"ซัมซุง" ขึ้นชั้นหมายเลข 1 อิเล็กทรอนิกส์โลก

วันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2556



การเมืองเรื่องความมั่นคงระหว่างเกาหลีเหนือ กับเกาหลีใต้ อาจจะเขม็งเคร่งเครียดถึงขั้นสุ่มเสี่ยงต่อการระเบิดสงครามห้ำหั่นประหัตประหารกัน แต่บนสังเวียนธุรกิจค่าย "ซัมซุง" แห่งเกาหลีใต้กำลังสร้างผลงานยอดเยี่ยมเรี่ยมเร้เรไรไร้เทียมทาน กระทั่งถูกค่อนขอดเป็นรัฐบาลเงาที่ทรงอิทธิพลเหนือรัฐบาลแห่งชาติเกาหลีใต้

ความยอดเยี่ยมแห่งผลงานที่ค่ายซัมซุงสร้างเอาไว้ คือยอดขายในรอบปี 2555 ที่พุ่งทะยานขึ้นไปแตะระดับ 179,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 5.37 ล้านล้าน บาท ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงถึงร้อยละ 17 ของมูลค่ามวลรวมประชาชาติ (จีดีพี) ของประเทศเกาหลีใต้

รายได้ 179,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ค่ายซัมซุงทำเอาไว้เมื่อปีที่แล้ว ทำให้ค่ายซัมซุงได้รับการจัดอันดับให้เป็น "แชมเปี้ยนโลก" ในยุทธจักรธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์เหนือกว่าค่ายใดๆ ในโลก

หลายคนอาจมึนงงสงสัยในขีดความสามารถขั้นเทพของค่ายซัมซุงที่ประสบความสำเร็จในการก้าวขึ้นเป็นเจ้ายุทธจักรธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ด้วยเวลา 71 ปีนับจากจุดกำเนิดเมื่อปี 2481

เบื้องลึกเบื้องหลังที่เป็นพลังสร้างความสำเร็จยิ่งใหญ่แก่ค่ายซัมซุง และถือเป็นทรัพยากรที่ทรงคุณค่ายิ่งของค่ายซัมซุงคือ "คน"

พลังคนที่สำคัญที่สุดในการสร้างความสำเร็จแก่ค่าย ซัมซุงได้แก่ "ลี คุน ฮี" วัย 71 ปี ซึ่งขึ้นดำรงตำแหน่งประธานซัมซุงต่อจาก "ลี ยอง ซูล" ผู้เป็นบิดาบังเกิดเกล้าและเป็นผู้ก่อตั้งอาณาจักรซัมซุง เมื่อปี 2530 ภายหลังการสิ้นอายุขัยของลี ยอง ซูล

ทันทีที่ ลี คุน ฮี ขึ้นกุมบังเหียนซัมซุงแทนบิดาแบบเบ็ดเสร็จ เขาเริ่มขับเคลื่อนแผนเสริมสร้างคุณค่าแก่พนักงาน ซัมซุงเต็มพิกัดพร้อมๆ ไปกับการประกาศพันธกิจของซัมซุง ให้พนักงานได้รับรู้และถือปฏิบัติโดยทั่วกัน

"เราจะทุ่มเทสรรพกำลังและขีดความสามารถอย่างเต็มที่ ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีเยี่ยม เพื่อสังคมโลกที่ดีขึ้น" คือพันธกิจที่ลี คุน ฮี ประกาศต่อพนักงานซัมซุง

ลี คุน ฮี ยังได้สร้างเครื่องมือที่ทรงอานุภาพในการหล่อหลอมวัฒนธรรมการทำงานแบบซัมซุง ด้วยการทุ่มทุนเนรมิตศูนย์พัฒนาทรัพยากรบุคคลขึ้นเป็นการเฉพาะที่เมืองยอนกิน ซึ่งเป็นเมืองอันเป็นที่ตั้งของสวนสนุก เอเวอร์แลนด์ที่นักท่องเที่ยวรู้จักคุ้นเคย

ศูนย์พัฒนาทรัพยากรบุคคล ที่ถูกเนรมิตขึ้นตามแนวคิดของประธานซัมซุงคนปัจจุบัน ได้รับการออกแบบตกแต่งอย่างพิถีพิถันตามแบบสถาปัตยกรรมเกาหลี

ทุกๆ ตารางเมตรของการออกแบบตกแต่งภายใน ของศูนย์พัฒนาทรัพยากรบุคคลแห่งนี้จะเต็มไปด้วยความแปลกพิสดาร ทั้งมิติของภาพ แสง และเสียง เพื่อกระตุ้นจินตนาการและแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานแปลกใหม่ สำหรับเป็นพื้นฐานในการต่อยอดไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สู่ท้องตลาด

บางส่วนของศูนย์พัฒนาทรัพยากรบุคคล จะพบเห็น หมู่เมฆลอยฟ่องอยู่บนผืนพรมปูพื้น และโคมไฟตั้งโต๊ะขึ้น ไปหกคะเมนตีลังกาบนเพดานห้อง

บางส่วนของศูนย์จะผ่าโลกออกเป็น 2 ส่วน โดยส่วนหนึ่งเป็นโลกส่วนที่มีผลิตภัณฑ์ซัมซุงบุกตะลุยเข้าไป ปักธงยึดครองตลาดไว้แล้ว ขณะที่อีกส่วนหนึ่งเป็นเป้าหมายที่ซัมซุงเตรียมการวางแผนบุกเข้าไปยึดครอง

นอกจากนี้ ในศูนย์แห่งนี้ยังถูกกำหนดให้เป็นแหล่ง ถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ถือเป็นเคล็ดวิชาขั้นสูงของค่ายซัมซุง แก่บุคลากรก่อนที่จะปล่อยออกสู่สนามรบทางธุรกิจ

องค์ความรู้ชุดแรกที่บรรจุไว้ในศูนย์แห่งนี้ได้แก่ องค์ความรู้ว่าด้วยหลัก 3 พี ที่แปลกพิสดารไปจากหลัก 4 พีทางการตลาดทั่วไป

4 พี ที่เป็นหลักการพื้นฐานทางการตลาดทั่วไปประกอบด้วย Price-Place-Product-Promotion แต่หลักการ 3 พีฉบับซัมซุง ประกอบด้วย Product-Process-People

นั่นย่อมหมายถึงว่าคนซัมซุง ต้องรู้แจ้งเห็นจริงทั้ง "สินค้า" และ "กระบวนการผลิต กระบวนการตลาด" ตลอดรวมถึง "รสนิยม-พฤติกรรมของผู้บริโภค" ทั้งนี้และทั้งนั้นก็เพื่อให้คนซัมซุง มีขีดความสามารถในการบุกเบิกขยายตลาดใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ยิ่งไปกว่านั้นคนซัมซุง ที่ถูกเลือกให้เลื่อนขั้นขึ้นเป็นผู้บริหาร ก็จะถูกส่งเข้าไปในศูนย์พัฒนาทรัพยากรบุคคล เพื่อติดอาวุธ "ทักษะการจัดการที่เป็นสากล" ให้พร้อมสู้รบได้อย่างครบเครื่องในสมรภูมิธุรกิจ

อย่างไรก็ตาม กระบวนการสร้างคน และวัฒนธรรมขององค์กรธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์อันดับ 1 ของโลกอย่างซัมซุง ในทรรศนะของศาสตราจารย์ชาง ซี จิน แห่งมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ซึ่งเป็นผู้ประพันธ์หนังสือ "โซนีปะทะซัมซุง" (Sony vs. Samsung) มีความเห็นว่าซัมซุงเป็นเหมือนองค์กรทางการทหาร ที่ผู้นำสูงสุดทำหน้าที่ตัดสินใจกำหนดทิศทางการเคลื่อนทัพ ขณะที่พนักงานทุกคนต้องถือปฏิบัติตามโดยปราศจากข้อโต้แย้ง

ไม่ว่าจะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างไร แต่ทิศทางการเคลื่อนทัพของซัมซุงนับจากนี้เป็นต้นไปจนถึงปี 2563 จะเน้นหนักไปที่กลุ่มสินค้าแห่งอนาคต 5 รายการคือเครื่องมือแพทย์ แผงโซลาร์เซลล์ หลอดไฟแอลอีดี แบตเตอรี่สำหรับรถไฟฟ้า และธุรกิจไบโอเทค โดยกำหนดกรอบวงเงินอัดฉีดเอาไว้ 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 600,000 ล้านบาท


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ