จ็อบสตรีทฯ เปิดเครื่องมือใหม่ "ริชเชอร์ จ็อบ แอดส์" กินรวบตอบโจทย์บริษัทหาคน-คนหางาน เชื่อเว็บไซต์หางานอนาคตรุ่ง ไม่หวั่นสังคมออนไลน์
นางสาวฐนาภรณ์ สถิตพันธุ์เวชา ผู้จัดการสาขาประเทศไทย บริษัท จ็อบสตรีท (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากการเก็บ ข้อมูลจำนวนตำแหน่งงานที่ลงโฆษณาบนเว็บไซต์สมัครงานและสื่อเก่า เช่น สื่อสิ่งพิมพ์ ย้อนหลัง 3 ปี พบว่า แนวโน้มการลงโฆษณาตำแหน่งงานว่างบนเว็บไซต์หางานเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยอัตราการใช้สื่อออนไลน์ เทียบกับสื่อสิ่งพิมพ์ของประเทศไทย ปัจจุบันอัตราส่วนคิดเป็น 90:10 จากเดิม 69:31 ในปี 2553
สำหรับสื่อออนไลน์ที่มีการใช้มากที่สุดจากการสำรวจของบริษัท พบว่า เว็บไซต์หางานมีสื่อที่ถูกเลือกใช้จากทั้งผู้หางานและนายจ้างมากที่สุด ในขณะที่ช่องทางสังคมออนไลน์ยังมีการใช้น้อยมาก
แม้สังคมออนไลน์จะเป็นช่องทางที่มีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก แต่กลับไม่มีการใช้ด้านสมัครงานนั้น เนื่องมาจากความน่าเชื่อถือและความ ปลอดภัยของข้อ-มูล เช่น อัตราเงินเดือนหรือรายละเอียดเชิงลึกของตำแหน่งงานที่มักถูกเป็นความลับ
"แม้สังคมออนไลน์อย่าง Linkedin จะได้รับความนิยมในต่างประเทศ แต่ช่องทางดังกล่าวเหมาะสำหรับงานในตำแหน่งผู้บริหาร ระดับสูงที่ต้องการความสามารถเฉพาะบางประการ ทั้งยังเป็นรูปแบบของการแนะนำบุคคลในลักษณะบอกต่อ จึงรองรับผู้ใช้ได้น้อยกว่าเว็บไซต์"
+ เครื่องมือใหม่ตอบโจทย์ 2 ฝ่าย
นายอีริค ซีโต ผู้จัดการทั่วไป จ็อบสตรีทดอทคอม ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า การหาผู้ร่วมงานที่เก่งและมีความสามารถตรงตามความต้องการเป็นหนึ่งในความท้าทายของผู้ประกอบการในปัจจุบัน ส่งผลให้ผู้ประกอบการพยายามสร้างแบรนด์และนำเสนอข้อมูลต่างๆ เพื่อให้ผู้หางานเกิดความรู้สึกที่ดีต่อองค์กรและอยากร่วมงานในที่สุด
ในทางตรงข้ามผู้หางานเองก็ต้องการ ทราบข้อมูลของบริษัท ให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้เพื่อประกอบการตัดสินใจสมัครงาน
"บริษัทพบว่า ข้อมูลที่ทำให้ผู้สมัครงานตัดสินใจสมัครงานได้เร็วขึ้นคือ ข้อมูลบริษัทในเชิงลึก เช่น วัฒนธรรมองค์กร เงินเดือนและที่ตั้ง"
บริษัทได้เล็งเห็นปัญหาดังกล่าวจึงได้นำเครื่องมือ ริชเชอร์ จ็อบ แอดส์ (Richer Job Ads) มาใช้บนเว็บไซต์ของบริษัทเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ริชเชอร์ จ็อบ แอดส์ เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้หางานสามารถเลือกงานจากบริษัทต่างๆ ในอัตราเงินเดือนที่ตนพอใจได้ทันทีและสามารถดูรีวิวพร้อมรายละเอียดเกี่ยวกับงาน ที่ตั้งบริษัท และข้อมูลเชิงลึกของบริษัทก่อนตัดสินใจยื่นใบสมัคร ในขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการสามารถใช้ข้อมูล ภาพและวิดีโอ เพื่อการสร้างแบรนด์ได้เช่นกัน
บริษัทเชื่อว่าความสามารถดังกล่าวจะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของทั้งผู้ประกอบการที่ต้องการสร้างแบรนด์และผู้หางานที่ต้องการข้อมูลเชิงลึกได้เป็นอย่างดี
+ Passive Jobseeker ขุมทรัพย์จ้างงาน
ในส่วนของการแข่งขันระหว่างเว็บไซต์หางานนั้น นายจุลเดช มัชฉิมานนท์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท จ็อบสตรีท (ประเทศไทย) จำกัด อธิบายว่า ปัจจัยสำคัญยังคงเป็นจำนวนตำแหน่ง งานและจำนวนผู้สมัคร แต่ยังคงมีปัญหาในส่วนของคุณภาพผู้สมัครและผลลัพธ์ในการจ้างงาน
"ปัญหาที่เว็บไซต์และผู้ประกอบการพบอยู่ในขณะนี้คือ มีผู้สมัครด้อยคุณภาพจำนวนมากเข้าสู่ระบบคัดกรอง ทำให้ฝ่ายบุคคลต้องทำงานหนักในการคัดเลือกคนซึ่งสิ้นเปลืองทั้งเงิน เวลาและแรงงาน จนทำให้มีการจ้างงานน้อยขัดกับจำนวนตำแหน่งงานและผู้สมัครที่เยอะ"
ด้วยเหตุนี้บริษัทจึงมุ่งเน้นกลยุทธ์ที่จะเพิ่มคุณภาพของผู้สมัครและให้ผู้สมัครเลือกงานที่ตรงตามความสามารถของตน ซึ่งทำได้ด้วยการให้ข้อมูลที่ละเอียดและลึกผ่านเครื่องมือ ริชเชอร์ จ็อบ แอดส์
โดยกลุ่มเป้าหมายของบริษัทคือ Passive Jobseeker ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีงานประจำอยู่แล้ว แต่อาจเปลี่ยนงานเพื่อความก้าวหน้าหรือไปยังสายงานที่ตรงความสามารถมากขึ้น ในขณะเดียวกันกลุ่ม Passive Jobseeker จะต้องการข้อมูลที่ละเอียดและจูงใจมากกว่า ทั้งยังเลือกงานที่ตรงตามความสามารถจริง ถือเป็นกลุ่มที่มีคุณภาพมากกว่าผู้หางานทั่วไปและเป็นที่ต้องการของผู้ประกอบการ
+ พร้อมรับตลาด AEC
ในการรับมือการเปิดประชาคมอาเซียน นายอีริค กล่าวว่า บริษัทที่มีสาขาในหลายประเทศจะได้เปรียบในตลาด เนื่องจากในแต่ละประเทศจะมีข้อกำหนดด้านการประกาศรับสมัครงานที่แตกต่างกันออกไป เช่น ฟิลิปปินส์ที่ผู้ประกาศงานที่จะนำคนออกนอกประเทศจะต้องมีใบอนุญาตเฉพาะ
ซึ่งจุดนี้ทำให้บริษัทที่ปัจจุบันมีสาขาในฟิลิปปินส์จะสามารถดำเนินการด้านเอกสารได้ก่อนและสามารถลงประกาศได้ทันทีที่เปิดประชาคม โดยขณะนี้บริษัทเมื่อรวมจ็อบสตรีทแล้วบริษัทที่เข้าข่ายดังกล่าวมีประมาณ 2-3 รายเท่านั้น