Toggle navigation
วันจันทร์ ที่ 23 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
วิเคราะห์-บทความ-คอลัมน์
หัวใจวายปิดฉากนางสิงห์เหล็ก "แธ็ตเชอร์"
หัวใจวายปิดฉากนางสิงห์เหล็ก "แธ็ตเชอร์"
วันเสาร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2556
Tweet
สัจธรรมแห่งวัฏสงสารว่าด้วย "เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย" ที่ตอกย้ำความขลังศักดิ์สิทธิ์ให้ทุกคนได้ประจักษ์แจ้งชัดอยู่ทุก เมื่อเชื่อวัน ได้ทำหน้าที่ปิดฉากชีวิต "บารอนเนสมาร์กาเร็ต แธ็ตเชอร์" เจ้าของฉายา "นางสิงห์เหล็กแห่งอังกฤษ" ด้วยวัย 87 ปี เมื่อวันจันทร์ที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา
ลอร์ด เบลล์ โฆษกประจำตัวของบารอนเนส แธ็ตเชอร์ ผู้ซึ่งได้รับยกย่องให้เป็นนายกรัฐมนตรีผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของอังกฤษในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 ได้แถลงข่าวการถึงแก่อสัญกรรมของเธอเมื่อตอนเช้าของวันที่ 8 เมษายน โดยระบุถึงสาเหตุการเสียชีวิตว่า "หัวใจวาย"
พลันที่ข่าวการถึงแก่อสัญกรรมของบารอนเนส แธ็ตเชอร์ ถูกประกาศอย่างเป็นทางการ สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบ็ธ ได้แสดงความอาลัยอย่างสุดซึ้งต่อการถึงแก่อสัญกรรมของเธอ พร้อมกับทรงรับสั่งให้จัดพิธีศพของเธออย่างยิ่งใหญ่เสมอด้วยพิธีศพของสมเด็จพระราชชนนี หรือ "ควีนส์มัม" และเจ้าหญิงไดอาน่า ขณะที่รัฐบาลอังกฤษ ประกาศลดธงครึ่งเสา เพื่อแสดงความไว้อาลัยของเธอในทันที
บรรดาผู้นำประเทศยักษ์ใหญ่ทั้งหลายต่างพากัน "เว้นวรรค" จากความใจจดใจจ่อต่อสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ในคาบสมุทรเกาหลี หันไปแสดงความไว้อาลัยต่อการถึงแก่อสัญกรรมของเธอโดยพร้อมเพรียงกัน
ความยิ่งใหญ่ของบารอนเนสแธ็ตเชอร์ หรืออีกนัยหนึ่งนางสิงห์เหล็กมาร์กาเร็ต แธ็ตเชอร์ ที่ไม่เพียงจะได้รับการยกย่องนับถือจากผู้นำระดับโลก แต่จะเป็นความยิ่งใหญ่ที่อยู่เคียงคู่โลกใบนี้ตลอดไปน่าจะเป็นผลสืบเนื่องมาจากคุณค่าแห่งผลงานที่เธอสร้างเอาไว้ตลอดระยะเวลา 11 ปีที่เธอดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศอังกฤษ ระหว่างปี 2522-2533
ห้วงเวลาตอนนั้นเศรษฐกิจอังกฤษต้องเผชิญกับวิบากกรรมแสนสาหัสจากวิกฤตการณ์น้ำมันโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปี 2524 ที่รัฐบาลอังกฤษประสบปัญหาขาดดุลงบประมาณแสนสาหัส แถมอัตราการว่างงานก็สูงลิบลิ่วถึงร้อยละ 11.9
จังหวะเวลานั้นเธอ ซึ่งเป็นผู้นำที่มาจากพรรคอนุรักษนิยม จะถูกขบวนการแรงงานที่เป็นแนวร่วมพรรคแรงงาน ที่เป็นฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลทำการประท้วงขับไล่ กระทั่งไม่อาจรักษาเก้าอี้นายกรัฐมนตรีเอาไว้ได้ แต่ความจริงกลับกลายเป็นตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง
เธอใช้ความจริงใจ และความเด็ดขาดในการสยบขบวนการแรงงานให้อยู่ในแถวได้อย่างน่าอัศจรรย์ ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังใช้ความกล้าหาญทุบหม้อข้าวขบวนการแรงงานรัฐวิสาหกิจ ด้วยการสั่งเข้าเกียร์เดินหน้าดำเนินการ "แปรรูปรัฐวิสาหกิจ" อย่างเอาจริงเอาจัง
ความกล้าผสมผสานความมุ่งมั่นของเธอในการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ว่าไปแล้วมีเดิมพันที่สูงยิ่งรออยู่ นั่นคือความเป็นความตายของฐานะการคลังแห่งชาติ
หากเธอไม่ตัดสินใจดำเนินการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ฐานะการคลังของรัฐบาลอาจต้องพบจุดจบอย่างน่าสมเพชเวทนาในลักษณะเดียวกับที่รัฐบาลหลายชาติในภาคีสหภาพยุโรปกำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นกรีซ ตุรกี หรือไซปรัส
ความเด็ดเดี่ยวของนางแธ็ตเชอร์ ในการตัดสินใจแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ไม่เพียงส่งผลดียิ่งต่อฐานะการคลังของประเทศ ช่วยให้ประเทศอังกฤษรอดพ้นจากภาวะล้มละลาย แต่ยังทำให้ภาระค่าใช้จ่ายของรัฐบาลในการโอบอุ้มอุปถัมภ์รัฐวิสาหกิจลดน้อยลง
ในทางกลับกันการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ยังมีส่วนอย่างสำคัญในการส่งเสริมสนับสนุนเสรีภาพในการแข่งขันกันทางธุรกิจอย่างเต็มที่ ซึ่งทำให้ภาคธุรกิจเอกชนต้องเร่งปรับปรุงพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพให้ดีขึ้น เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันให้สูงขึ้น
นางสิงห์เหล็กมาร์กาเร็ต แธ็ตเชอร์ ยังสร้างมิติใหม่แก่ระบบเศรษฐกิจอังกฤษ ด้วยการลดอัตราภาษีแก่ผู้มีเงินได้ให้ต่ำลง เพื่ออัดฉีดเพิ่มเติมกำลังซื้อแก่ภาคประชาชน และภาคเอกชน ขณะเดียวกันก็ยังผ่อนคลายกฎระเบียบทางการเงิน เพื่อส่งเสริมให้เกิดความคล่องตัวในการดำเนินธุรกรรมทางการเงิน และรักษาความเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญของโลกให้อยู่ยั้งยืนยงเคียงคู่ประเทศอังกฤษ
ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังได้สำแดงความกร้าว และแกร่งชนิด ที่ยากจะมีหญิงคนใดเสมอเหมือน ให้โลกได้ประจักษ์ถึง 2 ครั้ง 2 คราว
คราวแรก เมื่อปี 2525 เธอสั่งลุยแหลกกับอาร์เจนติน่า เพื่อรักษาอธิปไตยเหนือหมู่เกาะฟอร์คแลนด์เอาไว้ กระทั่งอาร์เจนติน่าต้องยอมยกธงขาว และไม่กล้าตอแยกับเธออีกเลย
คราวที่สอง เมื่อปี 2527 เธอตกเป็นเป้าถูกลอบสังหาร โดยกลุ่มก่อการร้ายไออาร์เอ แต่เธอยังคงยืนกรานปฏิบัติหน้าที่ตามที่มีการนัดหมายไว้ล่วงหน้าตามปกติ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆ ที่ชีวิตของเธอเพิ่งแคล้วคลาดจากการตายมาหมาดๆ
วันนี้แม้ "มาร์กาเร็ต แธ็ตเชอร์" จะถึงแก่อสัญกรรมไปแล้ว แต่ผลงานที่เธอใช้หัวใจที่บริสุทธิ์ สะอาด และภักดีต่อชาติบ้านเมืองของเธอ ได้สร้างสมเอาไว้จะเป็นอมตะ ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา และรำลึกอาลัยตลอดไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
ภาษีบุหรี่ ค้างคา "แช่แข็ง" ไม่เดินหน้...
...
อะไรคือ ? โจทย์ใหญ่ กระทรวงการคลัง ที่มา...
...
ttb analytics มองเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็ง...
...
มาตรการ MPOWER เสาหลักกฎหมายควบคุมผลิตภั...
...
“ทักษิณ” พ่อมดการเมือง????...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ