คุณภาพเป็นหัวใจ.. "นที โกทนุท"

วันเสาร์ที่ 06 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

คุณภาพเป็นหัวใจ..


กล่าวได้ว่าปัจจุบันเป็นยุคทองของเหล่าอุปกรณ์พกพา หรือแกดเจ็ต ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์สมาร์ทโฟน แท็บ เล็ต กล้องถ่ายภาพ เครื่องเล่นเกมและอื่นๆ แต่ยังมีแกดเจ็ตอีกชนิดหนึ่งที่แม้ผู้คนจะยังพกติดตัว แต่อาจจะหลงลืมไปว่ามันเคยเป็นอุปกรณ์ที่ทันสมัยเช่นกัน...
แกดเจ็ตชิ้นนั้น คือ นาฬิกาข้อมือ อุปกรณ์บอกเวลาขนาดเล็กที่เกือบทุกคนพกติดตัวเป็นประจำก่อนแกดเจ็ตชนิดอื่นๆ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นสินค้าราคาแพงที่ผลิตในยุโรป หรือญี่ปุ่น แต่ในปัจจุบันผู้คนทั่วไปสามารถหานาฬิกามาคาดบนข้อมือได้ในราคาไม่กี่ร้อยบาท
หนึ่งในผู้ที่ทำให้นาฬิกาข้อมือกลายเป็นสินค้าที่คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ก็คือ "นที โกทนุท" ประธานบริษัท เอ็น เค ไทม์ จำกัด ผู้ผลิตนาฬิกาข้อมือยี่ห้อ ออสติน (Austin)
จุดเริ่มต้นความสนใจในธุรกิจผลิตนาฬิกาข้อมือของ "นที" เริ่มเมื่อครั้งทำงานเป็นลูกจ้างที่โรงงานคอสโม ในปี 2516 ซึ่งโรงงานดังกล่าวรับผลิตอะไหล่ และแพ็กเกจจิ้งให้แก่นาฬิกาชื่อ ดังหลายยี่ห้อ หลังจากไต่เต้าจากเสมียน จนเป็นพนักงานฝ่ายขาย "นที" ได้สะสม ประสบการณ์ ความรู้ และสร้างเครือข่ายจากการติดต่อลูกค้าชาวต่างชาติตลอดการทำงานกว่า 18 ปี
"หลังจากเรียนรู้สะสมประสบการณ์จากการทำงานได้ช่วงหนึ่ง คิดว่าเราน่าจะสามารถทำธุรกิจนี้ด้วย ตัวเองได้ จึงตัดสินใจออกมาทำธุรกิจ ของตนเอง โดยได้สร้างแบรนด์ออสตินขึ้น ใช้เวลากว่า 5 ปี ในการสร้างแบรนด์ด้วยความคิดที่จะเน้นคุณภาพเป็นสำคัญ"
สำหรับสินค้านาฬิกานั้น คุณภาพ เป็นหัวใจสำคัญต่อการสร้างความเชื่อมั่นในหมู่ผู้บริโภค ซึ่งบริษัทใช้โรงงานเดียวกับที่ผลิตนาฬิกาให้กับแบรนด์ใหญ่ สินค้าที่ได้จึงมีระดับคุณภาพทัดเทียมกันในราคาที่ต่ำกว่า ส่งผลให้บริษัทได้เปรียบสินค้าเฮาส์แบรนด์อื่นๆ
ด้านกลยุทธ์การตลาดนั้น นทีอธิบายว่า บริษัทมุ่งไปที่ตลาดล่างในประเทศไทย โดยเน้นให้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ จึงวางราคาสินค้าที่ 1,000-3,000 บาท โดยขายผ่านตัว แทนจำหน่ายเป็นหลัก นอกจากผลิตนาฬิกาแล้ว บริษัทยังนำเข้านาฬิกายี่ห้อ Casio ในฐานะตัวแทนอิสระอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม หัวใจหลักของออสติน คือ "คุณภาพเป็นหัวใจ" เพราะคุณภาพจะเป็นตัวชี้ว่าผู้เล่นรายนั้นๆ จะสามารถอยู่ในตลาดได้นานเพียงใด ซึ่งจุดนี้ตนได้ยึดถือเป็นคติประจำใจในการทำธุรกิจ
ในส่วนของการบริหาร นที กล่าว ว่า การบริหารคนเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของธุรกิจ ซึ่งสำหรับตนแล้วจะสร้างความสัมพันธ์ที่เหมือนครอบครัวมากกว่านายจ้างลูกจ้าง เนื่องจากความใกล้ชิดนี้จะนำไปสู่ความไว้วางใจที่มากกว่าลูกจ้างทั่วไป
"ส่วนตัวมองว่าอนาคตของเฮาส์แบรนด์ไทย จุดสำคัญอยู่ที่การสู้กับตนเองในการหาช่องทางสร้างฐานลูกค้ากลุ่มนิช ซึ่งเป็นตลาดที่ แบรนด์ใหญ่เข้าถึงได้ยากกว่า และผู้บริโภคกลุ่มนี้ให้การต้อนรับเฮาส์แบรนด์ดีกว่าตลาดแมส"


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ