Toggle navigation
วันจันทร์ ที่ 23 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
วิเคราะห์-บทความ-คอลัมน์
หลากเหตุการณ์อัปมงคลรุมเร้าโลก ไอเอ็มเอฟ ฟันธง เศรษฐกิจปีนี้หงอย!
หลากเหตุการณ์อัปมงคลรุมเร้าโลก ไอเอ็มเอฟ ฟันธง เศรษฐกิจปีนี้หงอย!
วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2556
Tweet
ยามนี้โลกทั้งใบกำลังตกอยู่ภายใต้บรรยากาศแห่งการอกสั่นขวัญผวา อันเนื่องมาจากสารพัดสารพันสาเหตุ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เหตุฆาตกรรมหมู่ในรายการมาราธอนที่นครบอสตัน มลรัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา
ตอนเช้าของวันจันทร์ที่ 15 เมษายน ณ บริเวณเส้นชัยของรายการแข่งขันวิ่งมาราธอนของนครบอสตัน ซึ่งถือเป็นต้นแบบการแข่งขันวิ่งมาราธอนแห่งแรกของโลกที่กำเนิดขึ้นเมื่อ 116 ปีที่แล้ว จู่ๆก็เกิดระเบิดตูมตามขึ้นมา 2 ระลอก เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทันที 3 ราย และบาดเจ็บอีก 176 ราย โดยในจำนวนเหยื่อระเบิดที่บาดเจ็บ มีอาการบาดเจ็บสาหัสมากถึง 58 ราย
พลันที่สิ้นเสียงระเบิด และเหยื่อระเบิดล้มระเนระนาดเป็นใบไม้ร่วง เจ้าหน้าที่เอฟบีไอได้ระดมกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียด เพื่อค้นหาหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงตัวการที่ก่อเหตุโศกนาฏกรรม แต่ทุกอย่างยัง "มืดแปดด้าน"
เมื่อยังคลำหาต้นสายปลายเหตุแห่งการระเบิด ไม่ได้ เอฟบีไอจึงออกประกาศขอความร่วมมือประชาชนทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์และมีการเก็บบันทึกภาพทั้งก่อนและหลังการเกิดเหตุระเบิด ให้ส่งภาพทั้งหมดไปให้แก่เอฟบีไอ เพื่อใช้เป็นข้อมูลแกะรอยหาเบาะแสไปสู่การจับกุมตัวผู้ก่อเหตุระเบิดโดยเร็วที่สุด
เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองบอสตัน ยอมรับว่าเหตุการณ์ ระเบิดเมื่อวันที่ 15 เมษายน ถือเป็นคดีอาชญากรรมที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าทางการสหรัฐอเมริกาหลีกเลี่ยงที่จะเชื่อมโยงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเข้ากับการก่อการร้าย แต่พยายามจำกัดความรุนแรงไว้แค่คดีอาชญากรรม
กรณีโศกนาฏกรรมในรายการแข่งขันวิ่งมาราธอน เมื่อวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา นับเป็นเหตุการณ์ความรุนแรงที่อุบัติขึ้นในเกมกีฬาซ้ำเป็นครั้งที่ 6 ในรอบ 41 ปี นับจากปี 2515 เป็นต้นมา
เมื่อปี 2515 เดือนกันยายน เกิดขบวนการชาวปาเลสไตน์ ที่เรียกตัวเองว่าเป็นขบวนการกันยายนทมิฬ หรือ "Black September" จู่โจมค่ายนักกีฬาอิสราเอล ในหมู่บ้านนักกีฬาระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค ที่นครมิวนิค ประเทศเยอรมนี และสังหารนักกีฬาชาวอิสราเอลไป 2 ราย พร้อมกับจับตัวประกันไป 9 ราย เพื่อข่มขู่รัฐบาลอิสราเอล ให้ปล่อยนักโทษการเมืองชาวปาเลสไตน์ จำนวน 200 คนแลกเปลี่ยนกับชีวิตตัวประกัน
สุดท้ายลงเอยด้วยการสูญเสียทั้งผู้ก่อการร้าย ตัวประกัน และเจ้าหน้าที่ตำรวจเยอรมันที่สละชีพเข้าระงับเหตุ
ถัดมาในปี 2545 เดือนพฤษภาคม เกิดเหตุระเบิด "คาร์บอมบ์" ในศึกแชมเปี้ยนส์ลีกรอบเซมิไฟนอล ระหว่างทีมรีลแมดริด กับทีมบาร์เซโลนา ใจกลางกรุงแมดริด ประเทศสเปน เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บ 17 ราย
ปี 2551 เดือนเมษายน เกิดเหตุระเบิดระหว่างการแข่งขันวิ่งมาราธอน ที่ชานกรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา เป็นเหตุให้รัฐมนตรีอาวุโสของรัฐบาลศรีลังกาต้องสังเวยชีวิตพร้อมกับผู้บริสุทธิ์อีก 15 ราย
ปี 2552 เดือนมีนาคม นักกีฬาคริกเก็ตทีมชาติศรีลังกาพร้อมด้วยผู้ช่วยโค้ชรวม 8 ชีวิต ถูกลอบสังหารระหว่างการเดินทางเข้าร่วมแข่งขันกีฬาคริกเก็ต ที่ปากีสถาน
ปี 2553 เดือนมกราคม เกิดเหตุระเบิดในการแข่งขันฟุตบอลแห่งชาติโตโก
นอกจากข่าวร้ายจากโศกนาฏกรรมทางการกีฬาแล้ว โลกยังต้องเผชิญกับข่าวร้ายเรื่องปากท้องอีกอย่างน้อย 3 เรื่อง
เรื่องแรก คือข่าวร้ายจากการทรุดตัวลงอย่างรุนแรงของราคาทองคำในตลาดโลก ที่หัวทิ่มหัวต่ำลงอย่างต่อเนื่องจากที่เคยทำสถิติสูงสุดไว้ที่ออนซ์ละ 1,920 ดอลลาร์สหรัฐเมื่อปี 2554 มาเตาะแตะต้วมเตี้ยมแค่ 1,350 ดอลลาร์สหรัฐ แถมยังมีแนวโน้มที่จะทรุดตัวลงต่อเนื่อง
เหตุปัจจัยสำคัญที่ฉุดราคาทองคำให้หกคะมำคว่ำคะเมนมาจากท่าทีของบรรดาประเทศในสหภาพยุโรปที่กำลังจมปลักหนี้ เตรียมที่จะปลดแอกหนี้ด้วยการนำทองคำสำรองที่สะสมไว้ออกเทขาย
เรื่องที่สอง คือข่าวร้ายเกี่ยวกับชีพจรเศรษฐกิจจีน ที่ส่อเค้าจะอ่อนระทวยลง
เรื่องสุดท้าย คือข่าวร้ายจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ที่ประกาศปรับลดอัตราการขยายตัวของทั้งเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจประเทศชั้นนำที่ทรงอิทธิพลต่อเศรษฐกิจโลกในรอบปีนี้
เหลียวซ้าย แลขวา หันหน้า หันหลัง ยังควานความสดใสสวยงามที่พอจะไว้วางใจได้ในโลกใบนี้ไม่เจอะเจอเอาซะเลยในยามนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
ภาษีบุหรี่ ค้างคา "แช่แข็ง" ไม่เดินหน้...
...
อะไรคือ ? โจทย์ใหญ่ กระทรวงการคลัง ที่มา...
...
ttb analytics มองเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็ง...
...
มาตรการ MPOWER เสาหลักกฎหมายควบคุมผลิตภั...
...
“ทักษิณ” พ่อมดการเมือง????...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ