ชื่นชมบีโอเจ กล้าฉีดยา แรงใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ มีมติผ่อนคลายนโยบายการเงิน เข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลเพิ่ม เติมคิดเป็นมูลค่ากว่า 7 ล้าน ล้านเยนต่อเดือน ดันเป้าเงิน เฟ้อที่ระดับ 2% ภายใน 2 ปี หวังแก้ปัญหาเงินฝืดที่รุมเร้าเศรษฐกิจของประเทศมานานนับทศวรรษ

ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) มีมติซื้อพันธบัตรรายเดือนเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในการประชุมครั้งแรกของผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นคนใหม่นายฮารุฮิโกะ คูโรดะ (Haruhiko Kuroda) หลังการหารือนานกว่า 2 วันเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยหวังให้ญี่ปุ่นพ้นจากปัญหาเงินฝืดที่ดำเนินมาต่อเนื่อง 15 ปีและบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ 2% ภายในเวลา 2 ปีข้างหน้า

นายคูโรดะ กล่าวว่าบีโอเจได้ดำเนิน มาตรการทั้งหมดที่มีอยู่และที่จำเป็นในการประชุมนโยบายเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย อัตราเงินเฟ้อใหม่ 2% ทั้งนี้ วิธีการผ่อนคลายเพียงเล็กน้อยก่อนหน้านี้ไม่เพียงพอที่จะทำให้ญี่ปุ่นฟื้นตัวจากภาวะเงินฝืด และบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ 2% ภายใน 2 ปี

ทั้งนี้ บีโอเจมีมติยกเครื่องกรอบนโยบายครั้งใหญ่ โดยได้เปลี่ยนเป้าหมาย ในการกำหนดนโยบายการเงินไปสู่ฐานเงิน (base money) จากเดิมที่ใช้การกำหนดอัตราดอกเบี้ยเผื่อเรียก ประเภทข้ามคืน บีโอเจมีมติให้ดำเนินการเร็วขึ้นสำหรับโครงการซื้อสินทรัพย์ แบบไม่จำกัด แทนที่จะเริ่มต้นในปีหน้า และขยายอายุของพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นที่บีโอเจเข้าซื้อ รวมทั้งเพิ่มวงเงินการซื้อพันธบัตรระยะยาวสู่ระดับ 7 ล้านล้านเยน/เดือน (74 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) หรือประมาณ 2.25 ล้านล้านบาท บีโอเจระบุว่าจะเพิ่มสัดส่วนการถือครองพันธบัตรรัฐบาลระยะ ยาว และกองทุน ETF ขึ้น 2 เท่า และจะซื้อพันธบัตรรัฐบาลทุกช่วงอายุซึ่งรวมถึงพันธบัตรอายุ 40 ปี

สำหรับการประกาศยกเครื่องระบบการกำหนดนโยบายครั้งใหญ่ของผู้ว่าการ บีโอเจครั้งนี้ ได้สร้างความประหลาดใจให้กับตลาด แต่ก็ได้รับความชื่นชมจากหลายฝ่าย เริ่มตั้งแต่นายกรัฐมนตรี ชินโสะ อาเบะ ของญี่ปุ่นกล่าวชื่นชมบีโอเจที่ตัดสินใจออกมาตรการผ่อนคลายการเงินที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนเพื่อจัดการกับภาวะ เงินฝืดของประเทศที่เป็นปัญหาเรื้อรัง ซึ่ง ถือเป็นการผ่อนคลายการเงินเชิงรุกที่แท้จริงในระดับต่างๆ กัน และเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนให้แก่ตลาด

ขณะที่ นายอากิระ อามาริ รมว. กระทรวงเศรษฐกิจญี่ปุ่น กล่าวว่า การตัดสินใจผ่อนคลายนโยบายของบีโอเจ นับเป็นการตัดสินใจที่กล้าหาญอย่างมาก ซึ่งเกินความคาดหมายของคนส่วนใหญ่

หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์ส สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้กล่าวชื่นชมการตัดสินใจในนโยบายการเงินอย่างจริงจัง ของญี่ปุ่นว่าเป็น "การปฏิรูป" เนื่องจาก บีโอเจเป็นธนาคารกลางที่ใช้ความระมัดระวังมากที่สุดในโลก พยายามริเริ่มเพื่อผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตและพลิกสถานการณ์ให้ญี่ปุ่นอยู่ในภาวะเงินเฟ้ออีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางคน แสดงความกังวลว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจะยิ่งเป็นการเพิ่มภาระหนี้สาธารณะ ของประเทศมากขึ้นเท่านั้น