เพราะรูปร่าง หน้าตา เป็นสิ่งสำคัญไปแล้วสำหรับคนในสังคมสมัยนี้ จึงทำให้กระแสเรื่องความสวยความงามยังคงพุ่งแรงไม่เคยตกแม้ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร ซึ่งปัจจุบันตลาดอาหารเสริมความงาม โดยเฉพาะคอลลาเจนชนิดชงดื่มได้รับความนิยมอย่างมาก และมีแนวโน้มว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีผู้ประกอบการจำนวน มากสนใจเข้ามาสู่สนามในตลาดดังกล่าว
และหนึ่งผู้บริหารสาวสวย "แหม่ม-อนินา พรหมดิเรก" นักธุรกิจพันล้านระดับแนวหน้าในวง การขายท่อและอุปกรณ์เหล็กนำเข้า จากโรงงานผู้ผลิตเหล็กชั้นนำทั่วโลก ในนาม บริษัท เมทัลไลน์ เทรดดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างดีในกลุ่มคู่ค้าธุรกิจพลังงาน ก็ได้เป็นอีกหนึ่งผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่เข้ามาทำตลาดเกี่ยวกับผิวพรรณและความงาม โดยทุ่มเงินลงทุนร่วม 100 ล้านบาท ในการวางกลยุทธ์ทางการตลาด คิด ค้นและวิจัยสูตรผลิตภัณฑ์ทั้งหมด ภายใต้แบรนด์ นิมฟ์ ซีเครท ภายใต้ บริษัท นิมฟ์ คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด
คุณแหม่ม อนินา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นิมพ์ คอร์ ปอเรชั่น จำกัด ได้เล่าให้กับ "สยามธุรกิจ" ฟังว่า ตนเองเริ่มทำธุรกิจแรกเกี่ยวกับการขายท่อเหล็ก ท่อส่งก๊าซ ส่งน้ำมัน ให้กับธุรกิจพลังงานมากว่า 8 ปี จวบจนปัจจุบัน ธุรกิจดังกล่าวเติบโตอย่างต่อเนื่องและอยู่ตัวแล้ว จึงทำให้เราคิดว่าอยากทำอีกหนึ่งธุรกิจที่เรารักและมันเหมาะกับเรา และด้วยความที่เรา เป็นผู้หญิงชอบเรื่องความสวยความ งามเลยอยากทำธุรกิจที่เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว จึงได้ไปศึกษาพูดคุยกับผู้ผลิตเครื่องสำอางในแต่ละที่ที่สามารถทำผลิตภัณฑ์ได้ตามความต้องการของเราในสินค้ากลุ่มบำรุงผิวพรรณออกมาภายใต้แบรนด์ "นิมฟ์ ซีเครท" ที่เราได้ลองวางตลาดไปเมื่อปลายปี 55 และต่อมาในปี 56 ก็ได้ออกอาหารเสริมคอลลาเจนชนิดชงดื่ม "คิสเซส คอลลาเจน" มาทำตลาดตัวแรกในกลุ่มอาหารเสริมเพื่อความงามโดยเน้นทำตลาด ระดับพรีเมี่ยม มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักคือผู้หญิงสาวและผู้หญิงวัยทำงาน
"เราเล็งเห็นว่ากระแสคอลลาเจนมาแรงมาก เพราะเป็นอาหารเสริมที่ไม่มีสารสะสมในร่างกาย กินแล้วเห็นผลจริง ในเวลาอันรวดเร็ว ในการบำรุงผิวพรรณ ดังนั้นจึงวางแผนการตลาด ไว้ว่าจะทำการผลักดันตัว "คิสเซส คอลลาเจน" นี้ก่อนเป็นตัวแรก แล้วหลังจากนั้นพอติดตลาดก็จะผลักดันผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่นๆ ของแบรนด์ "นิมฟ์ ซีเครท" ตามมา โดย เราจะเน้นทำตลาดในอาหารเสริมตัวแรกนี้ด้วยการให้ลูกค้ารู้จักแบรนด์เรา มากขึ้น ด้วยการลงสื่อทางออนไลน์ โซเชียลเน็ตเวิร์ก สิ่งพิมพ์ทุกชนิด วิทยุ โทรทัศน์เคเบิล และป้ายโฆษณา บิลบอร์ดตามสถานที่ต่างๆ พร้อมกับเตรียมจัดกิจกรรมทางการตลาด ทั้งจัดโปรโมชั่น ร่วมสนุก เล่นเกมทาง โซเชียลฯ และโรดโชว์อีกมากมาย พร้อมกับจะเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ คาดว่าจะเห็นการทำตลาดทุกอย่างพร้อม กันทั้งหมดเต็มรูปแบบในเดือนตุลาคมปีนี้แน่นอน"
ทั้งนี้ ปัจจุบันสินค้าเราจัดจำหน่าย ผ่านช่องทางออนไลน์ กลุ่มโซเชียลเน็ตเวิร์ก ช่องทางตามร้านตัวแทนต่างๆ กทม. ต่างจังหวัดหัวเมืองใหญ่ อาทิ เชียงใหม่ สงขลา โคราช ระยอง พัทยา และคาดว่าในเดือนตุลาคมนี้จะขยายช่องทางไปตามร้านขายยา เช่น วัตสัน บู๊ทส์ และ ดีแคร์ เป็นต้น โดยจากแผนการทำตลาดดังกล่าวเราคาดว่าจะผลักดันให้ตัวอาการเสริม ทำยอดขายได้ประมาณ 100 ล้านบาทในสิ้นปีนี้
นอกจากนี้ ผู้บริหารสาวสวย ได้บอกถึงหลักในการทำงานของตนเองให้ฟังต่อว่า ตนเองจะยึดหลักการมีความจริงใจในการทำธุรกิจ ทั้งกับลูกค้า คู่ค้า เพราะแค่เพียงความ จริงใจคำเดียวนี้ หมายถึงความซื่อสัตย์ มีศีลธรรม คุณธรรม ทุกอย่างครบ ดังนั้นถ้าเรายึดสิ่งนี้จะทำให้เราทำธุรกิจอย่างมีความสุขทั้ง 2 ฝ่าย ซี่งถ้าเราแสดงความจริงใจ เราก็จะได้ความ จริงใจตอบกลับมา อีกทั้งถ้าเวลาตนเอง ทำงานและเจอปัญหาอุปสรรคอย่างแรก เลยคือจะไม่กลัวปัญหา จะสู้ฝ่าฟันไปให้ได้ ไม่หนีมัน เพราะเชื่อว่าทุกปัญหาแก้ไขได้หมด ไม่ว่าปัญหาเกิดจากอะไร ไม่กลัวที่จะยอมรับ ไม่กลัวที่จะแก้ไข และจะต้องรีบแก้ไข จะไม่ปล่อยให้ปัญหาคาราคาซัง โดยจะวิเคราะห์ปัญหาเป็นขั้นๆ แล้วนำมาแก้ไขไปทีละส่วนให้หมดไป
"ไม่ว่าการทำงานหรือการใช้ชีวิตตนเองจะมองทุกอย่างมี 2 ด้านเสมอ คือบวกและลบ เพราะฉะนั้นสำหรับตนเองจะมองด้านที่ดีก่อน เสมอเพราะจะทำให้เรารู้สึกดีและเป็นคนไม่ดูถูกคนอื่น แต่ส่วนเรื่องการทำงานหรือทำธุรกิจจะมอง ในด้านลบก่อนเสมอว่าถ้าทำลงไปอะไรจะเกิดในแง่ลบบ้าง และเราจะ ต้องวางแผนป้องกันอย่างไร และค่อยมาดูในแง่ดีว่าทำแล้วจะเกิดผลดีอย่างไรในอนาคต ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรในชีวิตคนเราควรมีสติรู้จักวิเคราะห์เสมอเพื่อให้เราสามารถดำเนินชีวิตไปได้อย่างมีความสุขและสิ่งที่เราทำจะประสบความสำเร็จ"