ชูแบงก์ "ไอซีบีซี" บริษัทอันดับ 1 "ชุดขาว" แซง "ผีแดง" มูลค่าสูงสุด

วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2556

ชูแบงก์


"ฟอร์บส์" ยกแบงก์ "ไอซีบีซี" ของจีน ครองแชมป์บริษัทที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกไปครองเป็นครั้งแรก แซง "เอ็กซอน โมบิล" บริษัทด้านพลังงานที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ บริษัทจีนพาเหรดติดอันดับเพียบ อาเซียนโดดเด่นเรื่องการ เติบโต ส่วน "ราชันชุดขาว" เขี่ย "ผีแดง" ขึ้นเป็นสโมสรมูลค่าสูงสุดในโลก

นิตยสารฟอร์บส์ของสหรัฐฯ ได้จัดอันดับบริษัทชั้นนำระดับโลก 2,000 แห่ง โดยมีรายได้รวมกันทั้งสิ้น 38 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,102 ล้านล้านบาท) มีกำไรทั้งสิ้น 2.43 ล้านล้านดอลลาร์ มีสินทรัพย์รวมกัน 159 ล้านล้านดอลลาร์ และ มีมูลค่าตลาดทั้งสิ้น 39 ล้านล้านดอลลาร์ และมีพนักงานรวมกันทั่วโลก 87 ล้านคน

สำหรับผลการสำรวจครั้งนี้ จัดทำโดย อาศัยข้อมูลจากบริษัทกว่า 2,000 แห่งใน 63 ประเทศ โดยมีสหรัฐฯ มากที่สุด (543 แห่ง) ญี่ปุ่น (251 แห่ง) และจีน (136 แห่ง) และมี 11 ประเทศที่ติดอยู่ในรายชื่อดังกล่าว ที่มีบริษัทเพียงแห่งเดียว อาทิ นิวซีแลนด์ สาธารณรัฐเชก และเวียดนาม โดยปัจจัย 4 ด้านที่ใช้ในการพิจารณา ได้แก่ ยอดขาย กำไร สินทรัพย์ และมูลค่าตลาด

ขณะที่กลุ่มประเทศที่มีความโดดเด่นในแง่ของการเติบโต จากปัจจัยทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ สิงคโปร์ ไทย และมาเลเซีย ขณะที่เบลเยียม ตุรกี และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีอัตราการเติบโตด้านมูลค่าตลาดมากที่สุด ในระดับตัวเลข 2 หลัก เมื่อเทียบกับปีก่อน

ธนาคารเพื่ออุตสาหกรรมและการพาณิชย์แห่งประเทศจีน (ไอซีบีซี) แซงบริษัท "เอ็กซอน โมบิล" ยักษ์ใหญ่ด้านการผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากสหรัฐฯ ขึ้นครองแชมป์บริษัทมหาชนขนาดใหญ่ที่สุดประจำปีนี้เป็นครั้งแรก ขณะที่เอ็กซอน โมบิล แชมป์เก่าปีที่แล้ว หล่นไปอยู่อันดับที่ 5 แต่ยังคงครองแชมป์บริษัทที่มีผลกำไรสุทธิมากที่สุดเป็นปีที่สองติดต่อกัน ด้วยปริมาณ 44.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.3 ล้าน ล้านบาท) ส่วน "เจพีมอร์แกน เชส" วาณิชธนกิจใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ เจ้าของอันดับ 2 เมื่อปีที่แล้ว ร่วงลง 1 ขั้นมาอยู่อันดับที่ 3 ปล่อยให้ ธนาคารการก่อสร้างจีน (ซีซีบี) แซง ขึ้นมาคว้าตำแหน่งรองแชมป์แทน ส่วน "เจเนอรัล อิเล็กทริก" หรือจีอี ของสหรัฐฯครองอันดับ 4

ตามมาด้วยธนาคาร "เอชเอสบีซี" ในอันดับ 6 "รอยัล ดัชต์ เชลล์" ในอันดับ 7, ธนาคารเพื่อการเกษตรแห่งจีน (อันดับ 8), "เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์" ของนายวอร์เรน บัฟเฟต์ ในอันดับ 9 และบริษัท "ปิโตร ไชน่า" บริษัทด้านพลังงานใหญ่ที่สุดของจีนในอันดับ 10

ด้าน "แอปเปิล" ผู้ผลิตอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ อยู่ ในอันดับ 15 ร่วมกับ "วอลล์มาร์ต" เครือข่ายห้างค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ยังคงเป็น บริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก แม้มูลค่าตลาดจะลดลงถึง 24% เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาก็ตาม ขณะที่วอลล์มาร์ตยึดตำแหน่ง แชมป์บริษัทที่มียอดขายมากที่สุดในโลกไปครอง จาก "รอยัล ดัชต์ เชลล์" กลุ่มอัลลายแอนซ์จากเยอรมนี และซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ จากเกาหลีใต้

ขณะที่ "ฮิวเลตต์-แพคการ์ด" หรือเอชพี เป็นบริษัทที่อันดับลดลงมากที่สุด จาก อันดับ 67 เมื่อปี 2012 ตกลงมาที่อันดับ 438 ในปีนี้ โดยมีอันดับลดลงในทั้ง 4 ปัจจัยหลัก

ในส่วนบริษัทของไทยนั้น มีบริษัทที่ติด อันดับ 16 แห่ง หน่วยงานที่ครองอันดับ อาทิ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) อยู่ในอันดับที่ 144 ตามด้วยธนาคารไทยพาณิชย์ ในอันดับ ที่ 477, ธนาคารกสิกรไทย ในอันดับที่ 524, บริษัท ปตท. เคมิคอล จำกัด (มหาชน) อันดับ ที่ 607, บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย (อันดับ 633), ธนาคารกรุงเทพ (อันดับ 640), ธนาคารกรุงไทย (อันดับ 735) และบริษัท เจริญโภคภัณฑ์ อาหาร จำกัด (มหาชน) (อันดับ 914)

ขณะเดียวกัน ฟอร์บส์ ยกให้ "ราชันชุดขาว" รีล มาดริด แซงหน้า "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นสโมสรฟุตบอลที่มีมูลค่า สูงสุด มีมูลค่าสูงถึง 3.3 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 9.9 หมื่นล้านบาท เพิ่มสูงขึ้นจากปีที่แล้วถึง 76% แม้ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นจากปีที่แล้วมากถึง 42% มาอยู่ที่ 3.2 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 9.6 หมื่นล้านบาท ก็ตาม แต่ก็ยังต้องตกลงมาอยู่ ในอันดับที่ 2 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่พวกเขาอยู่ในตำแหน่งนี้นับตั้งแต่ ฟอร์บส์ ทำการสำรวจวงการลูกหนังเมื่อปี 2004 ขณะที่ บาร์เซโลนามีมูลค่าสโมสร 2.6 พันล้านดอลลาร์ ราว 7.8 หมื่นล้านบาท อาร์เซน่อล 1.33 พันล้านดอลลาร์ ประมาณ 4 หมื่นล้าน บาท และบาเยิร์น มิวนิค 1.31 พันล้านดอลลาร์ ประมาณ 3.9 หมื่นล้านบาท


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ