บอร์ด”ศรีสวัสดิ์”มีมติเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น จ่ายปันผลงวดผลประกอบการปี 2562 ในอัตราหุ้นละ 1.40 บาท พร้อมแจกวอร์แรนต์ฟรี 25 หุ้นสามัญต่อวอร์แรนต์ 1 หน่วย กำหนดวันรับสิทธิ์ปันผล 7 ส.ค 2563 เผยเตรียมเรียกประชุมสามัญผู้ถือหุ้น 31 ก.ค นี้ เพื่อขออนุมัติ
นางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บริษัทศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน)หรือ SAWAD เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2563 มีมติให้เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติการจ่ายปันผลจากผลประกอบการปี 2562และกำไรสะสม ให้แก่ผู้ถือหุ้นจำนวน 1,922.47 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราหุ้นละ 1.40 บาท โดยจะกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับปันผลในวันที่ 7 สิงหาคม 2563 และกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 28 สิงหาคม 2563
นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัทยังมีมติให้เสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นอนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ(วอร์แรนต์)ของบริษัทครั้งที่ 2 (SAWAD-W2) จำนวนไม่เกิน 54.92 ล้านหน่วย เพื่อจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นตามสัดส่วนการถือหุ้น(Right offering) โดยไม่คิดมูลค่าในอัตรา 25 หุ้นสามัญเดิมต่อวอร์แรนต์ 1 หน่วย ทั้งนี้หากมีเศษของวอร์แรนต์ให้ปัดทิ้ง และวอร์แรนต์ 1 หน่วย สามารถใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนได้ 1 หุ้นในราคาหุ้นละ 100 บาท โดยจะมีการกำหนดรายชื่อผู้ที่มีสิทธิได้รับการจัดสรร SAWAD-W2ในวันที่ 18 สิงหาคม 2563
นางสาวธิดา กล่าวว่า คณะกรรรมการบริษัทยังมีมติให้เสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิม 1,373.15 ล้านบาทเป็น 1,428.07 ล้านบาท โดยออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 54.92 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท และจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 54.92 ล้านหุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิแปลงสภาพของ SAWAD-W2
ทั้งนี้บริษัทจะมีการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2563 เพื่อขออนุมัติมติดังกล่าวในวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 เวลา 13.30 น. ณ ห้องธาราเทพ อาคารธาราเทพฮอลล์ โรงแรมรามาดา บายวินแดม กรุงเทพฯ เจ้าพระยาปาร์ค
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้ยังมีอัตราเติบโตตามเป้าหมายอยู่ที่ประมาณ 20-30% แม้สภาพเศรษฐกิจโดยรวมจะได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่บริษัทได้รับผลกระทบน้อยมาก เพราะมีฐานลูกค้ากระจายไปทั่วประเทศ และกลุ่มลูกค้ายังมีความจำเป็นในการใช้สินเชื่อเพื่อเติมสภาพคล่องให้กับธุรกิจ ขณะเดียวกันบริษัทก็มีการติดตามดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด โดยตั้งเป้าหมายจะรักษาระดับตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)ให้อยู่ระหว่าง 3-5% ตามนโยบายของกลุ่มศรีสวัสดิ์
