาพทำให้ธุรกิจสามารถลดต้นทุนการขนส่งมีสาขาครอบคลุมความต้องการและจัดสินค้าได้ตรงกับกลุ่มผู้บริโภคในพื้นที่

2. Supply Chain หรือห่วงโซ่อุปทาน GIS เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานแบบ End to End ตั้งแต่ตำแหน่งของแหล่งวัตถุดิบไปจนถึงตำแหน่งลูกค้าปลายทางเพื่อติดตามสถานะแบบเรียลไทม์ทั้งยังช่วยวิเคราะห์จัดเส้นทางการขนส่งสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ (Route Optimization) และช่วยธุรกิจให้สามารถเลือกศูนย์กระจายสินค้าได้อย่างเหมาะสมตามปริมาณความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่เพื่อลดต้นทุนการขนส่ง

3. ธุรกิจธนาคาร (Banking) Digital Platform จะมีบทบาทมากยิ่งขึ้นในยุคหลังจากวิกฤตโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นการใช้จ่ายผ่านทางสมาร์ทโฟนหรือ QR code เพื่อลดการสัมผัสเงินโดยตรง ปรับเปลี่ยนเป็นสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) มากยิ่งขึ้นโดยสถาบันการเงินต่าง ๆ จะต้องมีการปรับตัว เมื่อคนใช้ Digital Platform มากขึ้น ความจำเป็นที่จะต้องเดินทางมาที่สาขาธนาคารเพื่อทำธุรกรรมทางการเงินลดลงธนาคารจึงต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการตั้งสาขาเทคโนโลยี GIS สามารถช่วยวิเคราะห์การเปิดปิดสาขาที่เหมาะสมแปรผันตามจำนวนผู้มาใช้บริการในพื้นที่ รวมถึงการปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการให้ตรงกับรูปแบบการทำธุรกรรมทางการเงินของผู้ใช้บริการที่อยู่ในพื้นที่ให้มากยิ่งขึ้น

4.ธุรกิจด้านสุขภาพ (Healthcare) จากสถานการณ์โควิด-19 ภาครัฐ ภาคเอกชนรวมถึงประชาชนต่างให้ความสำคัญในด้านสุขภาพมากยิ่งขึ้นเทคโนโลยี GIS เข้ามามีส่วนช่วยอย่างมากตั้งแต่การติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อให้ทราบการกระจายตัวของผู้ติดเชื้อในพื้นที่สามารถนำสถิติการติดเชื้อที่เกิดขึ้นมาวิเคราะห์คาดการณ์การแพร่ระบาดรายวันและแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ร่วมกับการวิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดการแพร่ระบาดโดยอาศัยข้อมูลกลุ่มประชากรในพื้นที่ ทำให้หน่วยงานสามารถนำข้อมูลจากการวิเคราะห์มาใช้ประโยชน์ในการบริหารจัดการทรัพยากรทางการแพทย์ประเมินความพร้อมในการให้บริการของโรงพยาบาลในแต่ละพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้นำเทคโนโลยี GIS สนับสนุนการทำงานของกระทรวงสาธารณสุขในการรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 เป็นการร่วมกันพัฒนาระบบติดตามสถานการณ์ผู้ป่วยโควิด-19 เพื่อให้เห็นข้อมูลเชิงลึกและเตรียมการณ์รับมือได้อย่างทันท่วงที หลังจากเหตุการณ์คลี่คลายลง การนำเทคโนโลยี GIS มาใช้วิเคราะห์และช่วยวางแผนการทำงานจะเป็นประโยชน์มากยิ่งขึ้นกับภาคธุรกิจเมื่อธุรกิจรู้ พิกัดกลุ่มเป้าหมาย Where’s Next จะสามารถรู้ไปถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิต รวมทั้งบริบทโดยรอบการมีข้อมูลเชิงลึกที่มีความถูกต้องและสามารถใช้ได้จริงแบบเรียลไทม์นี้จะเป็นเครื่องมือที่จะนำไปใช้ขับเคลื่อนทุกธุรกิจให้ก้าวต่อได้อย่างรวดเร็ว 



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ