“ซีพีเอฟ” เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำตลอดกระบวนการผลิต หมุนเวียนนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ ร่วมแบ่งปันให้ชุมชน

วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

“ซีพีเอฟ” เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำตลอดกระบวนการผลิต หมุนเวียนนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ ร่วมแบ่งปันให้ชุมชน


บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ มุ่งมั่นเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตสูงสุดเดินหน้าเป้าหมายลดการดึงน้ำมาใช้ 30% ในปี 2568 ลดความเสี่ยงการขาดแคลนน้ำและมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน

นายสุชาติ วิริยะอาภา รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย สิ่งแวดล้อมและพลังงาน ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทฯตระหนักดีถึงการใช้ทรัพยากรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดทั้งพลังงานและน้ำจึงให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างเป็นระบบ เพื่อสนับสนุนแผนการใช้ทรัพยากรและลดความเสี่ยงของธุรกิจตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนโดยในปี 2562 บริษัทฯสามารถลดปริมาณการดึงน้ำมาใช้ต่อหน่วยการผลิตได้ 6% หรือ 9 ล้านลูกบาศก์เมตรและสามารถลดปริมาณการดึงน้ำโดยรวมได้ 36%เมื่อเทียบกับปีฐาน 2558 ซึ่งเกินกว่าเป้าหมายปี 2568 ที่กำหนดไว้ 30%

“ซีพีเอฟ เดินหน้าตามแผนการลดปริมาณการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพมาต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2559 และมีการดำเนินงานทุกธุรกิจจนถึงปัจจุบันเราดำเนินงานได้เกินกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้และจะมีการทบทวนเป้าหมายอีกครั้งหลังการประเมินผลการดำเนินงานในปีนี้”

สำหรับการใช้ทรัพยากรน้ำของ ซีพีเอฟ เน้นการเพิ่มประสิทธิภาพโดยใช้เทคโนโลยีการบำบัดการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่และการแบ่งปันให้ชุมชน เช่น ธุรกิจฟาร์มเลี้ยงกุ้งของบริษัทฯ ที่บางสระเก้า จังหวัดจันทบุรี และฟาร์มร้อยเพชร จังหวัดตราด เป็นโครงการนำร่องในการติดตั้งเทคโนโลยีการบำบัดน้ำ เช่น ระบบไบโอฟลอค (Bio-Floc) ซึ่งเป็นการเติมจุลินทรีย์ลงในน้ำเพื่อบำบัดสารละลายไนโตรเจนที่เกิดจากของเสียที่กุ้งขับถ่ายออกมาช่วยลดการเปลี่ยนถ่ายน้ำระหว่างการเลี้ยงกุ้งลงถึง 70% เทียบกับการเลี้ยงกุ้งโดยทั่วไปรวมถึงการนำเทคโนโลยี Ultra Filtration (UF) มากรองน้ำที่ผ่านการบำบัดแล้วหมุนเวียนนำกลับมาใช้เลี้ยงกุ้งได้มากกว่า 90% และกำลังเดินหน้านำความสำเร็จดังกล่าวไปขยายผลในฟาร์มอื่นๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ดำเนินธุรกิจสัตว์น้ำ

อีกหนึ่งตัวอย่างคือการนำเทคโนโลยี UF และ Reverse Osmosis มาใช้ในการกรองน้ำที่ผ่านการบำบัดแล้ว เพื่อหมุนเวียนกลับมาใช้ในเครื่องทำระเหย (Evaporator) ในระบบทำความเย็นที่โรงงานผลิตอาหารสำเร็จรูปหนอกจอกซึ่งสามารถทดแทนน้ำจากแหล่งภายนอกได้ถึง 216,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปีลดค่าใช้จ่ายได้กว่า 1.7 ล้านบาทต่อปี

นอกจากนี้ ธุรกิจอาหารสัตว์ การเลี้ยงสัตว์บกและธุรกิจอาหารยังช่วยลดการดึงน้ำจากธรรมชาติโดยมีการนำน้ำที่ผ่านการบำบัดแล้วหมุนเวียนกลับมาใช้ในกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิต เช่น รดน้ำต้นไม้ ล้างพื้นถนนและล้างโรงเรือนเลี้ยงสัตว์กว่า 30 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 21% ของการดึงน้ำมาใช้ทั้งหมด

ในส่วนของการแบ่งปันน้ำให้ชุมชนธุรกิจสุกรได้นำน้ำที่ผ่านการบำบัดจากระบบผลิตก๊าซชีวภาพไปกระจายส่งเป็น “น้ำปุ๋ย” ให้แก่ชุมชนรอบฟาร์มกว่า 447,000 ลูกบาศก์เมตร ครอบคลุมพื้นที่การเกษตร 3,650 ไร่ ช่วยบรรเทาปัญหาภัยแล้ง ช่วยลดต้นทุนการเพาะปลูกและสร้างความมั่นคงให้กับชุมชน

“การใช้ทรัพยากรน้ำและการจัดการน้ำอย่างเป็นระบบนอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพใช้น้ำของบริษัทฯ แล้วยังช่วยลดการดึงน้ำจากธรรมชาติและสามารถหมุนเวียนน้ำกลับมาใช้ใหม่ได้มากขึ้น”

นายสุชาติ กล่าวต่อไปว่า ซีพีเอฟ ยังประเมินความเสี่ยงด้านน้ำด้วยเครื่องมือ Aqueduct Water Risk Atlas 3.0 ซึ่งพัฒนาโดย World Resources Institute และเป็นเครื่องมือที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล เพื่อลดความเสี่ยงในการขาดแคลนน้ำจากสถานที่ตั้งของธุรกิจบริษัทและธุรกิจของคู่ค้าช่วยในการเลือกสถานที่ตั้งของธุรกิจและการทำแผนจัดการน้ำได้อย่างเหมาะสม

บริษัทฯยังสร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชนเพื่อรับฟังข้อเสนอแนะเกี่ยวกับใช้น้ำรวมถึงการส่งบุคลากรลงพื้นที่เพื่อสนับสนุนคู่ค้าธุรกิจในการจัดทำแผนรองรับความเสี่ยงจากการขาดแคลนน้ำและผลกระทบจากภัยแล้งที่อาจเกิดขึ้นกับชุมชนโดยรอบทั้งปัจจุบันและในอนาคต



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ