รองเท้าแมสแข่งดุ ยี่ห้อไฮโซบลัฟกันแหลก

วันพุธที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

รองเท้าแมสแข่งดุ ยี่ห้อไฮโซบลัฟกันแหลก


ตลาดรองเท้าเดินขบวนคึกคัก ฝั่งแบรนด์แมสลุยหนักกว้านยอด "ดาร์เต้" ลดหนักฉลอง 30 ปี "นันยาง" ฉลอง 60 ปี จัดลิมิเต็ดเอดิชั่นเอาใจคนรากหญ้า ฝั่งแบรนด์ไฮโซบูมหนัก "ฟิตฟลอป" คว้าการเติบโตสูงสุด สะเทือนวงการรองเท้าในห้าง ล่าสุด "แนทเจอร์ไลเซอร์" ออกโรงสู้ ส่งรองเท้าเพื่อสุขภาพราคาถูกกว่า มั่นใจยอดยังพุ่ง พร้อมขยายตลาดเพื่อนบ้าน
ตลาดรองเท้าในประเทศไทย มีความหลากหลายเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในด้านราคาของรองเท้าแตะ ซึ่งเป็นรองเท้ากลุ่มหลักของคนไทย หากเป็นแบรนด์ระดับแมส จะมีราคาหลักสิบไปจน ถึงหลักร้อยบาท ซึ่งการแข่งขันอยู่ที่ราคา และความ เชื่อมั่นของแบรนด์ ซึ่งส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นไปที่ความทนทานเป็นหลัก
ส่วนแบรนด์ระดับกลาง-บน ซึ่งมักจะเป็นแบรนด์นำเข้าที่เสริมคุณค่าของแบรนด์ด้วยคุณสมบัติต่างๆ มีราคาตั้งแต่หลักพันบาท เช่น แบรนด์ ที่เป็นกระแสฮิตในช่วงปีที่ผ่านมาอย่าง "ฟิตฟลอป" ซึ่งมีราคาเฉลี่ยกว่า 3,000 พัน และบางแบรนด์ก็อาจจะมีรุ่นพิเศษที่มีราคาขึ้นไปถึงหลักหมื่น อาทิ ลิมิเต็ดเอดิชั่นจากแบรนด์ "ฮาวาเอียนนาส" รองเท้าแตะสัญชาติบราซิลที่เข้ามาทำตลาดในเมืองไทยแล้วเช่นกัน
+ ดาร์เต้ฉลอง 30 ปีลด 50%
นางอุทัยวรรณ ธีรวชิรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิคเทรดดิ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรองเท้าแบรนด์ "ดาร์เต้" และ "มาเรีย เปีย" เปิดเผยว่า ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีอัตราการเติบโตของรายได้ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ เฉลี่ยปีละประมาณ 15-20% หรือเติบโตเท่าตัวในรอบ 5 ปี โดยปัจจุบันมียอดขายประมาณ 1,200,000 คู่ต่อปี
ในโอกาสครบรอบ 30 ปี บริษัทได้ทุ่มงบการตลาดกว่า 50 ล้านบาท ด้วยการจัดกิจกรรมส่งเสริม การขาย มอบส่วนลด 50% ให้กับลูกค้าทั่วประเทศ ทุกวันที่ 30 ของเดือน จนถึงเดือนพฤศจิกายนนี้ พร้อมเดินสายจัดอีเวนต์ฉลอง 4 ภาค ในจังหวัดหลักๆ ได้แก่ เชียงใหม่ สงขลา ชลบุรี ขอนแก่น โดยได้เชิญดาราชั้นนำของประเทศ อาทิ แพนเค้ก-เขมนิจ จามิ กรณ์, ใหม่- ดาวิกา โฮร์เน่, เกรท-วรินทร ปัญหกาญจน์ ร่วมแสดงแบบคอลเล็กชั่นล่าสุด เพื่อเป็นการขอบ คุณลูกค้าปัจจุบัน และถือโอกาสแนะนำผลิตภัณฑ์ของบริษัทแก่กลุ่มลูกค้าใหม่
+ ศึกษาตลาดสยายปีกอาเซียน
ปัจจุบันมีช่องทางการจำหน่ายผ่านเคาน์เตอร์ ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ทั้งโรบินสัน เดอะมอลล์ เซ็นทรัล และห้างร้านตามต่างจังหวัด รวม 110 แห่ง และมีรีเทลช็อปภายใต้แบรนด์ดาร์เต้ 40 สาขา ทั่วประเทศ ทั้งนี้กลุ่มเป้าหมายหลักเป็นหญิงวัย 25-60 ปี ประมาณ 65% เด็ก 20% และชาย 10% ซึ่งบริษัทหวังเพิ่มสัดส่วนการตลาดของรองเท้าชายมากยิ่งขึ้นในอนาคต
บริษัทมีรายได้หลักจากการจัดจำหน่ายภาย ในประเทศ 90% ส่วนอีก 10% มาจากการส่งออกไปยังประเทศในยุโรปและเอเชีย เช่น ฝรั่งเศส, อิตาลี, มาเลเซีย และอินโดนีเซีย พร้อมวางแผนขยายฐาน การตลาดสู่ตลาดอาเซียน โดยขณะนี้ได้ดำเนินการจดเครื่องหมายการค้าของทุกแบรนด์ในกลุ่มอาเซียน และศึกษาความเป็นไปได้ในการเปิดรีเทลช็อป พร้อมเจรจากับพันธมิตรคู่ค้าเปิดเคาน์เตอร์ตามห้างสรรพ สินค้าในตลาดอาเซียน 3
+ นันยาง 60 ปี ย้ำผู้นำนักเรียน
ด้านรองเท้า "นันยาง" ซึ่งทำตลาดในไทยตั้งแต่ปี 2489 เริ่มจากการนำเข้ามาจากสิงคโปร์ จากนั้นได้เจรจาซื้อกรรมวิธีการผลิตมาเพิ่มเติม แต่ยังคง ใช้แบรนด์นันยางและตราช้างดาว พร้อมตั้งบริษัท นันยางอุตสาหกรรม ในปี 2496 ซึ่งปัจจุบัน "นันยาง" คือแบรนด์ไทย 100% และก้าวเข้าสู่ปีที่ 60 ในปีนี้
สำหรับแบรนด์ "นันยาง" เป็นผู้นำในตลาดรองเท้านักเรียน ซึ่งมีมูลค่ารวมประมาณ 5 พันล้าน บาท แบ่งเป็นตลาดรองเท้าผ้าใบประมาณ 3 พันล้าน บาท หรือ 61% ตลาดรองเท้านักเรียนหนังสีดำ สำหรับผู้หญิงมีสัดส่วนอยู่ที่ 38% ที่เหลือเป็นรองเท้าหนังสำหรับนักเรียนชาย ทั้งนี้คาดว่าตลาดรวมของรอง เท้านักเรียนจะเติบโตอีก 10% โดยปีนี้นันยาง ได้ขยายธุรกิจพัฒนารองเท้ารุ่น นันยาง HAVE Fun สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา อายุ 5-9 ปี เพิ่มเติม
นายชัยพัชร์ ซอโสตถิกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท นันยางอุตสาหกรรม จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้จะทำตลาดอย่างเข้มข้นเพื่อครองตำแหน่ง ผู้นำตลาดรองเท้านักเรียน ส่วนตลาดรองเท้าแตะ ได้เปิดตัว "นันยางแบล๊ค" รองเท้าแตะฟองน้ำหูคีบรุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นจำนวน 6,000 คู่ เพื่อฉลองครบ 60 ปีวางจำหน่ายในราคา 79 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ตัดสินใจซื้อได้ง่าย ตอกย้ำความเป็นแบรนด์รองเท้า เพื่อทุกคน
+ รองเท้าหรูชูเมืองไทยเป็นหัวหอก
สำหรับความเคลื่อนไหวของแบรนด์รองเท้าลำลองระดับบน ไม่นานมานี้ "fitflop" (ฟิตฟลอป) จากอังกฤษที่ได้ฉลองครบ 5 ปีในเมืองไทย ด้วยยอด ขายถล่มทลาย
นายสุกฤษ วารีราชอุทัย GM Business Development บริษัท สตาร์ แฟชั่น (2551) จำกัด เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมายอดขายของฟิตฟลอปเติบโตถึง 70% นับเป็นการเติบโตสูงสุดและทำลายสถิติการเติบโตของฟิตฟลอปทั่วโลก โดยมีการขายในเมืองไทยประมาณ 70,000 คู่ในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ฟิตฟลอปเป็นแบรนด์ที่ทำรายได้หลักให้กับบริษัท 30%
ตลาดรวมรองเท้านำเข้ามีประมาณ 2.5 หมื่นล้าน ฟิตฟลอปถือเป็นแบรนด์ที่มีรูปแบบ ที่แตกต่างจากตลาด และชูจุดขายจากรองเท้าเพื่อสุขภาพเป็นหลัก แต่ก็เป็นทั้งแฟชั่นและสุขภาพ ด้วยความนิยมอย่างมาก ทำให้ฟิตฟลอปเป็นแบรนด์ที่มีการลอกเลียนแบบอย่างหนัก ทั้งจากตลาดล่างและตลาดกลางที่มีการซื้อขายในศูนย์การค้า ซึ่งเรื่องดังกล่าว บริษัทได้มีการตรวจสอบและประสานงานกับทางตำรวจเพื่อเข้าจับกุมอย่างต่อเนื่อง
สำหรับกลยุทธ์หลักของฟิตฟลอป คือการเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ ที่ตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย โดยไม่เน้นการทำโปรโมชั่น ซึ่งการลดราคาสูงสุดจะไม่เกิน 30-40% และจะมีการจัดราย การลดราคาเพียง 1 ครั้งในรอบ 2 ปี
+ แนทเจอร์ไลเซอร์ฮึดสู้คู่แข่ง
นายคณิศร สุยะนันทน์ ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์รองเท้า บริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือไอซีซี ผู้จัดจำหน่ายรองเท้าแนทเจอไลเซอร์ จากอเมริกา เปิดเผยว่าสำหรับภาพรวมของตลาดรองเท้าผู้หญิงในปีนี้ แทบจะไม่มีอัตราการเติบโตเลย และคาดว่าอัตราการเติบโต โดยรวมในปีนี้จะทรงตัว เนื่องจากกำลังซื้อที่น้อยลง แต่ทั้งนี้คู่แข่งก็ลดน้อยลงเช่นเดียวกัน ซึ่งตัวเลขตลาดรวมทั้งหมดไม่สามารถตอบได้ แต่หากเป็นตลาดรวมรองเท้าผู้หญิงในห้างสรรพสินค้า จะมีมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยไอซีซีมีส่วนแบ่งตลาดตลาดประมาณ 25%
"หลังจากที่แบรนด์ฟิตฟลอปเปิดตัวสู่ตลาดได้เพียงไม่นาน ส่งผลให้ไปกินส่วนแบ่งของตลาดอื่น และทำให้รองเท้าสุขภาพได้รับความสนใจจากผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น แต่ไม่สามารถคำนวณตัวเลขได้ว่ามีมูลค่าตลาดประมาณเท่าใด"
ดังนั้น บริษัทจึงได้ทุ่มงบกว่า 10 ล้านบาทในการเปิดตัวรองเท้าแนทเจอไลเซอร์คอลเล็กชั่นใหม่คือ "แนทเจอร์ไลเซอร์ ไลท์สเต็ป" ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อพัฒนาคุณสมบัติของรองเท้าให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในเมืองไทย และตลาดเอเชียมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ จะมีให้เลือกทั้งหมด 12 แบบ ทั้งแบบส้นสูงและส้นเตี้ยราคา 2,390-2,900 บาท ซึ่งราคาจะถูกกว่าฟิตฟลอปประมาณ 50% โดยเปิดตัวที่ประเทศไทยเป็นแห่งแรกในโลก และที่เลือกพัฒนาสินค้าในกลุ่มรองเท้าแตะ เนื่องจากเป็นกลุ่มรองเท้าที่มียอดขายดีมากในประเทศแถบอากาศร้อน
+ มั่นใจยอดขายพร้อมไปเพื่อนบ้าน
นอกจากจะให้ความสำคัญในเรื่องสุขภาพเท้าแล้ว ด้วยการคิดค้นพัฒนาวัสดุโครงสร้างรองเท้าที่ให้ความรู้สึกนุ่มสบายเวลาสวมใส่อย่างแท้จริงแล้ว ยังเน้นเรื่องการพัฒนาดีไซน์การออกแบบรองเท้าให้มีความเป็นแฟชั่น เพื่อให้สวยอินเทรนด์ ซึ่งการออกคอลเล็กชั่นดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นตลาดให้เติบโต เนื่องจากผู้บริโภคให้ความสำคัญกับรองเท้าสุขภาพมากขึ้น
ปัจจุบัน รองเท้าแนทเจอร์ไลเซอร์ ส่งออก 30-40 ประเทศทั่วโลก มีฐานการผลิตใหญ่อยู่ที่ประเทศจีนและไทย โดยจีนมีกำลังการผลิต 70-80 ล้านคู่ต่อปี ขณะที่ไทยมีกำลังการผลิต 40,000-50,000 คู่ต่อเดือน โดย 90% เป็นการผลิตเพื่อรองรับตลาดในประเทศ ที่เหลือเป็นการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ ซึ่งตลาดใหญ่ของไทย คือ ประเทศญี่ปุ่น และดูไบ รองลงมาจะเป็นตุรกี และฟิลิปปินส์ อีกทั้งยังมีการส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ลาว และกัมพูชา แต่ยังถือเป็นตัวเลขการส่งออกที่น้อยอยู่
นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสนใจที่จะเข้าไปลงทุนในประเทศเวียดนามอีกด้วย โดยอาจจะเข้า ไปดำเนินการในรูปแบบของการร่วมทุนกับพันธมิตรในการทำตลาด ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ในขณะนี้
ส่วนยอดขายของรองเท้าแนทเจอร์ไลเซอร์ในปี 2555 อยู่ที่ 400-500 ล้านบาท เติบโต 10% และคาดว่าหลังจากเปิดตัวคอลเล็กชั่นใหม่ จะทำให้รายได้ทั้งปีเติบโต 5-6% แต่ถ้าเฉพาะช่วงครึ่งปีหลังจะเติบโต 10%


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ