Toggle navigation
วันอังคาร ที่ 20 พฤษภาคม 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
การตลาด-อีคอมเมิร์ซ
สื่อใต้ดิน ส่องโฆษณาถึงค้าปลีก "เอกลักษณ์ ยิ้มวิไล" ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและพัฒนาธุรกิจ BMN
สื่อใต้ดิน ส่องโฆษณาถึงค้าปลีก "เอกลักษณ์ ยิ้มวิไล" ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและพัฒนาธุรกิจ BMN
วันพุธที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2556
Tweet
สัมภาษณ์พิเศษ
แค่ข่าวว่ารถไฟฟ้าความเร็วสูงจะวิ่งผ่านไปไหน ที่ดินในแถบนั้นก็ขึ้นพรวดพราด นับประสาอะไรกับรถไฟฟ้าในเมืองหลวง ที่กลายเป็นประเด็นเชิงธุรกิจ เช่น ป้ายโฆษณาที่ระบุว่า ใกล้รถไฟฟ้าเพียง 10 นาที 200 เมตร 1 กิโลเมตร ฯลฯ ที่คนกรุงเห็นจนชินตา
รถไฟฟ้าใต้ดินเป็นระบบขนส่งมวลชนใต้ดินที่ทำให้พื้นที่ด้านบนแพงขึ้นทันตา แต่หากย้อนไปในช่วงเริ่มต้นเมื่อ 9 ปีที่ผ่านมา จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินถือว่ายังน้อยมาก เพราะตอนนั้นหลายคนยังกลัวกับคำว่า "ใต้ดิน" ผิดจากตอนนี้ที่จะไปไหนมาไหน ก็มีรถไฟฟ้าใต้ดินพาไปเชื่อมจนถึงที่หมาย เรื่องราวใต้ดินจึงมีความหมายมากขึ้นกว่าเดิม ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท แบงคอก เมโทร เน็ตเวิร์คส์ จำกัด หรือ BMN ผู้บริหารสื่อโฆษณาและพื้นที่ค้าปลีกในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) โดยวันนี้สยามธุรกิจได้มีโอกาสพูดคุยกับ "เอกลักษณ์ ยิ้มวิไล" ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและพัฒนาธุรกิจ BMN เกี่ยวกับเรื่องของสื่อใต้ดินในวันนี้
+ อะไรคือสื่อใต้ดินในยุคนี้
ปัจจุบันสื่อใน MRT ประกอบด้วย 3 รูปแบบ คือ สื่อนิ่งอย่างพวกตู้ไฟ สติกเกอร์ ในขบวน หรือป้ายต่างๆ รูปแบบต่อมาคือสื่อดิจิตอล เช่น จอพีไอดี (PID : Passen ger Information Display) ในขบวนและชานชาลา อีกรูปแบบคือสื่อผสม ซึ่งเป็นสื่อ ที่กำลังโดดเด่น เนื่องจากการผสมผสานความสามารถของโลกดิจิตอลกับสื่อเดิมเช่น ป้ายที่มีเสียง มีกลิ่น เป็นต้น
จากความกลัวกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ทำให้ทุกวันนี้สื่อในรถไฟฟ้าใต้ดิน เป็นที่นิยมของผู้วางแผนโฆษณา โดยกลุ่มแรกที่นิยมมากที่สุดคือ สินค้าอุปโภคบริโภค รองลงมาคือกลุ่มรถยนต์ สถาบันการเงิน และอสังหาริมทรัพย์ นั่นอาจเป็นเพราะ จำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นทุกปี ปัจจุบันรถไฟฟ้าใต้ดินมีผู้ใช้บริการกว่า 300,000 คนต่อวัน เป็นกลุ่มคนทำงานเป็นหลัก มีรายได้มากกว่า 20,000 บาทต่อคน
จุดเด่นที่สำคัญของสื่อในรถใต้ดินคือ ประสิทธิภาพของการรับรู้ (Brand Awareness) เพราะเป็นพื้นที่ปิด ที่ไม่มีสิ่งใดแย่งชิงสายตาของผู้โดยสาร
+ อะไรคือสิ่งแตกต่างของโฆษณาใต้ดิน
แม้ว่าสื่อทั่วไปอย่างป้ายโฆษณาก็ยังเป็นที่นิยม แต่ที่น่าสนใจคือลูกค้าต้องการทำแคมเปญที่ครอบคลุมทุกสื่อ เวลาผู้โดยสารลงมาจากบันไดเลื่อนก็จะเห็นตั้งแต่ทางเข้าไปจนถึงทางออก อย่างที่เป็นทอล์กออฟ เดอะ ทาวน์เช่นเครื่องสำอางยี่ห้อหนึ่ง ใช้โฆษณาตั้งแต่ข้างบนจนถึงข้างล่างทั้งซ้ายและขวา และมีเสียงประกอบ เรียกได้ว่าประมาณ 2 นาทีลูกค้าจะอยู่กับแบรนด์นั้นแบบเต็มๆ
ดังนั้น ในด้านของแบรนด์อะแวร์เนสนับว่า MRT มีประสิทธิภาพมากเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งในตลาด เรามีจุดต่างซึ่งเป็นจุดเด่นคือ สภาพแวดล้อมแบบปิด คุณไปที่อื่น อาจจะมองเห็น แต่มีสิ่งดึงสายตาไปอีกมาก แต่ลองมาใต้ดินสภาพแวดล้อมปิด นี่คือสิ่งที่กล่าวได้ว่า ปริมาณไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่คุณภาพของการมองสื่อสำคัญกว่า มันขึ้นอยู่กับคุณภาพว่าเมื่อคนเห็นสื่อแล้วรับรู้หรือไม่ ขณะเดียวกันการโฆษณาก็ต้องทำให้โดนไปเลย เพราะในพื้นที่และเวลาอันจำกัด หากมีโฆษณาหลายๆ แบรนด์ เชื่อว่าคนจะจำได้ยาก เพราะยืนแค่แป๊บเดียวก็ไปแล้ว เพราะฉะนั้นเราจึงเน้นเรื่องคุณภาพ จึงไม่แนะนำว่าซื้อแค่กล่องเดียว ควรจะสร้างเป็นเรื่องราว แล้วคนจะอยู่ในบรรยากาศนั้นก็จะจดจำเรื่องราวได้
+ ปริมาณการจองพื้นที่โฆษณาเป็นอย่างไรบ้าง
อย่างสถานีสุขุมวิท มันมีทั้งพื้นที่คนแน่นหรือพื้นที่ไม่ค่อยมีคนเดินจึงไม่สามารถ ขายได้หมด แต่ของดีต้องขายเต็ม ของที่ด้อยลงมาหน่อย ต้องมีกิจกรรมส่งเสริมการขาย ลด แลก แจก แถม ดังนั้น กล่าวได้ว่าพื้นที่หลักเต็มตลอดทั้งปี ส่วนพื้นที่รองๆ ก็จับโปรโมชั่นมาใช้
+ กระแส 3จี จะสร้างปรากฎการณ์อย่างไร
ผู้บริโภคใช้เวลาอยู่นอกบ้านมากขึ้น เดิมทีไปตลาดสด แต่ตอนนี้เข้าห้าง และกินข้าวนอกบ้านเป็นส่วนใหญ่ บทบาทสื่อต้องเปลี่ยน ในอดีตคนกลับบ้านไปดูทีวี อยู่ในรถฟังวิทยุ แต่ยุคนี้ดิจิตอลมีบทบาท และเข้าถึงได้ทุกที่ ขณะที่สื่อก็เยอะขึ้น จึงต้องหาจุดเด่นหรือความน่าสนใจเข้ามาเป็นตัวแข่งขัน
ขณะที่เรื่องของ 3จี มีการเตรียมความพร้อมในด้านสัญญาณ รวมทั้งความก้าวหน้าของการสื่อสาร สื่อต่างๆ จะสามารถสร้างกิจกรรมหรือทำโปรโมชั่นเองได้ จาก QR Code หรือ Touch Point ตัวอย่างที่เกาหลี บริเวณชานชาลา มีการจัดทำตู้เย็นเสมือนจริง ทำจากสติกเกอร์ แค่เอามือถือแปะของที่สั่งก็ส่งที่บ้านเลย และกระแสนี้จะเริ่มมาแล้ว โดยสื่อกับสื่อจะเชื่อมโยงกัน ทั้งสื่อป้ายโฆษณาและสื่อที่เป็นมือถือของเรา ดังนั้น นักการตลาดเขาจึงมองว่าคนเรามีชีวิต 24 ชั่วโมง หลับไปไม่กี่ชั่วโมง จะแทรกซึมสื่อไปในชีวิตเขาได้อย่างไร
+ บทบาทของสื่อใต้ดินจะไปในทิศทางไหน
ทิศทางต่อไปจะเห็นความร่วมมือกันมากขึ้น ระหว่างเจ้าของสื่อกับนักการตลาด หรือเจ้าของสื่อกับเจ้าของสื่อด้วยกันในการสร้างแคมเปญร่วมกันให้น่าสนใจ ซึ่งเราคิดว่าเราเป็นพันธมิตรกับใครก็ได้ เพื่อให้วงการมันมีอะไรใหม่ที่ขับเคลื่อนให้อุตสาหกรรมโฆษณาเติบโตไปด้วยกัน
หลายประเทศก้าวไกลมากเรื่องของรูปแบบสื่อ เช่น ที่เซี่ยงไฮ้ ฮ่องกง อเมริกา แต่ด้านความคิดสร้างสรรค์ คนไทยติดอันดับต้นๆ ของโลก เชื่อว่าต่อไปเมื่อสื่อในเมืองไทยพัฒนาขึ้น อีกทั้งยังมีต้นทุนที่ต่ำลง เรื่องของความคิดสร้างสรรค์จะถูกนำมาใช้มากขึ้น จะเห็นอะไรแปลกใหม่มากขึ้น
+ ปีนี้จะมีอะไรใหม่ให้เห็นบ้าง
การมองหาพันธมิตร เป็นเรื่องที่เราให้ความสนใจและอยากให้เกิดขึ้นในปีนี้ เช่น เจ้าใดบอกว่าอยากเปิดตัวเรื่องของการ ทำซูเปอร์มาร์เก็ตร่วมกับรถไฟฟ้าใต้ดินก็มาร่วมมือกัน ซึ่งเชื่อว่าทำได้ โดยการใช้ป้ายโฆษณาเป็นสื่อผสมกับสื่อดิจิตอลที่ทำให้ตอบโต้กับลูกค้าได้ จัดโปรโมชั่นร่วมกับตั๋วรถไฟก็ได้ สุดท้ายคนที่ได้ประโยชน์คือผู้โดยสารหรือผู้บริโภคนั่นเอง ส่วนจะเป็นพันธมิตรด้านค้าปลีกก็ได้ หรือสื่อกับสื่อเองก็ได้เช่นกัน จะเป็นห้าง ร้านค้า สินค้าออนไลน์ หรือโทรทัศน์ มาได้หมด เพียงมีไอเดียเก๋ๆ แล้วมาคุยกันได้
+ สนใจตลาดเอสเอ็มอีบ้างหรือไม่
ตอนนี้เริ่มมีเอสเอ็มอีเข้ามาบอกว่า โฆษณาแค่กล่องเดียวเขาก็อาจจะพอใจแล้ว เพราะเขาไม่ต้องการเหมือนแบรนด์ใหญ่ จึงอยากจะแนะนำเอสเอ็มอีว่า อย่าคิดว่าลงรถใต้ดินต้องมีเงินเป็นล้าน เราเปิดให้คุณสามารถซื้อได้หมด เพราะอยากเห็นเอสเอ็มอีหน้าใหม่เกิดขึ้น นี่คือการส่งเสริมระบบเศรษฐกิจ เพราะฉะนั้นเวลามีเอสเอ็มอีมา เราจะมีข้อเสนอพิเศษให้ ราคาสมเหตุสมผล ยกตัวอย่าง แต่ละพื้นที่ใน 18 สถานี ก็จะมีเอสเอ็มอีของแต่ละพื้นที่แตกต่างกัน บางรายมีบริษัททัวร์อยู่ข้างบน เขาไม่ต้องการให้คนทั้งกรุงเทพฯ รับรู้หรอก ขอให้คนที่เดินทางวันละเป็นหมื่นคน เห็นเขาทุกวันแล้วมาเป็นลูกค้าเขาวันละ 10 รายเขาก็แฮปปี้แล้ว
+ ในส่วนของพื้นที่ค้าปลีกเป็นอย่างไรบ้าง
ปัจจุบันมีพื้นที่ค้าปลีกอยู่ 4 จุด ซึ่งพื้นที่เช่าเต็ม 100% ในสถานีกำแพงเพชร จตุจักร และพหลโยธิน ส่วนสุขุมวิท จะทำการปรับ ปรุงในเร็วๆ นี้ให้มีความเป็นไลฟ์สไตล์มากขึ้น และมีแผนการเพิ่มพื้นที่ค้าปลีก อีก 1 จุด คือสถานีพระราม 9 ซึ่งตอนนี้พื้นที่ประมาณ 2,000 ตารางเมตร มียอดจองเข้ามาแล้ว 70% มีทั้งแบรนด์ดังและสินค้ากลุ่มเอสเอ็มอี บางร้านของดีแต่เข้าห้างไม่ได้ก็มาที่เรา ทั้งนี้มีแผนการการเพิ่มพื้นที่ค้าปลีกเป็น 11 สถานีภายใน 3 ปี
+ วางเป้าหมายทางรายได้ไว้อย่างไรบ้าง
สำหรับรายได้ของ BMN ในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 300 ล้านบาท รายได้จากสื่อ 70% เทเลคอม 15% ค้าปลีก 15% โดยปีนี้คาดว่าจะเติบโต 30% เนื่องจากการลงทุนด้านจอที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนเรื่องจอขนาดใหญ่ที่จะติดตั้งทุกสถานี (ขนาดความยาว 6-8 เมตร) รวมงบลงทุนทั้งหมด ในปีนี้ประมาณ 200 ล้านบาท นอกจากนั้นยังมีรายได้จากการให้เช่าสัญญาณ 3G คลื่นความถี่ 2100 MHz ซึ่งทาง BMN ได้ทำการติดตั้งอุปกรณ์ส่งสัญญาณแล้วภายใต้งบประมาณกว่า 20 ล้านบาท
+ ทิศทางของโฆษณาใต้ดินยังเติบโตได้อีกมาก
ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ผนวกกับความคิดสร้างสรรค์ พร้อมด้วยจำนวนผู้โดยสารที่มากขึ้นทุกวัน จากวันละกว่า 3 แสนคนก็คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก เพราะกรุงเทพฯ รถติดมาก อีกอย่างพฤติกรรมที่เริ่มคุ้นเคย เราเห็นคนกรุงเทพฯ เปลี่ยนพร้อมรถไฟใต้ดิน แรกๆ เขาไม่กล้าลง แต่เดี๋ยวนี้ คนทำงานใช้ชีวิตประจำวันกับรถไฟฟ้าใต้ ดินไปแล้ว ส่วนพัฒนาการของสื่อใต้ดินก็จะ มีความแปลกใหม่มากขึ้น เร็วๆ นี้จะได้เห็นอะไรที่แปลกหูแปลกตาอย่างแน่นอน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
"นันยาง" เปิดกลยุทธ์รุกตลาดรับเปิดเทอมปี...
...
Brother เผยแผนปี 68 มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ เ...
...
“เทวกรรมโอสถ” ปั้นสินค้านวัตกรรมใหม่บรรเ...
...
TOA เผย "4SEASONS 2in1" ฉลองยอดขายทะลุ 1...
...
ท็อปส์ ผนึก เอฟแอลเอส กรุ๊ป เปิดตัว ‘EV...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ